Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

พาชม หอดูดาวสองทะเล แหล่งเรียนรู้ดาราศาสตร์และอวกาศมาตรฐานสากลที่สงขลาบ้านเรา

เริ่มโดย สงขลามีเดีย, 13:58 น. วันที่ 13 08 62

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

สงขลามีเดีย

พาชม หอดูดาวสองทะเล แหล่งเรียนรู้ดาราศาสตร์และอวกาศมาตรฐานสากลที่สงขลาบ้านเรา

หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาสงขลา สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ องค์การมหาชน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์และอวกาศ ที่มีมาตรฐานสากลแห่งแรกของ 14 จังหวัดภาคใต้ และแห่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562

          และได้เปิดให้บริการประชาชน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นหอดูดาวเต็มรูปแบบ และเป็นแลนด์มาร์กการเรียนรู้ดาราศาสตร์แห่งใหม่ของภาคใต้ ที่เปิดประสบการณ์ด้านดาราศาสตร์ให้กับนักเรียนนักศึกษา เยาวชน ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์และอวกาศได้อย่างครอบคลุม

          นายเฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้อำนวยการหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา กล่าวว่า หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในประเทศไทย บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ เพราะฉะนั้นตำแหน่งตรงนี้สามารถสังเกตซีกฟ้าใต้ได้ดีที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งลักษณะภูมิอากาศจะแตกต่างจากที่อื่น โดยในช่วงฤดูฝนสามารถสังเกตวัตถุท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี

          นอกจากนั้นหอดูดาวแห่งนี้ยังได้ชื่อว่า "หอดูดาวสองทะเล" ตั้งอยู่บนเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สามารถมองเห็นทะเลอ่าวไทย อีกทั้งฝั่งตะวันตกจะมองเห็นทะเลสาบสงขลา เราถึงเรียกกันว่า "หอดูดาวสองทะเล" ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามเหมือนยกหอดูดาวกริฟฟิธในลอสแอนเจลิสมาไว้ที่ประเทศไทย และอยากให้ทุกคนได้เข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

          หอดูดาวภูมิภาคสงขลา ไม่เป็นเพียงแต่แหล่งเรียนรู้ทางดาราศาสตร์ของภาคใต้เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีพันธกิจในการร่วมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดเวลาที่ใช้ในพิธีทางศาสนาของอิสลาม อันเป็นการสนับสนุนภารกิจของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกด้วย

          สำหรับหอดูดาวสงขลาจะเปิดให้บริการห้องฟ้าจำลองระบบฟูลโคมดิจิทัล ในวันอังคาร-อาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าธรรมเนียม นักเรียน นักศึกษา 30 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท และทุกวันเสาร์จะมีกิจกรรมดูดาว (NARIT Public Night) ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy

สงขลามีเดีย

การเดินทางมายังหอดูดาวสงขลา มาจากแยกสำโรงใช้ถนนสงขลา-นาทวี มาเลี้ยวขวาที่แยกไฟแดงสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 12 เข้ามานิดเดียวจะมีทางแยกขึ้นเขาสร้างใหม่ฝั่งขวามือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สามารถขับขึ้นไปได้เลย แต่รถบัสห้ามขึ้นเพราะทางแคบและลาดชันโดยจะมีรถรับส่งคอยให้บริการ โดยหอดูดาวสงขลา เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.30 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าธรรมเนียมเฉพาะการเข้าชมห้องฟ้าจำลองระบบฟูลโคมดิจิทัล นักเรียน นักศึกษา 30 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท และทุกวันเสาร์จะมีกิจกรรมดูดาว (NARIT Public Night) ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ติดต่อสอบถาม 074 300868 และทางเฟสบุ๊ค หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา https://www.facebook.com/1901812286760360
สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy


Siriwandammo

ฝาก-ถอน ภายใน 1 นาที จีคลับ หรือ Gclub

somdee meemak

เที่ยวบ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่ ชมวิวทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่. ดื่มด่ำกับบรรยากาศนาขั้นบันไดท่ามกลางวิถีสโลว์ไลฟ์อย่างเต็มที่ พักผ่อนเมื่อเข้าสู่หน้าฝน หลายๆ คนคงกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนชิลล์ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนแบบนี้จะอบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งความเขียวขจีและความสดชื่น โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ปลายเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงเริ่มปลูกข้าว ถ้าใครไปช่วงนี้จะได้เห็นข้าวงอกสะท้อนน้ำบนท้องฟ้าสร้างความประทับใจ กลางเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนตุลาคม นาข้าวเขียวขจี ใครไปช่วงนี้ก็จะเห็นนาข้าวเขียวขจี เข้านาขั้นบันไดตื่นเช้ามาเห็นทะเลหมอกรอบด้านบรรยากาศดูโรแมนติกสุดๆ ช่วงกลาง ต.ค.-ต้น พ.ย. ที่นาข้าวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและเที่ยวช่วงนี้ก็น่าจะสัมผัสความประทับใจได้อีกแบบหนึ่ง บ้านป่าบงเปียงในฤดูหนาว หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับบรรยากาศการมาเที่ยวบ้านป่าบงเปียงในช่วงปลายฝนต้นหนาว เน้นบรรยากาศช่วงกรีนซีซั่น แต่ถ้าอดทนอีกนิด บ้านป่าบงเปียงหน้าหนาวก็น่าเที่ยวและมีเสน่ห์ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน อากาศเย็นๆ ก็เริ่มมาทักทายคุณ เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าจะพบดวงดาวต่างๆ ระยิบระยับ และหากฟ้าเป็นใจก็อาจมี jili โอกาสพบทางช้างเผือกได้ ท่ามกลางความเงียบสงบรอบด้าน นับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของบ้านป่าบงเปียงในฤดูหนาวที่ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัส บ้านป่าบงเปียง ทำอย่างไร? เนื่องจากบ้านป่าบงเปียงไม่มีไฟฟ้าใช้ กิจกรรมหลักของทริปนี้จึงเน้นไปที่การเดินชมนาขั้นบันได และชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพลิดเพลินกับสิ่งรอบตัว ต้นข้าว แมลงปอ หนอน ท้องฟ้า และสายหมอก แช่เท้าในลำธารเล็กๆ จิบกาแฟชิลๆ หรือพกหนังสือเล่มโปรด การอ่านหนังสือเป็นการพักผ่อนที่ช่วยเยียวยาทั้งจิตใจและร่างกายได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากบ้านป่าบงเปียงไม่มีไฟฟ้าใช้ กิจกรรมหลักของทริปนี้จึงเน้นไปที่การเดินชมนาขั้นบันได และชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพลิดเพลินกับสิ่งรอบตัว ต้นข้าว แมลงปอ หนอน ท้องฟ้า และสายหมอก แช่เท้าในลำธารเล็กๆ จิบกาแฟชิลๆ หรือพกหนังสือเล่มโปรด การอ่านหนังสือเป็นการพักผ่อนที่ช่วยเยียวยาทั้งจิตใจและร่างกายได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศนาขั้นบันไดสวยๆ แล้ว สำหรับใครที่ยังมีแรงเหลืออยากหาที่เที่ยวแถวบ้านป่าบงเปียง ซึ่งถ้าใครเข้า-ออกผ่านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ก็คงจะหนีไม่พ้นการเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจต่างๆของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) หรือถ้าชอบแนวสงบๆที่แม่แจ่ม มีวัดเก่าแก่หลายแห่ง เช่น วัดป่าแดด วัดพระเอิร์น วัดยางหลวง และระเบียงบ้านตีนผา อีกหนึ่งจุดเช็คอิน วิวสวย แถมอาหารราคาไม่แพง เป็นบรรยากาศแบบบ้านๆ ที่ไม่พลุกพล่านจนเกินไป น่าจะเป็นอีกความทรงจำที่ดีในการมาเยือนบ้านป่าบงเปียง

somdee meemak

เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ ม่วนใจ๋. เติมพลังความสุขของคุณให้เต็มที่ เที่ยวน่าน(โซนเหนือ) 3 วัน 2 คืน หาวันพักผ่อนและเติมเต็มชีวิตของคุณ ชีวิตช้า. ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์. สัมผัสความสุขตรงหน้าอย่างเข้มข้น เก็บไว้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เมื่อพูดถึงการเดินทางไปเมืองน่าน เชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกถึงบรรยากาศวิถีชีวิตที่หนาวเย็นและเชื่องช้า แถมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนถึงทิ้งใจไว้ที่เมืองน่าน และเพราะว่าน่านมีที่เที่ยว jili เยอะมาก แต่ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองน่าน (โซนภาคเหนือ) 3 วัน 2 คืน ลุ้นกันว่าอยู่ที่ไหน น่าน (โซนภาคเหนือ) มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เที่ยวน่านโซนเหนือสำหรับทริปนี้ ประกอบด้วยพื้นที่ปัว ท่าวังผา และเชียงกลาง พื้นที่นี้จัดเป็นพื้นที่เกษตรกรรมโดยเฉพาะนาข้าว เนื่องจากภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ และยังกลายเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การเดินทาง ที่พัก วิวทุ่งนาก็มักจะใช้เป็นจุดขาย แต่ละฤดูกาลมีความสวยงามที่แตกต่างกัน การเดินทางสู่เมืองน่าน (โซนภาคเหนือ) การเดินทางสู่จังหวัดน่านสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวหรือนั่งเครื่องบินไปสนามบิน สำหรับการเดินทางภายในจังหวัดสามารถติดต่อเช่ารถตู้ได้ หากใครสะดวกก็สามารถเช่ารถขับได้เช่นกัน โดยขับรถจากตัวเมืองน่านเพียงประมาณ 50-70 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถ เน้นเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามสามารถกลับเช้าและเย็นได้ แต่ถ้าดีไม่อยากเดินทางเร่งรีบเกินไปลองพักสัก 1-2 คืนแล้วจะประทับใจมากขึ้นครับ .

somdee meemak

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว จดรายชื่อไว้แล้วไปลุยกันที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวอิ่มเอมความสุขกับการเดินทางในช่วงรอยต่อช่วงเทศกาลสายฝนจะหมดไปและลมหนาวเข้าเยี่ยมชมจะลองสักสัก ในส่วนลึกปลายฝนต้นหนาวถือครองช่วงนาทีทองเพื่อเริ่มต้นท่องเที่ยวเพราะคุณจะได้สัมผัสถึงความเข้มข้นของเขียวขจีมาก ๆ สายลมเย็นสอบสวนสายฝนจะจากยังไม่เราไป เสียหมดแต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับแฟนๆ ที่ต้องการท่องเที่ยว และช่วงรอยต่อฤดูกาลจาก jili ไปที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวมาถึงความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเลือกแบบจุใจและอาจเกิดขึ้นได้ หากแต่ลองเปลี่ยนช่วงเวลาการเดินทางไม่แน่นะว่า... อาจจะพบความงามที่ต่างออกไป นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระจังหวัดน่านโหลดโครงการพระราชดำริของพระบาทหลวงสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่ภูเขาเพื่อแก้ปัญหาความยากจนที่พิสูจน์ได้จะอิ่มเอมใจไปกับภาพนาข้าวเขียวขจีโอบล้อมด้วยภูเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจดูสวยงามตาจะบอกให้ไปเที่ยวช่วงหน้าฝน และบ่อยครั้งที่จะได้เห็น-พฤศจิกายนและสามารถรับชมอากาศหนาวพร้อมกับนาข้าวสีเหลืองทองที่เริ่มออกรวงดูสวยงามอีกครั้งแบบดอยภูคาจังหวัดน่านจุดชมวิวจุดชมวิวอุทยานแห่งชาติ ดอยภูคาเพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาแบบพาโนรามาได้ต่อเนื่องจะเป็นอย่างไรทะเลหมอกได้ในช่วงวิวของดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลาดขึ้นสู่ขอบฟ้าอย่างช้าๆ ท่ามกลางอากาศที่ระบบควบคุมจิตใจและ การควบคุมดูแลในบางครั้งจะลานกางเต็นท์ให้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ