กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะมอบของละศีลอด ต้อนรับสู่เดือนรอมฎอนอันประเสริฐ
ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์และต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายจิตวัต วงศ์วาสนา หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์โรงไฟฟ้าจะนะ และผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ เป็นตัวแทนโรงไฟฟ้าจะนะ มอบของละศีลอดให้กับประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่อำเภอจะนะ ทั้ง 14 ตำบล โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและโต๊ะอิหม่ามของแต่ละมัสยิดเป็นตัวแทนรับมอบในครั้งนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน และรักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีไว้สืบไป
ซึ่งเดือนรอมฎอนในปีพุทธศักราช 2568 ตรงกับฮิจเราะห์ศักราช 1446 โดยเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และสำหรับเดือนรอมฎอนนั้นเป็นเดือนที่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกจะเข้าสู่การถือศีลอดในช่วงหลังพระอาทิตย์ขึ้น ไปจนถึงพระอาทิตย์ตกของทุกวัน ตลอดทั้งเดือน

"เสรีย์-วินัย-อดินันท์" 2 หน้าเก่า 1 หน้าใหม่ พร้อมเปิดตัวชิงสนามเมืองบ้านพรุ
วินัย รัตนพันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านพรุ พร้อมนำทีมบ้านพรุรวมพลังป้องกันแชมป์อีก 1 สมัย แต่เที่ยวนี้คู่แข่งเปิดตัวเร็วและบุกทำแต้มอย่างต่อเนื่องแล้วถึง 2 ทีม คืออดีตนายก 3 สมัย เสรีย์ นวลเพ็ง ฟอร์มทีมสันติธรรม ผ่านคนรุ่นใหญุ่รุ่นใหม่ลงสู้ศึกอีกครั้ง และอดีตลูกหม้อหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล อดินันท์ หนูอุไร จัดทีมบ้านพรุก้าวหน้า ลงท้าชิงเปิดตัวแต่หัววัน
แม้ยังไม่ขึ้นป้ายหาเสียงแต่เป็นที่ชัดเจนว่านายวินัย รัตนพันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านพรุคนปัจจุบันที่จะหมดวาระ 27 มีนาคมนี้ พร้อมลงป้องกันแชมป์ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ 11 พฤษภาคม 2568 อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าตัวยังมั่นใจในผลงานและฐานเสียงที่สะสมเพิ่มขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาว่าจะป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย
ว่าที่ร้อยตรีเสรีย์ นวลเพ็ง ทีมสันติธรรม แม้จะเสียท่าในการเลือกตั้งครั้งก่อนแต่เที่ยวนี้เปิดตัวเร็วเน้นสร้างทีมดึงคนรุ่นใหม่มาร่วมงานหลายคน พร้อมชูสโลแกนทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้บ้านพรุ หวังกลับมานั่งในใจชาวบ้านนั่งเก้าอี้นายกสมัยที่ 4 อีกสักครั้ง
แต่ห้ามประมาททีมบ้านพรุก้าวหน้า นายอดินันท์ หนูอุไร อดีตหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลเมืองบ้านพรุ ฟอร์มทีมมาตั้งแต่ก่อนเกษียณได้สท.ปัจจุบันมาร่วมทีมหลายคน มีการลงพื้นที่การทำสื่อโซเชียลเสนอการทำงานอย่างต่อเนื่อง และยังมีกองหนุนจากฐานการเมืองใหญ่ในพื้นที่อีกด้วย
ยังไม่ถึงวันหมดวาระแต่ที่บ้านพรุคึกคักมากกว่าใครแล้ว ป้ายริมทาง รถแห่ คนเดินหาเสียงมีครบ พื้นที่ 17 ตร.กม.ประชากร 2 หมื่นนิดๆ ครอบคลุมเฉพาะไข่แดงของตำบลบ้านพรุ 11 พ.ค.68 ชาวเมืองบ้านพรุส่วนใหญ่คือผู้ตัดสินใจว่าจะให้ใครเข้าวิน 

#การเมืองสงขลา #สนามบ้านพรุ #การเมืองบ้านพรุ

กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
วันที่ 4 มีนาคม  2568 นายชนาธิป  ชิตพงศ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งมีความสนใจในเรื่องการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมโรงไฟฟ้าจะนะ โดยมีนางสาวศิริณา   ถาวรวิสิทธิ์ หัวหน้าแผนกสิ่งแวดล้อม เป็นวิทยากรบรรยาย พร้อมด้วยนายเฉลิมพล คงเขียว หัวหน้าแผนกประสิทธิภาพและผู้ปฏิบัติงานในแผนก ร่วมตอบข้อซัก-ถาม

กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากมหาวิทยาลัยทักษิณ  วิทยาเขตพัทลุง
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 โรงไฟฟ้าจะนะให้การต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล  มหาวิทยาลัยทักษิณ  วิทยาเขตพัทลุง โดยมีนางสาวธัญวรันธร เรืองธนศักดิ์ วิศวกรระดับ 6 แผนกวิศวกรรมบำรุงรักษา เป็นวิทยากรบรรยายในเรื่องระบบผลิตกระแสไฟฟ้าและระบบซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าจะนะ หลังจากนั้นได้พาคณะไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าจะนะ โดยมีนายสุริยา สุภามาลา หัวหน้าแผนกเดินเครื่องกะ 2/3 ร่วมเป็นวิทยากรพร้อมตอบข้อซัก-ถาม

กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกิจกรรมโครงการกินน้ำชายามเช้า - กินข้าวยำสัญจรประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2568
วันที่ 18 กุมภาพันธ์  2568 นายสมเกียรติ   ย้อยเสริฐสุทธิ์  ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  ร่วมกิจกรรมโครงการกินน้ำชายามเช้า - กินข้าวยำสัญจรประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงเรียนตาดีกาบ้านตรับ หมู่ที่ 11 ตำบลจะโหนง  อำเภอจะนะ  จังหวัดสงขลา โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจะโหนง เป็นเจ้าภาพและกล่าวต้อนรับ  และนายซุลกิฟลี สัญญากุล นายอำเภอจะนะ เป็นประธานในกิจกรรมครั้งนี้ 
ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ปรึกษาหารือข้อราชการระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้นำหน่วยกำลังในพื้นที่ ประธานเครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล องค์กรเครือข่ายในพื้นที่ ผู้จัดการบริษัท ปลัดอำเภอ ประธานคณะกรรมการบริหาร ชมรมกำนันผู้ใหญ่อำเภอจะนะ ภาคเอกชน  และเจ้าของกิจการห้างร้านเอกชน

"นายกแบน" รวมพลังชนบ้านใหญ่ เปิด 10 นโยบายด่วนสู้ศึกเลือกตั้งอบจ.สงขลา

"นายกแบน" ผนึกกำลัง 3 ทีมเป็นหนึ่งเดียวเดินหน้าชนบ้านใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้งอบจ.สงขลา ชู 10 นโยบายเร่งด่วนทำได้จริง พร้อมเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นประชนปลุกพลัง...เปลี่ยน ชาวสงขลาต้องดีกว่าเดิม

(19 ธ.ค.67) ณ ศูนย์ประสานงานทีมสงขลาเข้มแข็ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง นายกแบน นายประสงค์ บริรักษ์ หัวหน้าทีมสงขลาเข้มแข็ง ได้มีเปิดศูนย์ประสานงานฯ พร้อมเปิดตัวทีมบริหารและส.อบจ. เปิดสโลแกนชิงเก้าอี้นายกอบจ.ชาวสงขลาต้องอิ่มท้อง ความเป็นอยู่ต้องดีขึ้น เศรษฐกิจต้องพัฒนา ถึงเวลา ปลุกพลัง...เปลี่ยน 10 นโยบายเร่งด่วน สงขลาต้องดีกว่าเดิม กับทีมสงขลาเข้มแข็ง รวมพลังสร้างสุข

นายประสงค์ บริรักษ์ หัวหน้าทีมฯ เปิดเผยว่า วันนี้เราได้คุยกับทุกภาคส่วนและได้ข้อสรุปแล้วว่าเราจะเดินไปด้วยกัน รวมสามทีมเข้าด้วยกัน คือทีมสงขลาเข้มแข็ง ทีมภูมิใจสงขลา และทีมสงขลารวมพลังสร้างสุข ภายใต้ชื่อทีมสงขลาเข้มแข็ง รวมพลังสร้างสุข  โดยเราจะส่งทั้งทีมบริหารและส.อบจ. ครบทั้ง 36 เขต และวันนี้ถือโอกาสแถลง 10 นโยบายเร่งด่วน คือ
นโยบายที่ 1 ป้องกันและบรรเทาอุทกภัยอย่างเป็นระบบ
นโยบายที่ 2 ถนนทุกสาย สว่าง ปลอดภัย พร้อมพัฒนาระบบสู่ Smart City
นโยบายที่ 3 สงขลาศูนย์กลางการค้า การลงทุน หนุนเศรษฐกิจฐานราก ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น
นโยบายที่ 4 สงขลาเที่ยวสนุก สุขทั้งปี คึกคักด้วย Festival ตลอดปี น
นโยบายที่ 5 อบจ.สงขลา ล้อมรักษ์ ตัดวงจรยาเสพติด
นโยบายที่ 6 สงขลา สุขภาพดีตรวจฟรี 14 โรค
นโยบายที่ 7 1 อำเภอ 1 โรงเรียน สู่ความเป็นเลิศ พร้อมต่อยอดโอกาส ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ 
นโยบายที่ 8 โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง มาตรฐานระดับสากลสานฝันคนสงขลา
นโยบายที่ 9 เปลี่ยนขยะเป็นไฟฟ้า แก้ปัญหาขยะล้นเมือง ลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม ชู Mega Project ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต
นโยบายที่ 10 สงขลา เมืองแห่งความเท่าเทียม หนุนความหลากหลายทางเพศ

"โดยวันนี้ทุกท่านก็จะเห็นว่าภายใต้ทีมของเราก็จะมาจากสมาชิกที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือทีมสงขลารวมพลังสร้างสุข ทีมภูมิใจสงขลา และทีมสงขลาเข้มแข็ง ชูยุทธศาสตร์นครศรีโมเดล 3 ทีมเป็นหนึ่งเดียวรุมกินโต๊ะผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม วันนี้สงขลาต้องไม่อยู่ภายใต้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดยุบรวมเป็นหนึ่งเดียว ผมได้ปรึกษากับนายกไพเจน แล้วว่านโยบายใดที่ดีก็จะเข้าไปสานต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอให้ประชาชนชาวสงขลารวมพลัง..เปลี่ยนเมืองสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นกับสงขลาของเรา และอยากให้ประชาชนชาวสงขลาออกมาส่งเสียงแสดงพลังพร้อมเสนอนโยบายส่งมาให้เรา เพราะทุกนโยบายเร่งด่วนที่ทุกท่านสะท้อนออกมาเชื่อว่าจะทำได้จริงและทำได้เลย"  นายประสงค์ กล่าว

สำหรับในส่วนของผู้สมัครส.อบจ. ทางทีมจะส่งครบทั้ง 36 เขต นำทีมโดยประธานบ่าว นายอริยธัชย์ ทองเพชร ประธานสภาสมัยล่าสุดที่รวบรวมสจ.มาร่วมทีมหลาย ในส่วนของทีมฝ่ายบริหารก็จะเน้นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อเข้ามาร่วมทำงานเพื่อชาวสงขลาทั้งจังหวัด โดยไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และยืนยันว่าทีมนี้ไม่มีบ้านใหญ่

นายประสงค์ บริรักษ์ หรือนายกแบน นักการเมืองท้องถิ่นตัวจริงที่เคยผ่านสนามเลือกตั้งเทศบาลนครสงขลา ก่อนขยับมาอยู่ในเขตเขารูปช้าง พัฒนามาตั้งแต่สมัยเป็น อบต. เทศบาลตำบล จนถึงเทศบาลเมือง รวมกว่า 23 ปี อดีตผู้สมัครสส.สงขลาเขต 1 พรรคภูมิใจไทย และยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา และเจ้าของค่ายมวย ป.บริรักษ์ มีนักมวยในสังกัดที่มีชื่อเสียงหลายคน   

ปชป.สงขลา เขต 5 จัดโครงการให้ความรู้ฯ ปลื้มมีผู้สมัครสมาชิกพรรคเพิ่มกว่า 4,000 คน
สำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสงขลา เขต 5 จัดโครงการให้ความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแก่สมาชิกพรรคและประชาชน โดยมีวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา (กกต.สงขลา) ผู้แทนกรรมการบริหารพรรค และเจ้าหน้าที่พรรคมาร่วมรับสมัครสมาชิกเพิ่มเติม
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา ที่ตั้งเลขที่ 41/3 หมู่ที่ 4 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา  เป็นสาขาพรรคลำดับที่ 26 มีนายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการำระทรวงสาธารณสุข และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยในวันนี้ได้มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ วงค์วานิช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมกล่าวทักทายสมาชิกพรรคทั้งใหม่และเก่าที่มากันมากกว่า 500 คน
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า "เขตเลือกตั้งที่ 5 เป็นอีกหนึ่งเขตที่ประสบความสำเร็จในการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 คน แต่มีผู้สมัครมากกว่า 4,000 คน วันนี้การทำงานของสส.เดชอิศม์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมในหลายโครงการ โดยเฉพาะการผลักดันก่อสร้างโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2 ตอนนี้ได้รับการบริจาคที่ดินจากภาคเอกชนแล้ว 120 ไร่ อยู่ระหว่างการดำเนินการโอน และเตรียมตั้งงบเริ่มโครงการในปีงบประมาณ 2569"
ในส่วนของกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 5 มีนายวรเดช สุขขวัญ เป็นหัวหน้าสาขาพรรคฯ พร้อมกรรมการสาขาที่เข้มแข็งตัวแทนจากทุกพื้นที่ นายสมชาย จิตรามาศ หัวหน้างานพรรคการเมือง นายครรชิต เหมะรักษ์ ตัวแทนสาขาพรรคฯ สงขลา เขต 4 พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ว่าที่ผู้สมัครสส.พัทลุง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกพรรคและผู้มาร่วมงาน

กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมโครงการปลูกข้าว "นานี้พี่น้องปีที่ 3"  ณ  ทุ่งนาบ้านป่าชิง หมู่ที่ 1 ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

วันศุกร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567  นายชนาธิป   ชิตพงศ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนโรงไฟฟ้าจะนะ เจ้าหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.จะนะ  ร่วมกิจกรรมโครงการปลูกข้าว  "นานี้พี่น้องปีที่ 3"  โดยโรงเรียนบ้านป่าชิง ชุมชนบ้านป่าชิง ร่วมกับโรงเรียนวัดทุ่งพระ โรงเรียนวัดบ้านไร่ โรงเรียนวัดนาปรือ โรงเรียนบ้านป่างาม  โรงเรียนเกาะทาก  โรงเรียนบ้านนาหว้า (นิคมอุทิศ)  โรงเรียนบ้านควนขี้แรด ปลูกข้าว เพื่อนำผลผลิตจากโครงการเป็นอาหารกลางวันให้กับนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าว  ณ ทุ่งนาบ้านป่าชิง ม.1 ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ  จังหวัดสงขลา 

โดยมีนายสัญญา  แหละหมัน ปลัดหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง อำเภอจะนะ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมในครั้งนี้  และมีหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำชุมชน ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม

#โรงไฟฟ้าจะนะ #กฟผ #EGATforAll

กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจะนะ และโรงพยาบาลศิครินทร์หาดใหญ่ จัดกิจกรรมแพทย์เคลื่อนที่ประจำปี 2567

ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2567  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจะนะ และโรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่จัดกิจกรรมแพทย์เคลื่อนที่ ประจำปี 2567 พร้อมทั้งให้บริการนวดแผนไทย และการตัดผมจากโรงเรียนเสริมสวยดาวสยาม โดยกำหนดจัดกิจกรรม 3 วัน 3 สถานที่ ในอำเภอจะนะ ดังนี้

5 พฤศจิกายน 2567 ณ ศาลาประชาคมมัสยิดบ้านปากจด หมู่ที่ 12 ตำบลนาทับ
6 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) บุสตานุดดีน หมู่ที่ 11 ตำบลจะโหนง
7 พฤศจิกายน 2567 ณ มัสยิดบ้านควนหัวช้าง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองเปียะ

ทั้งนี้ กฟผ. ต้องขอขอบคุณสาธารณสุขอำเภอจะนะ โรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ โรงเรียนเสริมสวยดาวสยาม ที่ร่วมกันจัดกิจกรรม ขอขอบคุณผู้ดูแลสถานที่จัดกิจกรรม  สำหรับการเอื้อเฟื้อสถานที่ และที่ขาดไม่ได้เจ้าหน้าที่ทุกคนทุกภาคส่วน ตั้งแต่ฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ ฝ่ายบริการ ฝ่ายแพทย์ และอาสาสมัครทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจในการทำให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

(13 พ.ย.67) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายจักรพันธ์ กิ่งแก้ว พลังงานจังหวัดสงขลา ได้พาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับธนาคารปูม้าและสัตว์น้ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชน โดยครั้งนี้ได้เข้าเยี่ยมชมกลุ่มอนุรักษ์เพาะฟักลูกปูและสัตว์น้ำ กลุ่มพังสาย ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน

สถานที่แห่งนี้ชาวบ้านจะเรียกว่า ธนาคารปูม้า โดยมีการรวมกลุ่มนำปูม้าที่มีไข่นอกกระดองที่ถูกจับโดยชาวประมงจะถูกขายเป็นปูเนื้อ ส่วนไข่นอกกระดองจะถูกตัดทิ้ง ทำให้โอกาสในการขยายพันธุ์ของปูม้าลดลง โดยแม่ปู 1 ตัว สามารถมีไข่ได้ตั้งแต่ 5 แสน ถึง 1 ล้านฟอง และมีโอกาสรอดชีวิตไปเป็นตัวเต็มวัยได้ร้อยละ 10 ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าและพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับชุมชน ชาวประมงในพื้นที่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่ง และริเริ่มจัดทำโครงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อวางกลไกการอนุรักษ์สัตว์น้ำ

โดยรับจำนำปูที่มีไข่นอกกระดองมาเอาไข่ออก เพื่ออนุบาลในบ่ออนุบาลและเพาะฟักออกเป็นลูกปู สามารถนำไปปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติได้ เพื่อให้การประมงในพื้นที่เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งในการอนุบาลปูม้า จะต้องสูบน้ำทะเลขึ้นมาใช้ในบ่ออนุบาล และต้องเติมออกซิเจนในบ่อตลอดเวลา ซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักในการผลิตออกซิเจน ที่ผ่านมาพบปัญหากระแสไฟฟ้าตก-ดับบ่อย ส่งผลให้ไม่สามารถเติมออกซิเจนในบ่ออนุบาลได้ตลอดเวลา และทำให้ลูกปูมีอัตราการรอดชีวิตน้อย

กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลา ได้เห็นถึงสภาพปัญหาดังกล่าว จึงได้สนับสนุนเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ผลิตออกซิเจนในการอนุบาลสัตว์น้ำ ขนาดไม่ต่ำกว่า 2.4 Kw (กิโลวัตต์) และระบบกักเก็บพลังงาน ขนาด 5 KWh (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ซึ่งสามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยแก้ปัญหากระแสไฟฟ้าตกหรือดับ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของลูกปูได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันกระทรวงพลังงาน ได้สนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับกลุ่มชาวประมงและกลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำในจังหวัดสงขลารวมจำนวน 9 แห่ง ได้แก่   
 
1. ศูนย์เพาะฟักลูกปูกลุ่มปากบางเทพา ต.ปากบาง อ.เทพา
2. กลุ่มธนาคารปูบ้านพังสาย ต.กระดังงา อ.สทิงพระ
3. ศูนย์เพาะฟักลูกปูม้าบ้านพังเค็ม ต.วัดสน อ.ระโนด
4. กลุ่มประมงอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามและพัฒนาชายฝั่ง ม.6 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์
5. กลุ่มเขตฟาร์มทะเลและอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ม.8 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์
6. กลุ่มธนาคารปูบ้านหัวคุ้ง ม.5 ต.ท่าบอน อ.ระโนด
7. กลุ่มธนาคารปูม้าชุมชนบ้านท่าเข็น ม.1 ต.คลองแดน อ.ระโนด
8. กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรประมงบ้านม่วงพุ่ม ม.8 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร
9. กลุ่มธนาคารปูม้าบ้านชุมพล ต.ชุมพล อ.สทิงพระ

โดยนายหมาน จันทร์ลิหมัด หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์เพาะฟักลูกปูและสัตว์น้ำ กลุ่มพังสาย กล่าวว่า "ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดค่าใช้จ่าย จากปกติเสียค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 1,800 - 1,900 บาท เหลือเพียงเดือนละประมาณ 800 - 900 บาท ทำให้ต้นทุนในการเพาะฟักลูกปูลดน้อยลง อีกทั้งยังสามารถลดปัญหาไฟตกไฟดับ นอกจากนั้น ระบบผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ในการชาร์จไฟสำหรับแบตเตอรี่เรือประมง ช่วยลดการเดินทางไฟชาร์จในตลาดซึ่งต้องจ่ายครั้งละ 40 บาท ลดต้นทุนมาชาร์จที่นี่จ่ายค่าบำรุงแค่ 20 บาท และที่นี่ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำสำคัญของจังหวัดสงขลา ที่มีผู้สนใจมาศึกษาดูงานและขอพันธุ์สัตว์น้ำอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า "กลุ่มพังสายเป็นต้นแบบที่ดีของการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการอนุรักษ์และอนุบาลสัตวน้ำในท้องถิ่น อย่างปูม้า และขยายผลไปถึงสัตว์ทะเลต่าง ๆ อย่าง กุ้ง หมึก หอย โดยได้รับความร่วมมือและการบูรณาการจากหลายภาคส่วน ทั้งท้องถิ่นที่มีความตั้งใจขับเคลื่อนกลุ่มให้มีความยั่งยืน สร้างความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดียิ่งขึ้น ภาคเอกชนที่สนับสนุนโครงสร้าง อุปกรณ์ เครื่องมือจำเป็นต่างๆ ภาคการศึกษา ช่วยสนับสนุนองค์ความรู้ให้ชุมชน และเข้ามาสนับสนุนการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ และภาครัฐที่ช่วยผลักดัน สนับสนุนให้กลุ่มเข้าถึงงบประมาณและเครื่องมือต่างๆ

ในส่วนของกระทรวงพลังงาน ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของกลุ่มในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน รวมถึงเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเราจะนำโมเดลของจังหวัดสงขลาไปขยายใช้กับกลุ่มอาชีพอื่นๆ เพื่อช่วยในการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย"