นำคณะ สคพ.16 ตรวจสอบคุณภาพน้ำพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำยางพาราปนเปื้อนลงคลองอู่ตะเภา

คณะทำงาน "สส.น้ำหอม" นางสาวสุภาพร กำเนิดผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำยางสดผสมแอมโมเนีย รั่วไหลลงคลองระตะ คลองสาขาของคลองอู่ตะเภา พื้นที่ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา อย่างต่อเนื่อง
       
ล่าสุดวันนี้ 26 พฤษภาคม 2568 นำคณะจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 (สคพ.16) หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 16 (สงขลา) โดยผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพังลา สำนักงานประมงอำเภอสะเดา และองค์การบริหารส่วนตำบลพังลา ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมกรณีน้ำยางผสมแอมโมเนียรั่วไหลจากอุบัติเหตุรถบรรทุกเฉี่ยวชน ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สรุปผลการตรวจสอบดังนี้
     
1.องค์การบริหารส่วนตำบลพังลาประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา เร่งดำเนินการสูบน้ำยางพาราที่ปนเปื้อนในคลองสาธารณะบริเวณคันดินที่เสริมขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ลงสู่คลองอู่ตะเภานำไปบำบัดให้เข้าสู่สภาวะปกติ โดยสภาพน้ำในลำคลองสาธารณะบริเวณคันดินมีสีขาว ไม่มีกลิ่นแอมโมเนีย ส่วนบริเวณเหนือคันดิน ประมาณ 100 เมตร น้ำใส ไม่มีกลิ่นแอมโมเนีย และไม่พบการไหลล้นจากน้ำยางพาราที่ปนเปื้อนลงสู่คลองอู่ตะเภา
         
2.จากการสังเกตลักษณะทางกายภาพโดยทั่วไปในลำคลองไม่พบสัตว์น้ำตาย และสำนักงานประมงอำเภอสะเดา ได้ประสานผู้นำชุมชนบริเวณท้ายน้ำคลองอู่ตะเภาเพื่อแจ้งเตือนและเตรียมการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
       
3.สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 ตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำนวน 4 จุด ดังนี้ (1) คลองสาธารณะเหนือจุดคันดิน (2) คลองสาธารณะบริเวณคันดิน (3) คลองสาธารณะบริเวณท้ายคันดิน (4) แอ่งเก็บน้ำรองรับน้ำยางที่ปนเปื้อนเพื่อรอการบำบัด และ (4) คลองอู่ตะเภา ตำบลพังลา (ท้ายน้ำไม่มีการปนเปื้อน)
             
ผลการตรวจสอบคุณภาพในภาคสนาม มีค่า pH อยู่ในช่วง 5.8-6.3 ค่าออกซิเจนละลาย (DO) มีค่าอยู่ในช่วง 1.9-6.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ค่าแอมโมเนีย ซึ่งตรวจวัดด้วยชุดตรวจภาคสนาม มีค่าอยู่ในช่วง 0.0-0.005 มิลลิกรัมต่อลิตร (ค่ามาตรฐาน ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร) โดยได้เก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ ณ ห้องปฏิบัติการของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 ด้วย

ขอขอบคุณคณะทำงาน นำโดย นายอดุลย์ สงดวง ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส.เขต 6 สงขลา นายเพทาย ศรีไตรรัตน์ ผู้ช่วยดำเนินงาน สส.เขต 5 สงขลา สจ.เฉด นายร่อเฉด หมุดลิหมีน ส.อบจ.สะเดา เขต 3 นายอำเภอสะเดา ประมงอำเภอสะเดา อบต.พังลา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ และพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน

งานของดีเมืองบ้านพรุ พบกันแน่นอน 20-28 กรกฎาคม 2568 ณ ตลาดน้ำพรุค้างคาว เมืองบ้านพรุ หาดใหญ่ สงขลา

PT SONGKHLA GRAND PRIX 2025 พร้อมกลับมากระหึ่มเมืองอีกครั้ง 15-19 ต.ค.68

กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ PT SONGKHLA GRAND PRIX 2025 พร้อมปลุกเมืองสงขลา ทวีคูณความมันส์แห่งปี เต็มขั้นทุกความเร้าใจ บนสนามเลียบชายทะเลที่สวยที่สุด พบกันแน่นอนวันที่ 15 – 19 ตุลาคม 2568

21 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุม Laguna King A โรงแรมลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงถ้วยพระราชทาน ในรายการ PT Maxnitron Series 2025 โดยมีนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายศิลป์ ธีรนิติ ประธานการจัดการแข่งขัน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 

นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่าจังหวัดสงขลา ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ อาหาร โรงแรมที่พัก และการบริการด้านความปลอดภัย ซึ่งทุกอย่างล้วนขับเคลื่อนผ่านแนวคิด เสน่ห์สงขลา ขอให้ทางพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะทางผู้จัดได้ดำเนินการดูแลในเรื่องของสนาม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ภายใต้การดูแลของราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งนี้ยังมีการทำประกันในส่วนของผู้เข้าแข่งขัน และผู้เข้าร่วมรับชมไว้เรียบร้อยแล้วด้วย เพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ   

นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และนายศิลป์ ธีรนิติ ประธานการจัดการแข่งขัน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้จะมุ่งในเรื่องการสร้างการรับรู้ให้มากกว่าครั้งที่ผ่านมา หยิบยกการผลิตคอนเทนต์ ที่อิงกับสถานที่ภายในจังหวัด เผยแพร่ผ่านทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้รู้จักจังหวัดสงขลามากยิ่งขึ้น โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบ จะประกอบด้วย โซนการแข่งขัน โซนเวทีแสดงคอนเสิร์ต โซนกิจกรรมเด็ก และโซนจําหน่ายสินค้า ของผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา

ทางคณะผู้จัดงาน มีความเชื่อมั่นว่ารายการ การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ PT SONGKHLA GRAND PRIX 2025 ณ สนามเลียบหาดชลาทัศน์ สวนสาธารณะใหม่เมืองสงขลา จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายสงขลาเมืองกีฬา ซึ่งในปี 2568 ปีนี้จะมีรายการระดับชาติ ระดับนานาชาติ ลงมาจัดที่สงขลามากมาย จึงขอเชิญชวนชาวสงขลาร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ีดีในการต้อนรับผู้มาเยือนตลอดปีนี้ด้วย

เศรษฐกิจใต้ไตรมาส 1 ทรงตัว หาดทิพย์ปรับกลยุทธ์ เน้นบริหารต้นทุนรักษาระดับอัตรากำไร

 บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมียอดขายรวม 2,100.1 ล้านบาท ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมที่อยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วง ไตรมาส 4 ของปี 2567  บริษัทฯ จึงเร่งปรับกลยุทธ์ เน้นการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 42.1% และ 8.7% ตามลำดับ ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic Ready-to-Drink: NARTD) ในภาคใต้มีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมปรับตัวลดลงเล็กน้อย

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ แถลงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2568 โดย   บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 2,100.1 ล้านบาท ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่   ผ่านมา โดยข้อมูลจาก นีลเส็น ประเทศไทย ได้ชี้ให้เห็นว่าแม้ในภาพรวมตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มทีไม่มีแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ภาคใต้ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 จะยังเติบโตได้ในอัตรา 1.9% แต่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่สามารถเติบโตได้ถึง 4.3% ในขณะที่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมปรับตัวลดลง 0.5% และกลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มลดลงถึง 0.6% ทั้งนี้ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจภาคใต้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ในภาวะทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้ภาคเกษตรและภาคท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการภาครัฐช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงต้นไตรมาส แต่แรงส่งชะลอลงในช่วงปลายไตรมาส

ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ปรับกลยุทธ์โดยหันมาเน้นบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อรักษาระดับอัตรากำไร จากต้นทุนราคาวัตถุดิบที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบกับการปรับราคาขายระหว่างปี 2567 และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตบรรจุภัณฑ์โดยใช้ปริมาณวัตถุดิบน้อยลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 42.1% เพิ่มขึ้น 1.7 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารนั้นเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยที่ 4.5% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายและการตลาดที่เพิ่มขึ้น 14.5% ตามช่องทางการขายที่เปลี่ยนไปและเพื่อกระตุ้นยอดขายในสภาวะตลาด อ่อนตัว ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องค่าตอบแทนและการพัฒนาบุคลากร ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเครื่องเครื่องจักรสายการผลิตขวด PET ไลน์ที่ 3 และเครื่องจักรสายการผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้วเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประจำไตรมาสนี้เท่ากับ181.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น  0.6% โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 8.7% เพิ่มขึ้น 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้มุมมองถึงผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจในระยะสั้นว่า "ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมเริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส ซึ่งตามปกติก็จะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมทั้งในประเทศไทยและในส่วนของนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย แต่ในปีนี้ เรายังเจอกับสภาพอากาศเย็นยาวนานกว่าปกติและฝนที่มาไวกว่าปกติ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ของเราได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับในช่วงไตรมาส 2 เราเชื่อว่าการจับจ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มอ่อนตัวลง อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระดับโลก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ และการชะลอตัวลงของธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้เราต้องบริหารจัดการต้นทุนและค่าใข้จ่ายอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาลที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1 ปี้นี้ ยังเติบโตได้ถึง 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะคิดเป็นเพียง 5.8% ของยอดขายทั้งหมด"

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก นีลเส็น ประเทศไทย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 ระบุว่า หาดทิพย์เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมีมูลค่าส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 24.2% ในขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมนั้น หาดทิพย์ยังคงเป็นผู้นำโดยมีสัดส่วนทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้สูงถึง 78.4%

###
บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยได้รับลิขสิทธิ์จากโคคา-โคลา คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) มีผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอประกอบไปด้วย "โค้ก", "แฟนต้า", "สไปรท์", "ชเวปส์", "เอแอนด์ดับบลิว" รูทเบียร์ รวมถึงน้ำส้ม "มินิทเมด สแปลช", "มินิทเมด พัลพิ", และ น้ำดื่ม "น้ำทิพย์"

กองเชียร์นับหมื่นร่วมให้กำลังใจ "พี่หลวงคร" เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้ายชูนโยบายทำได้จริง ย้ำถึงผลงานในรอบ 4 ปี ทั้งการฝ่าวิกฤตโควิด-19 แก้ปัญหาน้ำท่วม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวหาดใหญ่ พร้อมชูสโลแกน "ทำแล้ว ทำต่อ ร่วมพัฒนาหาดใหญ่" ด้วยความมั่นใจว่าจะรักษาตำแหน่งไว้ได้อีกสมัย

(9 พฤษภาคม 2568) พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี หรือพี่หลวงคร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เบอร์ 1 ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ สนามโรงเรียนศรีนคร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาพร้อมทีมงานฝ่ายบริหาร ผู้สมัครสท.ทั้ง 4 คน ท่ามกลางประชาชนที่หลั่งไหลเข้าร่วมฟังและร่วมเชียร์นับหมื่นรายบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก 

พี่หลวงคร ได้กล่าวปราศรัยเน้นย้ำถึงผลงานในอดีต และแสดงวิสัยทัศน์ที่จะ "ทำแล้ว ทำต่อ ร่วมพัฒนา"  กับนโยบาย 9 ด้าน คือ 1. จัดระเบียบเมืองน่าอยู่ และปลอดภัย ( Smart Parking CCTV รอบเมือง) 2.การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ 3. การจัดการภัยพิบัติแบบยั่งยืน 4.โครงสร้างพื้นฐาน 5.ยกระดับการศึกษา 6.สาธารณสุขก้าวหน้า 7.ดูแลสังคมไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 8.ชุมชนเข้มแข็ง และ 9.สปอร์ตเซ็นเตอร์

"ผมไม่ใช่คนใหม่ แต่ผมมีความใหม่ในแนวคิดและการทำงาน หากได้รับโอกาสอีกครั้ง หาดใหญ่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เราต้องพูดความจริง พูดในสิ่งที่ทำได้จริง 4 ปีที่ผ่านมาเราได้รับรางวัลมากมาย วันนี้จึงขออาสาสานต่อการพัฒนาหาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง"

สำหรับเวทีการปราศรัยวันนี้มีเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนดังกึกก้องเป็นระยะๆ ในการปราศรัยครั้งนี้ ยังมีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลของทีมพี่หลวงครครบชุดทั้ง 4 เขต และอดีตผู้บริหารของทีมพี่หลวงคร ร่วมขึ้นเวทีแสดงจุดยืนสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นในตัวผู้นำที่มีประสบการณ์ และเข้าใจปัญหาในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเวทีปราศรัยดำเนินไปอย่างเรียบร้อย

สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล จะมีขึ้นขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 08:00 –17:00 น. ซึ่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 103,609 คน

กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ครั้งที่ 1/2568
นายสมเกียรติ   ย้อยเสริฐสุทธิ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ บริเวณหมู่ 2 บ้านปากบางนาทับ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับเกียรติจากนายซุลกิฟลี สัญญากุล  นายอำเภอจะนะ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นกุ้งแชบ๊วย จำนวน 2 ล้านตัว ซึ่งมีประมงอำเภอจะนะ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16  เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลนาทับ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำและความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างระบบนิเวศในลำคลอง
#กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ #โรงไฟฟ้าจะนะ #กฟผ #EGATforAll

มหกรรมการแข่งขันอนาชีด ดนตรี กวีศีลป์
จังหวัดปัตตานี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี ขอเชิญร่วมชม ร่วมเชียร์ ร่วมชิม ร่วมช้อป ในงานมหกรรมการแข่งขันอนาชีด ดนตรี กวีศีลป์  Dai Voice Thailand เเละ Dai voice ASEAN 2025
ระหว่างวันที่  28 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

"ยืนยันไม่ทอดทิ้งเหยื่อ" คณะทำงานรมว.ยุติธรรม แจงละเอียดยิบความคืบหน้าคดีเหตุอส.ปืนโหดกราดยิ่งร้านข้าวต้มหาดใหญ่

พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงยุติธรรม คณะทำงานของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ติดตามและชี้แจงความคืบหน้าคดีจากเหตุการณ์เมื่อ 22 ธ.ค.67 ที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในร้านข้าวต้มครัวภาวนา ร้านข้าวต้ม บนถนนนวลแก้วอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย โดยผู้ก่อเหตุคือนายอัครพณธ์ ซึ่งเป็น อส.อ.หาดใหญ่ และมีการนำเสนอข่าวว่าคดีไม่คืบหน้า ครอบครัวผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยา 

พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ยืนยันว่าคดีดังกล่าวทางกระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลา ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องและสามารถจ่ายเงินเยี่ยวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2 แสนบาท โดยมีการประชุมคณะอนุกรรมการและอนุมัติการจ่ายเงินทันทีทั้งแต่ 24 ธ.ค.67 และเบิกจ่ายเงินแก่ครอบครัวผู้เสียหายไปเมื่อ 7 ม.ค.68 ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือคุณภาวนา เจ้าของร้าน และคุณสุริยา พ่อครัว ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ โดยเฉพาะคุณภาวนา ที่สูญเสียดวงตาทั้ง 2 ข้าง

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ได้กำหนดการจ่ายค่าเสียหายแก่ผู้บาดเจ็บเมื่อมีการรักษาสิ้นสุด เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับค่าตอบแทนมากที่สุด ซึ่งมีทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าทดแทนความเสียหายอื่่น จ่ายค่าขาดประโยชน์ทำมาหากิน ซึ่งในส่วนของคุณภาวนา ได้มีการยื่นเอกสารครบแล้ว จะสามารถนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนของคุณสุริยา การรักษายังไม่สิ้นสุด ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จะได้รับการช่วยเหลือตามกฎหมายอย่างแน่นอน

ในส่วนของคดี พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ชี้แจงว่าตนเองเข้าใจความกังวลของครอบครัวผู้เสียหาย คดีนี้โจทย์ยังระหว่างการฝากขัง ตนเองได้ติดตามการทำงานจากตำรวจเจ้าของคดี กำชับให้มีการทำคดีอย่างรัดกุม ว่ากันตามพยานหลักฐาน คดีนี้ผู้ก่อเหตุมีฐานความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นและทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และยังมีคดีแพ่งด้วย นอกจากผู้เสียหายจะได้รับการช่วยเหลือตามกฎหมายจากรัฐแล้ว ยังมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุได้อีก ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม หากครอบครัวมีความกังวลหรือต้องการปรึกษาเรื่องใดๆ ก็สามารถติดต่อได้โดยตรงทันที

พร้อมกันนี้ น้องฟอร์ด บุตรชายของคุณภาวนา (เจ้าของร้านข้าวต้ม) แสดงความโล่งใจและกล่าวขอบคุณ พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน และทุกภาคส่วนที่ช่วยเรื่องคดี ช่วยครอบครัวตัวเองอย่างเต็มที่ บอกว่ารู้สึกมีกำลังใจ มีความมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม พร้อมฝากบอกกับทุกคนว่าตนเองยังทำหน้าที่สานต่อร้านข้าวต้มของครอบครัว เรียนเชิญมาร่วมอุดหนุนกันได้ครับ

ร้านข้าวต้มครัวภาวนา ถนนนวลแก้วอุทิศ หาดใหญ่
เปิดให้บริการทุกวัน 17.00 - 24.00 น. โทร 097-9254369
พิกัด https://maps.app.goo.gl/iGK5euWvysE4up9UA
maps.app.goo.gl

กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลมวลชนสัมพันธ์ "อำเภอจะนะคัพ ประจำปี 2568"
เมื่อวันที่ 9 เมษายน  2568 นายจิตวัต   วงศ์วาสนา หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์โรงไฟฟ้าจะนะ  พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  มอบน้ำดื่ม น้ำใจ กฟผ.  สนับสนุนสนามกีฬาฟุตบอลโรงไฟฟ้าจะนะ  ในระหว่างวันที่ 9 - 11 เมษายน 2568 ณ สนามฟุตบอลโรงไฟฟ้าจะนะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา 
โดยมีนายซุลกีฟลี   สัญญากุล นายอำเภอจะนะเป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้มีส่วนราชการในอำเภอจะนะ ตำรวจภูธรอำเภอจะนะ  สาธารณสุขอำเภอจะนะร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในอำเภอจะนะ และข้าราชการครูในอำเภอจะนะ ร่วมแข่งขันจำนวน 4 ทีม  เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ในพื้นที่อำเภอจะนะและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานซึ่งกันและกัน

61 ปี "รมช.เดชอิศม์ ขาวทอง" จัดงานวันกตัญญู รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ พร้อมสานต่อโครงการ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
วันที่ 10 เมษายน 2568 เป็นวันครบรอบ 61 ปี ของนายกชาย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง โครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และครอบครัวขาวทอง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันกตัญญู ร่วมรดน้ำขอพร ตรวจสุขภาพ มอบของขวัญ แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 361 ราย ณ หอประชุมขาวทอง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
โดยมี "สส.น้ำหอม" นางสาวสุภาพร กำเนิดผล "สส.สิงโต" นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง พร้อมครอบครัวร่วมให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ผู้สูงอายุ ผู้ติดตามที่มาร่วมงาน ในภาคเช้ามีพิธีทางศาสนา การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ และปีนี้มีกิจกรรมพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมออกบูธให้บริการตรวจสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ อาทิ งานนทันตกรรม บริการด้านการแพทย์แผนไทย ตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจสายตาประกอบแว่น รวมทั้งการมอบของที่จำเป็นสำหรับผู้สูงวัยด้วย และการตรวจรักษาต่อเนื่องจากโรงพยาบาลรัตภูมิ
สำหรับกิจกรรมงานวันกตัญญู จัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปีตามความตั้งใจของ "รมช.เดชอิศม์" ที่เห็นว่าวันคล้ายวันเกิดตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นประเพณีที่คนไทยต่างร่วมกันแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ผู้สูงวัย และยังได้มีการเชิญชวนผู้ร่วมงานมาเปลี่ยนของขวัญเป็นการร่วมบริจาคสมทบทุนกับมูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง โครงการ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" เพื่อเป็นทุการศึกษาและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม สามารถบริจาคได้ที่บัญชี ธ.กรุงไทย เลขบัญชี 662-9-86217-1 ชื่อบัญชี "มูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
ส่วนในภาคค่ำมีงานเสียงสังสรรค์คนกันเอง โดยมีนายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา นายยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกอบจ.สงขลา พร้อมแขกผู้มีเกียรติ เพื่อนพ้องน้องพี่ มาร่วมแสดงความยินในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง "รมช.เดชอิศม์" กล่าวว่า "ในนามครอบครัวขาวทอง ขอขอบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่สนับสนุนการจัดงานในทุกรูปแบบ รวมทั้งร่วมสบทบทุนกับมูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง โครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคมต่อไป และขอส่งความสุขสวัสดีในโอกาสวันปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกประการครับ"