Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - ฅนสองเล

#901
ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2(29/ 2555) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนบน

            พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 9.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือ อย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านปลายแหลมญวนและส่งผลกระทบต่อสภาวะอากาศของภาคใต้และอ่าวไทย ในระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.55 นี้ โดยจะทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค

            สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น บริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป ทะเลมีคลื่นจัด ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงดังกล่าว

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ออกประกาศวันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤศจิกายน 2555  เวลา 06.30 น.


ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก
โทร (074) 311760 โทรสาร (074) 311065
www.songkhla.tmd.go.th
www.songkhlamet.org
#902
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   15 พฤศจิกายน 2555 11:13 น.   

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่า นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว ผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังคงหลบหนี เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายทีมสังหาร และผู้บงการฆ่านายกเทศมนตรีหมดแล้ว มีทั้งหมด 7 คน ทีมฆ่า 6 คน และผู้บงการอีก 1 คน ใช้รถยนต์ก่อเหตุ 5 คัน ยึดมาได้แล้ว 3 คัน รอรวบรวมพยานหลักฐานทยอยออกหมายจับ บ่ายวันนี้จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพโดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธาน
       
       ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีฆ่า นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ซึ่งครบหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ถูกคนร้ายลอบสังหารเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่หน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งได้มีการออกหมายจับทีมมือปืนไปแล้ว 2 คน คือนายไพศาล หนูพันธ์ ซึ่งได้มอบตัวไปแล้ว และนายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว ซึ่งยังคงหลบหนี
       
       ล่าสุด ในส่วนของความคืบหน้าการสืบสวนติดตาม นายนิวัฒน์ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ และยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัวต่อตำรวจ และจากการเข้าตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 65 ม.3 ต.โรง อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา และที่ภูมิลำเดิมที่ อ.ระโนด ก็ไม่พบตัว และจากเบาะแสที่ได้ทราบว่าได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปก่อน 2 วัน ก่อนที่จะถูกออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าไม่น่าจะเข้ามอบตัว ทางชุดสืบสวนจึงยังคงเร่งไล่ล่าเพื่อติดตามจับกุม
       
       ส่วนความคืบหน้าด้านคดีในวันนี้ (15 พ.ย.) ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 จะนำหลักฐานบางส่วนที่ตรวจพิสูจน์เสร็จแล้ว โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝง และวัตถุพยานที่เก็บจากจุดต่างๆ เช่น รถยนต์ของคนร้ายนำมาส่งให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนคดีมัดตัวทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ถูกออกหมายจับ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือ และในวันนี้เจ้าหน้าที่อาจจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาล จ.สงขลา ออกหมายจับคนร้ายอีก 1 คน ซึ่งเป็นทีมมือปืน
       
       ขณะที่ในช่วงบ่ายของวันนี้ เวลา 15.30 น. จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายพีระ ที่วัดแหลมทราย โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เดินทางมาเป็นประธาน
       
      สรุปเครือข่ายทีมสังหารมีทั้งหมด 7 คน ทีมฆ่า 6 และ 1 ผู้บงการ ทยอยออกหมายจับ
       
       เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายทีมสังหาร และผู้บงการฆ่านายกเทศมนตรีหมดแล้ว มีทั้งหมด 7 คน ทีมฆ่า 6 คน และผู้บงการอีก 1 คน ใช้รถยนต์ 5 คัน ในการก่อเหตุ ขณะนี้ยึดมาได้แล้ว 3 คัน รอรวบรวมพยานหลักฐานทยอยออกหมายจับ
       
       มีรายงานจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายทีมสังหาร และผู้บงการฆ่านายพีระ หมดแล้วโดยคดีนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 คน เป็นทีมฆ่า 6 คน และผู้บงการอีก 1 คน ใช้รถยนต์ในการลงมือก่อเหตุ 5 คัน เจ้าหน้าที่ติดตามคืนมาได้แล้ว 3 คัน และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รวมทั้งรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ล้วนเชื่อมโยงกับนักการเมืองใหญ่ท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่ จ.สงขลา ขณะนี้รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทยอยออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจ่อออกหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 3 ซึ่งอยู่ในทีมมือปืนในวันสองวันนี้
       
       นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงเร่งติดตามจับกุม นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว ที่ถูกออกหมายจับ และยังคงหลบหนีการจับกุม พร้อมทั้งยังคงกระจายกำลังพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยที่เชื่อมโยงกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่ใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอาวุธปืนเอ็ม 16 และคาร์บินที่ใช้ก่อเหตุ
#903
"อุทิศ ชูช่วย" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขอบคุณที่มีผู้ให้กำลังใจ หลังตกเป็นจำเลยสังคมคดียิง "พีระ ตันติเศรณี" ขณะที่น้องชายส่งทนายลงบันทึกประจำวันยืนยันบริสุทธิ์

                13พ.ย. ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุยิงนายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมตรีเทศบาลนครสงขลาเสียชีวิตอย่างอุกอาจกลางเมืองสงขลาเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา และนายไพศาล หนูพันธ์ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว ล่าสุดศาลได้ออกหมายจับนายนิวัฒน์  รัตนแก้ว เพิ่มอีกราย  เจ้าหน้าที่ทีมชุดสืบสวนสอบสวนได้เร่งขยายผลเพื่อหาความเชื่อมโยง รวมถึงเตรียมเชิญตัวผู้ที่เข้าข่ายที่มีส่วนในความขัดแย้งและเป็นชนวนสังหารมาให้ปากคำในคดีที่เกิดขึ้นซึ่งรวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นและน้องชายเจ้าของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ที่คนร้ายได้นำรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้และเป็นอดีตคู่แข่งทางการเมืองของนายพีระสมัยการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลาเมื่อปี2552 ที่ผ่านมา

                ขณะที่นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พี่ชายของนายกิตติ ชูช่วย ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวชื่อ "อุทิศ ชูช่วย" มีข้อความระบุว่า  "ผม นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ผมตลอดมาครับ"  ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวถือเป็นข้อความที่ปรากฎขึ้นหลังจากเกิดเหตุยิงนายพีระ กระทั่งเกิดการวิพากวิจารณ์ในสังคมออนไลน์เป็นวงกว้างถึงความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะน้องชายและนายไพศาลคนสนิท และสื่อมวลชนแขนงต่างๆพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์แต่นายอุทิศปฎิเสธว่ายังไม่พร้อมให้ข้อมูลและไม่ขอให้ข้อมูลใดๆมาก่อน ขณะเดียวกันในเฟซบุ๊กของนายอุทิศนั้นก็มีผู้ที่เข้ามาเขียนข้อความให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

                อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 วันมีรายงานว่านายกิตติได้ส่งทนายความส่วนตัวเข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองสงขลา เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจหากมีการเรียกตัวมาสอบสวนและยืนยันว่าไม่ได้มีการหลบหนีตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ตร.9เร่งสอบพยานแวดล้อม60ปาก

                ด้านพล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค9 กล่าวว่า ในการสอบสวนพยานแวดล้อม  ได้ระดมพนักงานสอบสวนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9   รวม 17 นาย มาร่วมสอบปากคำพยานในคดีนี้ซึ่งมีอยู่ถึง 60 ราย เนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมือง   ไม่เพียงพอ โดยขณะนี้ได้สอบปากคำแล้วเสร็จไป 20   ราย  ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และจะนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนประกอบวัตถุพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 คน รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก 4 คน ทั้งทีมฆ่าและผู้บงการ

                "ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 ราย เรามีพยานหลักฐานชัดเจน ส่วนที่เหลือหากมีการสอบสวนและหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงก็จะออกหมายจับเช่นกันไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สำหรับ นายนิวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคนล่าสุดนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างการหาเบาะแสเพื่อจับกุมและหากต้องการเข้ามอบตัวทางตำรวจก็พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม"  พล.ต.ท.พิสิฎฐ์  กล่าว

เยาวชนกลุ่มบีชฟอร์ไลฟ์สานเจตนารมณ์"พีระ"

               นายอภิศักดิ์ ทัศนี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ในฐานะแกนนำเยาวชนกลุ่ม ?กลุ่มบีช ฟอร์ ไลฟ์? (Beach For Life) เปิดเผยว่า แม้นจะไม่มีนายพีระแต่ภารกิจที่การอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชายหาดสมิหราและพิทักษ์แหลมสนอ่อน ที่นายพีระผลักดันและสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายเยาวชนในการขับเคลื่อนเรื่องนี้จะยังคงดำเนินต่อไป โดยกลุ่มเยาวชนสงขลาพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในเรื่องนี้อย่างเต็มที่

กกต.สงขลาเล็งเคาะเลือกตั้ง5-6 ม.ค.ลือน้องชาย"พีระ"ลงชิง

               นายโชคชัย ผลวัฒนะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา (กกต.) เปิดเผยว่า  หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิงนายพีระเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ในด้านกฎหมายการเลือกตั้งนั้น ได้มีการกำหนดชัดเจนว่าจำเป็นที่จะต้องกำหนดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลาที่ว่างภายใน 60 วัน ซึ่งหากไล่นับวันตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว คือวันที่ 7 พ.ย.55 จะพบว่าวันสุดท้ายของการเลือกตั้งตรงกับวันที่ 6 ม.ค.56 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์พอดี

               ดังนั้นเบื้องต้นกกต.สงขลาจึงได้เตรียมเสนอให้มีการหารือพิจารณาให้กำหนดวันเลือกตั้งในช่วง 2 วัน คือ ในวันเสาร์ที่ 5 ม.ค. และ วันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค. ส่วนวันที่เปิดรับสมัครการเลือกตั้งนั้นเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 26-30 พ.ย.นี้ หรือ อาจขยับไปในช่วงต้นเดือนธันวาคม
#904
โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

       คอลัมน์ : ด้ามขวานผ่าซาก
       โดย...ปิยะโชติ อินทรนิวาส

       หากเป็นดั่งที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนตั้งธงไว้ว่า เป็นความขัดแย้งทางการเมือง การตายของ ?พีระ ตันติเศรณี? อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา นั่นคือ ภาพสะท้อนที่แจ่มชัดของความสามานย์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ
       
       นั่นคือ การฉีกม่านบังตาให้เห็นธาตุแท้ของบรรดานักการเมือง ที่เอาแต่ทำสงครามแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างกัน มากกว่าจะรังสรรค์งานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน
       
       นั่นคือ ไม่ต่างจากสปอตไลต์ส่องฝ่าความมืดไปฉายให้ว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในหมู่นักเลือกตั้ง หากเกิดขัดแข้ง ขัดขา หรือขัดผลประโยชน์ พวกเขาก็พร้อมที่จะลุกขึ้นทำลายล้าง หรือไม่ก็หยิบยื่นความตายให้แก่กันได้แบบไม่อินังขังขอบอะไรเลย
       
       แต่ที่สำคัญนั่นคือ เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนที่ชี้ชัดอย่างเป็นที่ประจักษ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ผิดแผกแตกต่างไปจากกลุ่ม ก๊วน หรือแก๊งการเมืองอื่นๆ ที่ยื้อแย่งสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นครองอำนาจรัฐ
       
       การลอบสังหารนายพีระด้วยอาวุธสงครามอย่างโหดเหี้ยมเมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้จะมีการฟันธงไปแล้วว่า สาเหตุหลักเกิดจากความขัดแย้งในผลประโยชน์การเมืองระดับท้องถิ่น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางการเมืองในระดับชาติอย่างยากที่จะแยกออกจากกันได้ เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าจะการเมืองท้องถิ่น หรือระดับชาติ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน
       
       นับตั้งแต่นักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ก่อร่างสร้างระบอบทักษิณขึ้นมาครอบงำสังคม ต้องถือเป็นการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยสู่ยุคใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ดูเหมือนมีเพียงประชาธิปัตย์เท่านั้นที่สามารถต่อกรกับพรรคการเมืองในระบอบทักษิณได้ ไม่ว่าจะไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทยในปัจจุบัน ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ ถูกแปรให้เป็นตัวประกอบที่รอให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจับเชิดขึ้นไปร่วมรัฐบาลเท่านั้น
       
       แต่จะว่าประชาธิปัตย์กับระบอบทักษิณคือ มวยถูกคู่ เวลานี้ก็คงพูดกันได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก เพราะนโยบายประชานิยมที่พรรคการเมืองในระบอบทักษิณหว่านโปรยไปมอมเมาประชาชนมันช่างตื่นตาตื่นใจ และส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่เสพติดกันเพลิดเพลินแบบซึมลึกไปแล้ว
       
       หลังๆ มานี่มองไปในสนามการเมืองที่ว่าด้วยตัวเลข ส.ส.ที่จะใช้ยกมือตั้งรัฐบาล แทบไม่มีพรรคไหนเทียบชั้นเพื่อไทยได้ จนเกิดวาทกรรมเย้ยหยันไม่ว่าจะเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็มีแต่แพ้กับแพ้ โอกาสที่จะสอดแทรกขึ้นเสวยอำนาจรัฐกับเขาบ้างก็ต้องรอให้ทหารลากรถถังออกไปทำรัฐประหารเปลี่ยนขั้วให้เท่านั้น ซึ่งในสภาวการณ์ปัจจุบันก็เป็นไปได้ยากยิ่ง
       
       เมื่อเป็นเช่นนี้ หนทางแสวงประโยชน์ในสนามการเมืองระดับชาติของพลพรรคประชาธิปัตย์นับวันมีแต่จะแคบลงเรื่อยๆ คนที่จ่อคิวเป็นรัฐมนตรี หรือมีตำแหน่งแห่งหนเกิดอาการฝันค้างไปตามๆ กัน มิพักต้องพูดถึงพวกมุ่งมั่นหวังจะไต่เต้าถีบตัวเองไปเข้าคิวรอขึ้นวอเป็นเสนาบดีที่ยังมีแถวยาวเหยียด
       
       จึงไม่แปลกที่คนประชาธิปัตย์ในสนามการเมืองระดับชาติจำนวนมากจะผินหน้าหันมาลงเล่นการเมืองในระดับท้องถิ่น เพราะพวกเขาเห็นหนทางชัดแจ้งที่จะแสวงประโยชน์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากกว่า และส่วนมากก็ไปกระจุก และแย่งชิงกันในสนามท้องถิ่นระดับใหญ่ ซึ่งแต่ละปีมีตัวเลขงบประมาณระดับพันล้านว่างรอให้เห็นกันจจะ ไม่ว่าจะเป็นองการบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง
       
       จึงไม่แปลกที่บนแผ่นดินด้ามขวานอันเป็นฐานที่มั่นของประชาธิปัตย์ หลายปีติดต่อกันมาแล้วที่เราได้เห็นความสับสนวุ่นวายในสนามการเมืองท้องถิ่นใหญ่ๆ มีการแบ่งขั้วแยกข้างแย่งชิงอำนาจ และผลประโยชน์กันเองอย่างมันหยดอยู่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ เลือกตั้งสนามท้องถิ่นกันแต่ละครั้ง จะเห็นบรรดาสะตอสีฟ้าฟาดฟันกันนัวไปถ้วนทั่วตั้งแต่ชุมพรยันนราธิวาส
       
       อีกทั้งไม่แปลกเช่นกันที่การตายของนายพีระ ไม่ใช่ส่งผลรุนแรงต่อสนามนครสงขลาเท่านั้น ยังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปยัง อบจ.สงขลา แต่ที่สำคัญคือ ได้สร้างความสั่นไหวให้เกิดขึ้นภายในประชาธิปัตย์อย่างรุนแรงเอาการทีเดียว
       
       หลายคนชี้ว่าเป็นปัญหาภายในของ ?มหาฯ คอนเน็กชัน? บ้าง เป็นว่าเรื่องของ ?ระโนดคอนเน็กชัน? บ้าง แต่สำหรับผมแล้ว ?ปชป.คอนเน็กชัน? นี่แหละที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่นำมาสู่การเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
       
       เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งภายในของประชาธิปัตย์ในพื้นที่ จ.สงขลานั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และน่าจะดียิ่งเสียกว่าที่มีการวิเคราะห์วิจารณ์ในแวดวงสภากาแฟของชาวสงขลาเสียด้วย
       
       ดังนี้แล้ว ในวันฌาปนกิจศพนายพีระพฤหัสที่ 15 พฤศจิกายน 2555 ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ถูกเชิญให้เป็นประธานในพิธี นายอภิสิทธิ์จึงควรต้องเจียดเวลาหาทางคลี่คลายปัญหาภายในของ จ.สงขลาให้ได้ในระดับที่ไม่ควรต้องให้กระทบกระเทือนถึงพรรคมากไปกว่านี้
       
       การใช้วิธีบริหารแบบไม่บริหารอย่างที่เคยทำมา ไม่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว เพราะไม่อย่างนั้น เรื่องราวอาจจะลุกลามจนกลายเป็นอีกปัจจัยให้พรรคเดินไปสู่หุบเหวแห่งความเสื่อมสลายได้
       
       ห้วงเวลานี้ในสังเวียนการเมืองแบบไทยๆ ประชาธิปัตย์ไม่ใช่แค่เป็นรองระบอบทักษิณ แต่ยังออกอาการสะบักสะบอมขั้นสาหัสสากรรจ์พอสมควร มีเพียงแต่พลังของภาคประชาชนเท่านั้นที่จะลุกขึ้นต่อกร และพร้อมเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้
       
       นายอภิสิทธิ์จึงไม่ควรมองข้ามพลังของพี่น้องประชาชนชาวสงขลา ยิ่งหลายปีมานี้ถูกจัดว่าเป็นเหมือนทัพหลวงของภาคใต้ที่เข้าร่วมชุมนุมไล่ให้นักโทษชายทักษิณให้ต้องกระเจิดกระเจิงออกไปร่อนเร่อยู่นอกประเทศ
       
       ต้องขอบอกไว้ด้วยว่า ณ เวลานี้ ชาวสงขลาตื่นตัวที่จะร่วมกับพี่น้องประชาชนจากทั่วทุกสารทิศล้างคราบไคลการเมืองน้ำเน่า ขจัดนักเลือกตั้งขี้ฉ้อ และกลุ่มทุนสามานย์ แล้วเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง
       
       เช่นเดียวกันในระดับท้องถิ่น ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวสงขลาก็พร้อมลุกขึ้นทำหน้าที่เพื่อชาติ และประชาชนไม่แตกต่าง

       
#905
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   14 พฤศจิกายน 2555 16:17 น.   

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือสองเครื่องในคลองข้างขนส่งรีสอร์ต หลังสูบน้ำจนแห้ง เร่งนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด อาจจะเป็นหลักฐานเชื่อมโยงคดีฆ่านายกเทศมนตรีนครสงขลา
       
       ความคืบหน้าในการค้นหาหลักฐานในคดีฆ่า นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้สูบน้ำในคลองข้างขนส่งรีสอร์ต ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอจุดที่คนร้ายนำรถไปจอดทิ้งไว้ และพบซองปืนขนาด 9 มม.รวมทั้งหมวกไหมพรมภายในบริเวณขนส่งรีสอร์ต
       
       ล่าสุดหลังจากที่สูบน้ำจนแห้งและให้แรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 15 คน ลงไปค้นหาหลักฐานภายในคลอง ปรากฏว่าพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียร์ สภาพใหม่อีก 2 เครื่อง จมอยู่ในโคลน และได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด ซึ่งอาจเป็นหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่จะสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มมือปืนและผู้บงการได้ ส่วนอาวุธปืนเอ็ม 16 และคาร์บิน ที่เจ้าหน้าที่คาดว่านำไปซุกซ่อนไว้ในคลอง รวมทั้งบริเวณรีสอร์ต ยังไม่พบและเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาต่อไป ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวคนร้าย
       
       พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามค้นหาหลักฐานให้ได้มากที่สุดตามจุดต้องสงสัยต่างๆ โดยเฉพาะอาวุธปืนสองกระบอกที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เพื่อนำมาเชื่อมโยงและมัดตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนโทรศัพท์มือถือสองเครื่องที่พบในคลองนั้น จะเร่งตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่องว่าเป็นของใคร และเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ขณะที่นายนิวัฒน์ ผู้ต้องหาคนที่สอง ที่ถูกออกหมายจับจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม
#906
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   14 พฤศจิกายน 2555 15:14 น.   

นครศรีธรรมราช - ผู้ประกอบการโรงแรม-ที่พัก ใน อ.ขนอม เตรียมพร้อม 1,000 ห้อง รับบุคลากรจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน ปตท.สผ.-บ.เชฟรอน หนีพายุดีเปรสชัน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเผย เป็นโอกาสสร้างความคึกคักด้านเศรษฐกิจให้พื้นที่ ขณะที่บริษัทแท่นขุดเจาะเตรียมแผนอพยพเต็มรูปแบบตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
       
       วันนี้ (14 พ.ย.) ภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนถึงดีเปรสชันที่อาจเคลื่อนตัวในอ่าวไทย ในช่วงตอนบนระหว่างวันที่ 16 พ.ย.55 พร้อมส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ขณะเดียวกัน ได้มีการแจ้งเตือนไปยังแท่นผลิตปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย ในทะเลแถบนี้ประกอบด้วย ปตท.สผ.และ บ.เชฟรอนสำรวจและผลิต ซึ่งทั้งสองบริษัทนั้นมีบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่กลางอ่าวไทยจำนวนมาก โดยหากสถานการณ์ทางอุตุนิยมวิทยายังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทางบริษัทจะต้องอพยพบุคลากรทั้งหมดขึ้นมาบนฝั่งเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตามแผนความปลอดภัย
       
       นางศุลีพร เสรีวิวัฒนา ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจที่พักใน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่บุคลากรจากแท่นขุดเจาะในทะเลแถบนี้จะต้องอพยพขึ้นฝั่ง เปิดเผยว่า ในพื้นที่อำเภอขนอม ที่ได้มีการประสานงานกันในเบื้องต้น อำเภอขนอมมีขีดความสามารถในการรองรับที่พักได้ 1,000 ห้อง กระจายอยู่ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอขนอมทั้งหมด พร้อมที่จะรองรับ ซึ่งมีการประสานงานไปแล้วพบว่า ทางบริษัทอยู่ในระหว่างเตรียมแผน
       
       ?การอพยพบุคลากรเหล่านี้ขึ้นฝั่งนั้นถือเป็นโอกาสที่สำคัญของผู้ประกอบการที่จะร่วมกันสร้างความคึกคักด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ขนอม และนครศรีธรรมราช โดยขณะนี้ เป็นช่วงเงียบเนื่องจากช่วงรอยต่อของปีงบประมาณ และไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เรามั่นใจว่าพื้นที่ขนอมมีศักยภาพเพียงพอทั้งด้านที่พัก และสภาพพื้นที่ที่เหมาะมากกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ บุคลากรที่จะมาพักจะเป็นส่วนที่สามารถขยายความพร้อมของที่นี่สู่ตลาดการท่องเที่ยวในอนาคตได้ ซึ่งจะส่งผลโดยรวมกับสภาพเศรษฐกิจที่จะสะพัดในพื้นที่? ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวนครศรีธรรมราชกล่าว
       
       ขณะเดียวกัน บริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ออกเอกสารแถลงถึงเรื่องนี้ว่า มีการติดตามความคืบหน้าของพายุดีเปรสชันที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณอ่าวไทย และอาจพาดผ่านพื้นที่ปฏิบัติงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่องในช่วงสองถึงสามวันนี้ ซึ่งกระบวนการทุกด้านได้มีแผน และเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ขณะนี้การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมดำเนินการตามแผนอพยพที่จัดเตรียมไว้ โดยคำนึงถึงหลักความปลอดภัยบุคลากรทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนแท่นปฏิบัติการ ที่สำคัญแผนอพยพนั้นจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน และระเบียบการปฏิบัติตามแผนรับมือ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินของการปฏิบัติงานในอ่าวไทยอยู่แล้วเอกสารแถลงระบุ
       
       ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า มาตรฐานในการปฏิบัติการตามแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้มีการพิจารณาถึงลำดับขั้นความรุนแรงตามเกณฑ์ หากมีกรณีที่จะต้องอพยพจะต้องอพยพบุคลากรทั้งหมดประมาณ 1,200-1,500 คน ออกจากแท่นปฏิบัติการขึ้นฝั่งตามขั้นตอน และในจำนวนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์จะพักอยู่ที่นครศรีธรรมราช ส่วนที่เหลือจะอยู่ที่สัตหีบ ดอนสัก และสงขลา ตามความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นดูสถานการณ์ หลังจากนั้นจะเตรียมการขนส่ง ส่วนภาคพื้นดินนั้นจะเตรียมที่พักไปเป็นลำดับ เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว
#907
โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเพิ่มเติมหลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุดในพื้นที่ จ.สงขลา เชื่อมโยงคดีฆ่านายกเทศมนตรีนครสงขลา โดยหนึ่งในเป้าหมายที่เข้าตรวจค้นเป็นบ้านพักของนายก อบต. คนหนึ่งใน อ.ระโนด จ.สงขลา
       
       วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุดในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงคดีฆ่านายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา โดยเฉพาะโรงสูบน้ำในคลองข้างขนส่งรีสอร์ตซึ่งอยู่ด้านหลังสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอจุดที่คนร้ายนำรถไปจอดทิ้งไว้
       
       เจ้าหน้าที่พบซองปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในพงหญ้า และหมวกไหมพรมตกอยู่ข้างรีสอร์ต และได้มอบให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจลายนิ้วมือแฝงว่าตรงกับนายไพศาล หนูพันธ์ และนายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้วหรือไม่ รวมทั้งผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ซึ่งเป็นทีมมือปืน ส่วนอาวุธปืนเอ็ม 16 และคาร์บิน ที่ใช้ยิงนายพีระ ซึ่งคาดว่าจะนำมาซุกซ่อนไว้ในคลองนั้นยังไม่พบแต่อย่างใด
       
       สำหรับอีกหนึ่งในเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นคือ บ้านพักของนายปราโมท แสงอรุณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา หลังพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มมือปืน และอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย
       
#908
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   13 พฤศจิกายน 2555 17:15 น.   

       แหม... ฟังชื่อ ?ข้าวลืมผัว? สาวๆ หลายคนอาจจะเกิดอยากกินขึ้นมาทันที แต่ช้าก่อน ?108 เคล็ดกิน? ขอบอกว่า ความหมายนั้นไม่ใช่อย่างที่คิด
       
       ?ข้าวลืมผัว? ที่ว่านี้ เป็นข้าวเหนียวดำที่จะปลูกในช่วงนาปี ในเขตพื้นที่สูงของชาวไทยภูเขา บริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็มีที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกนี้จะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร มีอากาศเย็น และดินอุดมสมบูรณ์
       
       แต่เหตุที่ได้ชื่อว่า ?ข้าวลืมผัว? ก็เนื่องจากเป็นข้าวเหนียวที่มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย พอเคี้ยวในปากจะได้ความมัน และนุ่มหนึบ กินได้อย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งหมด ลืมเหลือข้าวเก็บไว้ให้สามีกิน นั่นก็คือ อร่อยจนลืมผัว
       
       นอกจากจะนำไปนึ่งเป็นข้าวเหนียวแล้ว ข้าวลืมผัวยังสามารถนำไปผสมข้าวแล้วนำไปต้ม ทำให้ข้าวต้มเป็นสีม่วงอ่อนสวยงาม จะทำเป็นขนมข้าวเหนียวเปียกก็ได้ หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มจำพวกชาข้าวก็ยังได้
       
       ข้าวลืมผัว นอกจากจะอร่อยถูกปากแล้ว ก็ยังมีสารอาหารนานาชนิดที่ดีต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี กรดไขมัน โอเมก้า 6 และ 9 โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งอีกด้วย
       
       เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่อยากไปซื้อข้าวลืมผัวมาลองกินบ้าง ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะหาซื้อยาก เพราะเดี๋ยวนี้เข้ามีขายกันในห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้ว
#909
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

เครือข่ายศิลปิน จ.สงขลา ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม ?คารวะอาลัย นายกพีระ ตันติเศรณี? คืนวันพุธที่ 14 พ.ย.2555 ณ วัดแหลมทราย อ.เมือง จ.สงขลา
       
       - เวลา 16.30-18.00 น. ดนตรีโดย วงภูเล / วง ค.คน ค.โฟร์ค / วงบาโรย สลับกับการอ่านบทกวีโดย อ.ยงยุทธ หนูเนียม / วรภ วรภา
       - เวลา 18.00-18.15 น. การแสดงโนราตัวอ่อนโดย คณะสมาน สืบสานศิลป์
       - เวลา 18.15-18.35 น. ดนตรีโดย วงกอและแฟมิลี่
       - เวลา 18.35-18.45 น. บทกวีโดย มนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์
       - เวลา 18.45-19.00 น. ดนตรีโดย วงทรายเล
       - เวลา 19.15-19.30 น. กล่าวไว้อาลัยโดย ผอ.สมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการไทยพีบีเอส
       - เวลา 19.30-20.30 น. พิธีสงฆ์
       - เวลา 20.30-20.45 น. บรรเลงแซ็กโซโฟนโดย อาจารย์คมสันต์ วงค์วรรณ์
       - เวลา 20.45-21.00 น. บทกวีโดย อาจารย์จรูญ หยูทอง
       - เวลา 21.00-22.00 น. ดนตรีโดย หงา คาราวาน ศิลปินแห่งชาติ และ แสง ธรรมดา
       - เวลา 22.00-22.15 น. ร่วมจุดเทียนไว้อาลัย พร้อมบรรเลงไวโอลิน
#910
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ได้พัฒนาเป็นพายุดีเปรสชั่น ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 500 กิโลเมตร คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ตอนบนของประเทศไทยในวันที่ 16-17 พฤศจิกายนนี้ ส่งผลให้เริ่มมีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางพื้นที่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ตอนบน ทะเลมีคลื่นลมแรงสูง 3 เมตร แต่ไม่ทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จ

          ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีลมแรงและอากาศหนาวเย็นในช่วงเวลาดังกล่าว ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ส่วนหลังจากวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป พายุจะเคลื่อนตัวลงทะเลอันดามันเป็นพายุไซโคลน เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวมะตะบัน ประเทศพม่า ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน
#911
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

       ณ ปัจจุบัน...หากพูดถึงศิลปินในแวดวงคนตรีที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นสัญลักษณ์ของวงการเพลงเพื่อชีวิตในบ้านเรานั้น แน่นอนว่านอกจากพี่ใหญ่อย่าง "หงา(และ)คาราวาน" รวมถึงพี่รองอย่าง "คาราบาว" แล้ว อีกชื่อหนึ่งที่มักจะมาต่อท้ายก็คงจะหนีไม่พ้นน้องเล็กอย่าง "ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์"
       
          แม้จะเป็นน้องเล็ก ถูกยกย่องว่าเป็นคนเพื่อชีวิตรุ่นใหม่ที่จะมาแทนรุ่นพี่ๆ ทว่าหากนับระยะเวลาตั้งแต่ผลงานชุดแรก "ถึงเพื่อน" ของเขาออกมาในปี 2530 ถึงวันนี้ ปู พงษ์สิทธิ์ ผ่านร้อน-หนาวในวงการดนตรีมานานถึง 25 ปีเข้าไปแล้ว

       
          "Super บันเทิง" ขอถือโอกาสตัวเลขที่ว่านี้ "นัดคุย" อีกครั้งกับเจ้าของผลงานเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คิดถึง, ตลอดเวลา, ถึงเพื่อน, ผีโรงเย็น, โรงเรียนของหนู, ทองดี ทองเค, หนุ่มน้อย, ไทรโศก, แม่ สุดใจ, ไถ่เธอคืนมา, มาตามสัญญา, หนุ่มน้อย, ยอดชาย, นักแสวงหา, แค่นั้น, เสมอ, สัตว์รักสัตว์ ฯลฯ
          ...
       - 25 ปีที่ผ่านมามีบทเพลงหลายเพลงซึ่งกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนฟังเพลง แล้วมีเพลงไหนบ้างที่คนร้องเองชื่นชอบมากที่สุด?
          "เพลงแรกเลยคงเป็นเพลงถึงเพื่อน เพราะว่าเป็นเพลงในอัลบั้มแรก ความรู้สึกผมคิดว่ามันไม่มีอะไรดีเท่าครั้งแรกนะ แต่ในแง่ของการค้าขายมันเจ๊งน่ะ เรียกว่าล้มเหลวเลยแหละ แต่มันเป็นเพลงแรกไง แล้วมันก็สร้างชื่อให้ครั้งแรกของเรา แต่เพลงนี้ไม่ใช่เพลงผมแต่งเป็นเพลงแรกนะ"
       
          "ต่อมาเป็นเพลงไถ่เธอคืนมา ด้วยความที่ผมเองชอบแต่งเพลงที่เกี่ยวกับน้องๆ ขายบริการ หลังจากที่แต่งเพลงนี้แล้วก็จะแต่งเพลงนี้อยู่หลายเพลง แล้วก็มีเพลงหนุ่มน้อย เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ประตูของผมไปสู่เด็กรุ่นใหม่ ในความรู้สึกมันเหมือนเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแปะมือกับรุ่นเก่ารุ่นใหม่ เข้าใจง่ายๆ ก็เข้าสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน"
       
          "ต่อมาเป็นเพลงมือปืน ก็จะเป็นเพลงที่เรารู้สึกว่าโชคดีที่เราแต่งมันขึ้นมา เพลงนี้ตอนออกเป็นอัลบั้มนี่ไม่มีใครรู้จักเลยนะ เขาไปชอบเพลงอื่นกัน แต่พอ 10 ปีผ่านไปของอัลบั้มนี้ เด็กรุ่นใหม่ๆ กลับมาชอบเพลงนี้ ไปเล่นที่ไหนต้องร้องทุกที่?
       
       - เป็นเพื่อชีวิตที่เข้ากับแฟนเพลงรุ่นใหม่ๆ ได้
          "เราเองเหมือนก็โชคดีนะ 2 เพลงหลังมันเหมือนทำให้ต่อติด ทำให้เรามีแนวทางที่จะไปต่อ?
       
       - แล้วมีเพลงไหนหรือเปล่าที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของ "ปู พงษ์สิทธิ์" มากที่สุด?
          ?ส่วนใหญ่คนเขานึกถึงผมก็จะนึกถึงเพลงตลอดเวลากันนะ แต่สำหรับผมแล้วผมกลับคิดว่าเพลงที่บ่งบอกตัวตนของผมคือเพลงเสมอมากกว่า?
       
       เห็นบอกว่าชอบแต่เพลงเกี่ยวกับน้องๆ ขายบริการ เพราะอะไร?
          ?ก็ไม่รู้สินะ ผมสนใจเรื่องอย่างนี้เป็นพิเศษมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่าที่สนใจไม่ใช่ว่าผมเที่ยวผู้หญิงนะ แต่ก็สนใจเรื่องอย่างนี้ สนใจในแง่มุมชีวิตเขา ในเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เรื่องราวในที่ขายบริการที่นึงแต่ละที่ก็จะมีแต่ละคนที่มีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป ที่ๆ นึงก็มีตั้งหลายเรื่องเขาไปแล้ว"
          
          "ในแต่ละที่ที่ไปมันน่าสนใจ แต่ละที่ที่ไปเราก็ไปหาข้อมูลพูดคุยกับเขา เอาชีวิตเรื่องราวของเขามาเป็นข้อมูล เอาจริงๆ ชีวิตพวกเขากับผมก็ไม่ต่างกัน ผมเองเป็นนักดนตรีก็เป็นอาชีพคนกลางคืน ก็กึ่งๆ จะเป็นอย่างนั้น เวลาออกไปทำมาหากินก็เป็นช่วงเวลาเดียวกัน โอกาสที่จะเจอกันมันก็สูง เราก็เลยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกัน ตราบเท่าที่เราไม่ได้ไปซื้อบริการ มันก็จะมีการแลกเปลี่ยนกัน?
       
      - ตอนนี้ก็ยังลงพื้นที่หาข้อมูลอยู่?
          ?(หัวเราะ) มันจะเจอของมันเอง อย่างที่บอกเราพวกเดียวกัน เรามันคนกลางคืน เดี๋ยวเราก็มาเจอกัน เราก็ได้พูดคุยกันเป็นเรื่องราวธรรมดา ยิ่งเจอน้องๆ ที่มาจากต่างจังหวัดยิ่งรู้สึกดี คุยกันสนิทใจ?
       
       - ชีวิตในวงการที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?
          "ก็มีความสุขเป็นช่วงๆ ลำบากเป็นช่วงๆ มันขึ้นอยู่กับการที่เราสามารถควบคุมตัวเองได้ยังไงในช่วงเวลาแต่ละช่วงมากกว่า อย่างช่วงเริ่มต้นที่เราล้มเหลว ช่วงอัลบั้มถึงเพื่อน แล้วก็มาอยู่ในช่วงที่เราประสบความสำเร็จ มันก็ดูเหมือนจะสบายแต่ก็มีช่วงเวลาที่เราต้องลำบากที่เราจะต้องประคับประคองชื่อเสียง ประคับประคองสถานภาพของเรา?
       
      - ประคับประคองยังไง?
          ?มันอยู่ที่ตัวเรา แต่มันก็โอเค มีบางครั้งที่เราออกนอกลู่นอกทางไปเป็นช่วงๆ บางทีเราก็ไปประพฤติตัวในสิ่งที่ไม่ควร ช่วงที่เราสบายเรากลับใช้ชีวิตประมาทมาก ช่วงนั้นก็ต้องคอยตบแก้มตัวเองให้กลับมา ผมจะเตือนตัวเองเสมอว่าผมไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากร้องเพลง ทำเพลงดีๆ ออกมา พยายามเล่นดนตรีให้มันดี ที่เหลือไม่มีอะไรให้คนเขาดู หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นมาเราก็เลือกที่จะยอมรับความจริง ก็ดีที่คิดได้ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ เราคอยเตือนตัวเองว่าเราไม่ใช่ดารา?
       
      - คิดว่าช่วงไหนคือช่วงที่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จที่สุด
          ?ประมาณปี 2534 ไล่ๆ มาเรื่อยๆ เลย เป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลังจากที่ใช้ชีวิตประมาทอยู่ เราสามารถประคองสถานะตัวเองให้อยู่ในวงการมาได้ก็ประมาณ 15 ปีแล้วนะ?
       
      - แล้วตอนนี้ล่ะ?
          ?เราคิดว่าตอนนี้เรามั่นคงขึ้น เราหาทำเลที่ยืนของเราได้แล้ว ก็สบายใจนะ?
       
       - เนื้อหาและแนวทางของเพลงในระยะหลังๆ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปพอสมควร?
          ?คืออย่างเรื่องราวในเพลงแต่ละช่วงมันบอกตัวเราอยู่แล้ว บอกความคิดแต่ละช่วงอายุของเรา แต่ ณ อายุตอนนี้ผมจะกลับไปแต่งเพลงแบบตลอดเวลามันก็ไม่ได้แล้ว มันเลยจุดนั้นมาแล้ว ผมจะไปแต่งเพลงถึงเพื่อนก็คงไม่ได้อีกแล้ว กลายเป็นตอนนี้เราต้องมาหาเรื่องอื่นๆ มาเล่าใหม่?
       
      - ถึงขนาดจะต้องเอาใจเด็กยุคเกาหลีครองเมืองมั้ย?
          ?ก็พยายามดูว่าปีต่อปีใครที่เดินเข้ามาดูเรา จริงๆ ตอนนี้คนที่เข้ามาดูเราไม่ใช่คนหน้าเก่าๆ นะ เป็นคนหน้าใหม่ๆ ซึ่งเพลงที่เขาชอบก็ยังเป็นเพลงเดิมๆ ของเรา แต่อาจจะไม่ใช่เพลงที่คนรุ่นเก่าๆ เขาชื่นชอบ?
       
      - ใครก็มักจะบอกว่าเพลงเพื่อชีวิตมีแต่จะซบเซาไปเรื่อยๆ
          ?ผมไม่เห็นจะซบเซาเลย มีแต่พวกเพื่อชีวิตคอยทำอะไรให้คนตื่นเต้น ดูคาราบาวสิ แต่ปัญหาคือยังไม่มีรุ่นใหม่ๆ มาแทนเรา ก็คงมีแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ก็คงเหมือนช่วงผม เพราะผมเองกับพวกพี่ๆ คาราบาวก็ห่างกันเยอะครับ คิดว่าอีก 4 - 5 ปีมันก็คงจะมีมาเองครับ อาจจะมีคนเก่งๆ ขึ้นมา เชื่อว่าเดี๋ยวมันจะมาเอง คนแบบนี้เดี๋ยวมันจะมาของมันเอง มันจะเคี่ยวกรำตัวเองมา เพียงแค่ตอนนี้มันยังไม่โผล่?
       
       - แต่เราก็ถูกยกว่าเป็นรุ่นที่สามต่อจากคาราวาน - คาราบาวมานานแล้วนะ?
          ?อย่างที่บอกคนใหม่ๆ หลายคนก็พยายามกันอยู่นะ เพียงแต่ว่าเขายังไม่มา แต่เขาก็คงมีความพยายามที่จะทำกันอยู่ ลักษณะเพลงเพื่อชีวิตมันจะมาของเองมันเอง ผมยังเชื่อว่าเดี๋ยวมันก็จะต้องมีคนใหม่ๆ มา ถ้าลองไปถามพี่หงา พี่แอ๊ด พี่พงษ์เทพว่าทำไมไม่ลองทำอะไรใหม่ๆ บ้างก็คงจะมีคำตอบคล้ายๆ กันว่าบางทีเราอยู่มานานแล้ว อายุเราก็เยอะกันแล้ว"
       
          "เพียงแต่พอยิ่งเด็กรุ่นใหม่ใช้เวลาเดินทางมานานมากไปแล้ว พวกพี่ก็เริ่มจะไม่ไหวกันแล้ว คิดดูสิในวงการเพลงเพื่อชีวิตผมนี่เด็กสุดนะ ผมนี่ก็ปาเข้าไป 45 ปีแล้วคิดเอาแล้วกัน พี่หงาก็ 64 ปีเข้าไปแล้ว คิดว่าไงล่ะ พวกเราเองก็ได้แต่รอคอยคนที่เราสามารถเรียกได้ว่ากลุ่มคนใหม่ๆ มา เราก็มีความหวังอยู่ตลอดว่าเดี๋ยวเขาก็คงมา ก็พูดปลอบใจกันไป?
       
       - มั่นใจว่าเราไม่ใช่สัญลักษณ์รุ่นสุดท้าย?
          ?ไม่แน่นอนครับ ผมเชื่ออย่างนั้น?
       
       - เตรียมฉลอง 25 ปีด้วยคอนเสิร์ตใหญ่ ?สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เปิดหัวใจเพื่อชีวิต 25 ปี คำภีร์ มิวสิค เฟสติวัล" วันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.นี้ ที่ลานแอ็คทีฟ สแควร์ ด้านหน้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมศิลปินร่วมคอนเสิร์ตมากมาย อาทิ หงา คาราวาน, Blackhead, Ebola, เป้ อารักษ์, สิงโต นำโชค และวงมายด์
       
          ?ก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันใหญ่โตขนาดนี้ ก็น่าจะดีสำหรับคนดู ก็น่าจะได้กำไรกันไป ก็จะมี 2 เวทีให้น้องๆ ที่กำลังทะเยอทะยานได้มาร่วมในคอนเสิร์ตด้วย ครั้งนี้ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตผมตลอด 25 ปีวงการเพื่อชีวิต แต่ก็อยู่มาป่านนี้แล้วเวทีจะใหญ่จะเล็กเราก็อยากให้ทุกคนมีความสุข อยากให้โชว์เราออกมาดี?
       
       - ศิลปินรุ่นน้องทั้ง Blackhead, Ebola, เป้ อารักษ์, สิงโต นำโชค, มายด์ ดูเหมือนจะคนละสายกับเราเลย?
          "น้องๆ เขาอยากจะมาเล่นกับพวกเรา แต่ผมก็ยังมีน้องหงา คาราวานไง (หัวเราะ)?
       
       - หลายๆ ศิลปินมักจะจั่วหัวทัวร์คอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ แล้วออกไปต่างจังหวัด แต่นี่ดูเหมือนจะตรงข้าม?
          ?ผมคิดว่าฐานส่วนใหญ่ของผมน่าจะเป็นพี่น้องต่างจังหวัดมากกว่า เขาค่อนข้างที่จะแน่นแฟ้นกว่าคนกรุงเทพฯ ก็เลยอยากจะเริ่มแบบนี้ล่ะ?
       
      - ลองๆ เลือกๆ เพลงไว้บ้างหรือยัง?
          ?ก็ต้องดูก่อน คงจะร้องทั้งหมดคงไม่ได้ ก็คงดูว่าใครที่เขามาดูเรา ถ้าส่วนใหญ่เป็นคนใหม่ๆ เพลงก็อาจจะอีกแนวนึง แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ ก็อาจจะอีกแนวนึง อย่างเด็กรุ่นใหม่ๆ มาร้องผีโรงเย็นให้เขาฟังมันก็อาจจะเฉา?
       
       - อายุมาถึงขนาดนี้แล้ว คิดจะหาธุรกิจอะไรอย่างอื่นเพื่อความมั่นคงในบั้นปลายมั้ย?
          ?ผมคงทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว คงจะอยู่ตรงนี้จนแก่เฒ่า จนเราทำไม่ไหว คงไม่ไปทำธุรกิจธุรกรรมอะไร อย่างห้องซ้อมนี่เราทำเพื่อเราไว้ซ้อมของเราเอง ไม่ได้เอามาทำธุรกิจอะไรเลย?
       
       - ไม่มีแผนอะไรตรงนี้เลย?
          ?ไม่เลย ผมไม่มีแผนอะไรเลย ถ้ามีผมก็คงทำไปแล้ว อย่างที่บอกผมก็อายุ 45 ปีแล้ว มันมาครึ่งชีวิตแล้ว ผมกลับคิดว่าถ้าเราทำงานตรงนี้แล้วเรามีวินัยของเราอาชีพนักดนตรีก็สามารถเป็นอาชีพที่มั่นคงยั่งยืนเลี้ยงครอบครัวได้ มีความสามารถที่จะส่งลูกเท่าที่เขาพอจะมีภูมิปัญญาไปได้?
       
      - เห็นว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพอยู่ ไม่คิดจะพักบ้าง?
          ?พูดไปเดี๋ยวได้พัก ก็ไม่พูดดีกว่า มันก็เป็นโรคตามวัยอ่ะนะ ที่ผ่านมาเราดูแลตัวเองไม่ดี ระบบขับถ่าย ลำไส้มันก็ไม่ดีสักอย่าง นี่ขนาดว่าผมไม่สูบบุหรี่ ดื่มก็ดื่มเหมือนคนปกติเขาดื่มกัน ก็ไม่รู้สิ(หัวเราะ) ผมเองก็ไม่ได้ตรวจสุขภาพอะไรด้วย แต่รู้ว่ามันไม่ค่อยดีแล้ว"
       
          "ก็ตั้งใจจะพยายามไปหาหมอ ว่าจะเขาดูทวารทั้ง 9 เราหน่อย แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ไม่ได้ไปหาหมอนานหลายปีมากแล้ว เรารู้ว่ามันจำเป็นนะ ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีไปแต่ถ้ามันเป็นอะไรก็ควรจะทำให้มันหายซะ ที่ไม่ไปเราไม่มีเวลา แล้วเราก็ไม่คิดถึงหมอว่าเราจะอยากไปพบ ก็คงรอให้มันเป็นจริงๆ ก่อนแหละมั้ง?
       
       - พูดถึงครอบครัว มีเวลาดูแลครอบครัวอย่างไร เพราะดูเหมือนแทบจะไม่มีเวลาให้เลย?
          ?สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจกันว่าเวลาของเราไม่ปกติ เดือนนึงได้อยู่บ้านแค่ 1 - 2 วัน ฉะนั้นคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเราต้องเข้าใจผมมากๆ ซึ่งก็เป็นไปด้วยดี?
       
       - ทำงานกลางคืนแน่นอนสาวๆ ต้องมีมาเกาะแกะบ้าง จัดการตรงนี้ยังไง?
          "ก็ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ครับ?
       
       - ถึงวันนี้นักร้องที่ชื่อ "ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" ยังคงเนื้อหอมอยู่ไหม?
          ?ก็นะ...เราก็ต้องควบคุมตัวเอง ต้องเตือนตัวเองให้คิดยาวๆ มองไปก็รู้มันเป็นปัญหา ก็ต้องควบคุมตัวเองครับ?
#912
โดย เดลินิวส์ www.dailynews.co.th
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 11:50 น.

[attach=1]

?ปลอดประสพ? ขอเฝ้าติดตามพายุก่อตัวปลายแหลมญวน 24 ชม. หวั่นอาจเกิดสตอร์มเซิร์จได้ ยัน กบอ. พร้อมทำงานร่วม ปภ.
เมื่อเวลา 10.15 น. วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุดีเปรสชั่นก่อตัวในทะเลจีนใต้จะทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในภาคใต้ ว่า ขณะนี้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทั้งที่ช่วงเวลานี้ไม่ควรจะมีพายุเกิดขึ้น เหมือนที่ตนได้พูดไว้เมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาว่าไม่มีพายุอีกแล้ว แต่ก็มีจนได้ อย่างไรก็ตามตามจากสถิติเส้นทางพายุย้อนหลัง 5-6 ปีพบว่าหากเกิดพายุขึ้นที่ปลายแหลมญวน พายุดังกล่าวก็น่าจะเข้าอ่าวไทยตอนบน ตอนกลาง ซึ่งถ้าเข้าอ่าวไทยตอนบน จังหวัดที่ได้รับผลกระทบคือ ตั้งแต่ จ.เพชรบุรีลงมา แต่ถ้าเข้าอ่าวไทยตอนกลาง ผลกระทบจะเกิดขึ้นตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงมา ซึ่งต้องขอเวลาติดตามดูภายใน 24 ชั่วโมง แล้วถึงค่อยมีการเตือน เรือประมง ประชาชน และร้านค้าริมน้ำว่าอาจเกิดน้ำท่วม แผ่นดินถล่ม หรือแม้แต่สตอร์มเซิร์จ ก็อาจเกิดขึ้นได้

ต่อข้อถามว่าความรุนแรงของพายุลูกนี้จะรุนแรงเหมือนพายุเกย์ในอดีตหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนยังไม่กล้าประเมินไปขนาดนั้น ขอเฝ้าติดตามดูตลอด 24 ชั่วโมงนี้ก่อนว่าความเร็วลมจะเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน และยังต้องขึ้นอยู่กับลมเหนือด้วยว่าจะแรงมากขึ้นแค่ไหน เพราะส่งผลต่อกัน ดังนั้นเราต้องไม่ประมาท  ส่วนที่มีการอพยพเจ้าหน้าที่บริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าฝั่งนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาย่อมกลัว เพราะเวลามีพายุเกิดในทะเลจีน ก็ต้องย้ายเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ทั้งที่แท่นขุดเจาะปกติรับความเร็วลมได้ถึง 100กม./ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมแล้ว โดย กบอ.จะประสานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ. )และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
#913
โดย เดลินิวส์ www.dailynews.co.th
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13:13 น.

"สรยุทธ" งานเข้า ?กมธ.พัฒนาการเมือง? เตรียมส่งรายงานช่อง3-พรรคการเมือง ร่วมแบน จี้ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนพ้นข้อกล่าวหา

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การพัฒนาการเมือง การสื่อมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับผลสรุปของอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เรื่องการพิจารณาการศึกษาการทุจริตเงินค่าโฆษณาระหว่างบริษัทไร่ส้ม จำกัด กับบริษัท อสมท.จำกัน (มหาชน) เป็นเหตุให้รับความเสียหาย ทั้งนี้ที่ประชุมจะมีการจัดทำรูปเล่มภายใน2สัปดาห์ ก่อนที่จะเสนอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนของสถานีโทรทัศน์ช่อง3 ที่จะให้ดำเนินการตามมาตรฐานจริยธรรมต่อไป รวมไปถึงจะส่งรายงานให้ดังกล่าวให้พรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อพิจารณาดำเนินการเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายงานของอนุกมธ.ได้สรุปว่าการที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ประธานกรรมการ บริษัทไร่ส้ม จำกัด ไม่ได้มาให้ถ้อยคำหรือมาชี้แจงต่ออนุ กมธ. แสดงให้เห็นว่านายสรยุทธไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการพิจารณาสอบสวน อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา เพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ซึ่งที่ประชุมอนุกมธ.ได้เปิดโอกาสให้นายสรยุทธ เข้าชี้แจงเปิดเผยข้อเท็จจริงสำคัญที่ยังไม่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงของสาธารณะ เพื่อแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยไม่เป็นที่เสียหายต่อรูปคดี เนื่องจากข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของบริษัทไร่ส้มและนายสรยุทธ ได้ถูกเปิดเผยในชั้นไต่สวนของอนุกรรมการ ของ ป.ป.ช.แล้ว มิได้เป็นความลับ อันจะพึงต้องปกปิด ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ดังเช่นได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ และร่วมตัดสินใจด้วยวิจารณญาณ ในการรับฟังอย่างมีเหตุมีผลเสมือนดังที่นายสรยุทธได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ การทำงานของข้าราชการและนักการเมือง และเสนอข่าวงสถานการณ์ด้านการทุจริต เพื่อประโยชน์ของสังคมสม่ำเสมอ

เอกสารดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐหรือนักการเมือง ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา จากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องโทษทางวินัยราชการ หรือออกจากตำแหน่งทางการเมืองที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งขณะถูกชี้มูลทางความผิดไปก่อน จนกว่าผลคดีอาญาจะถึงที่สุด ซึ่งในกรณีของนายสรยุทธไม่ได้เป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐหรือนักการเมือง จึงไม่ต้องรับผิดทางวินัยและไม่มีมาตรการใดที่จะบังคับนายสรยุทธ ที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้ แต่ในฐานะสื่อที่ประชาชนจำต้องพบเห็นการทำหน้าที่อยู่ทุกวัน จึงควรมีมาตรฐานทางคุณธรรม จริยธรรม มากกว่าบุคคลอื่น นายสรยุทธจึงควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนร่วม ด้วยการยุติบทบาทในหน้าที่ สื่อมวลชนของตัวเอง ก่อนที่จะมีการดำเนินมาตรการทางอาญา เพื่อเป็นบรรทัดฐานและเป็นตัวอย่างสื่อมวลชนที่ดีในสายตาประชาชนต่อไป.
#914
โดย เดลินิวส์ www.dailynews.co.th

ความคืบหน้ากรณี "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ทีมในศึกยามาฮ่า ลีกวัน ที่เพิ่งหล่นชั้นไปเล่นในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ จะยุบรวมกับ วัวชน ยูไนเต็ด ทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า ล่าสุด นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร วัวชน ยูไนเต็ด เผยว่า แม้สงขลา เอฟซี ได้หล่นลงไปเล่นในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 แล้ว ดังนั้นสโมสรจึงได้ทำการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า สงขลา เอฟซีจะไม่มีการยุบทีม แต่พักการแข่งขัน 1 ฤดูกาล เพื่อเตรียมความพร้อมใหม่ในฤดูกาลถัดไป

  นอกจากนี้ ประธานสโมสรวัวชน กล่าวต่อว่า สำหรับใครที่ต้องการจะเข้ามาบริหาร สงขลา เอฟซี ให้ติดต่อสโมสรโดยตรง สโมสรยินดีที่จะให้บริหารทีม เพื่อที่คนสงขลาจะได้มีบอลดีๆ ดูอย่างต่อเนื่อง ส่วนอนาคตของ วัวชน ยูไนเต็ด ตอนนนี้ได้ยื่นเรื่องไปยังสมาคมฟุตบอลเพื่อขอเปลี่ยนชื่อทีมเป็น สงขลา ยูไนเต็ด แล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังรอคำตอบจากสมาคมฟุตบอลอยู่ คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่นานแฟนบอลคงได้เห็น สงขลา ยูไนเต็ด แน่นอน สำหรับนักเตะนั้นคงใช้นักเตะเดิมเป็นหลัก บวกกับนักเตะที่จะซื้อเข้ามาใหม่อีกหลายราย คาดว่าฤดูกาลหน้าน่าจะลงตัวมากขึ้นกว่าเดิม..
#915
จังหวัดสงขลา ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานที่จะนำไปถวายวัดในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันที่ 21 พ.ย.นี้  ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
           
ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  เช้าวันที่ (14 พ.ย.55)  พระธรรมวงศาจารย์ เจ้าคณะภาค 18 ประธานฝ่ายสงฆ์  และนายสุรพล  พนัสอำพล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ได้ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานสมโภชผ้ากฐินพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่วัดในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
           
ผ้าพระกฐินพระราชทานดังกล่าว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ น้อมนำไปถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษา ณ วัดที่ไม่ผู้เป็นเจ้าภาพถวายผ้ากฐินในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา ยะลา ปัตตานี และจังหวัดสตูล มี นางเยาวเรศ  ชินวัตร นายกสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ เป็นผู้ขอรับพระราชทาน โดยกำหนดจัดให้มีพิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ ฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555 และจะมีพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2555
           
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีสมโภชในวัน เวลา ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน....

ดำรง  เศวตพรหม//ข่าว
ส.ปชส.สงขลา
#916
โดย คมชัดลึก www.komchadluek.net

ย้อนไปกว่า 30 ปีก่อน ส้มจุกนับเป็นผลไม้ท้องถิ่นในภาคใต้ตอนล่าง ได้ความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปหนใด โดยเฉพาะตามตลาดนัด สถานีรถไฟ หรือคิวรถประจำทาง จะมีพ่อค้า-แม่ค้านำส้มหัวจุกที่ร้อยด้วยลวดเป็นพวง พวงละ 5-10 ผล มาขายแทบทุกแห่ง แต่หลังจากส้มเขียวหวานโชกุนมาตีตลาดทำให้ส้มหัวจุกหายไปจากท้องตลาดมายาวนาน กระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน มีเกษตรกรในพื้นที่ จ.สงขลา หันมาฟื้นปลูกส้มหัวจุกอีกครั้ง ปรากฏว่าเป็นที่ต้องการของตลาด มีเท่าไรขายได้หมด และราคายืนพื้นคงที่กิโลกรัมละ 70 บาท มาตลอด จนกลายเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่างอีกครั้ง

                    ธีรพงษ์ ทองวงศ์ เกษตรกรในพื้นที่บ้านไร่อ้อย หมู่ 5 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หันมาฟื้นฟูปลูกส้มหัวจุกยุคระลอกใหม่ โดยมีพื้นที่ปลูก 6 ไร่ จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ปัจจุบันส้มหัวจุกของธีรพงษ์กำลังให้ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 150 ต้น ส่งขายในตลาดหาดใหญ่ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 70 บาท และแม่ค้ารับซื้อไม่จำกัดปริมาณ ทำให้ผลผลิตส้มหัวจุกจากสวนธีรพงษ์ในแต่ละรุ่นไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาด

                    "ส้มหัวจุกจะออกผลผลิตทั้งปี อย่างในสวนของผมต้นส้มหัวจุก 1 ต้น ให้ผลผลิตได้ปีละ 3,000 กิโลกรัม ถ้าดินดี เราดูแลส้มหัวจุก 1 ต้น สามารถให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า เป็น 6,000 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการดูแล ผมเห็นว่า ตอนนี้ผลส้มหัวจุกราคาดี ตั้งผมปลูกมา 4 ปี ราคาไม่เคยต่ำกว่า กิโลกรัมละ 70 บาท ผมจึงขยายพื้นที่การปลูกเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ต้น เพราะเห็นว่าส้มหัวจุกตัวนี้เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่อนาคตสดใสอีกตัวหนึ่ง" ธีรพงษ์ กล่าว

                    เคล็ดลับในการปลูกส้มหัวจุกให้ประสบความสำเร็จ ธีรพงษ์ บอกว่า วิธีปลูกไม่ว่าจะเป็นที่ลุ่มหรือพื้นที่ดอน ต้องมีการยกร่อง เพื่อให้ระบบรากระบายน้ำออกจากระบบรากอย่างรวดเร็ว ระยะปลูกคือ ระยระหว่างแถว 5-6 เมตร ระยะระหว่างต้น 4-5 เมตร ขุดหลุมขนาด 50x50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกก่อนปลูก เมื่อปลูกแล้วจะต้องมีระบบการจัดการสวนที่ดี ทั้งการดูแลให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ซึ่งการใส่ปุ๋ยนั้น ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2-3 เดือนต่อครั้ง ตั้งแต่เริ่มปลูก พร้อมกับการฉีดพ่นปุ๋ยธาตุอาหารเสริมทางใบด้วย

                    ในสวนของธีรพงษ์พันธุ์ส้มหัวจุกที่จะนำมาปลูกต้องปลอดโรคส่วนพันธุ์ที่เขาปลูกนั้น ซื้อมาจากคณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งมีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้ปลอดโรค และอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การจัดการกับแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะแมงวันวันทอง ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของส้มหัวจุก แต่ห้ามใช้สารเคมีอย่างเด็ดขาด ควรใช้สารล่อแมลงใส่ไว้ในขวดพลาสติก จะได้ผลมากกว่า จึงจะได้ส้มหัวจุกที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ ผลโต และเป็นที่ต้องการของตลาด

                    "ส้มหัวจุกถือเป็นไม้ผลพันธุ์พื้นเมืองของภาคใต้ที่หากินยากลักษณะคล้ายส้มเช้ง แต่ผลใหญ่กว่า ที่หัวเป็นจุก เปลือกล่อนเหมือนส้มโชกุน ใช้ปอกด้วยมือได้ เป็นส้มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนส่วนใหญ่ชอบ เพราะลูกใหญ่ รสหวานกลมกล่อมอมเปรี้ยวเนื้อหนา และเวลาปอกเปลือกผิวจะหอมมาก ใช้ระยะเวลาการปลูกเพียงแค่ 3-4 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้แล้ว" ธีรพงษ์ กล่าว

                    จากความสำเร็จในการปลูกส้มหัวจุกในเชิงเศรษฐกิจของ ธีรพงษ์ ทำให้วันนี้สวนธีรพงษ์กลายเป็นจุดถ่ายทอดความรู้การปลูกส้มหัวจุกประจำ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ อีกด้วย ปัจจุบันมีหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งเกษตรกรเดินทางไปศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาทำเรื่องส่งไปยังกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้สวนส้มหัวจุกของเขาแห่งนี้ เป็นแหล่งผลิตพืชแกพ (GAP) หรือพืชปลอดสารพิษอีกด้วย

                    เกษตรกรที่สนใจ หรือต้องการสอบถามข้อมูลการปลูกส้มหัวจุกให้ประสบความสำเร็จ หรือต้องการไปศึกษาดูงานในพื้นที่ สามารถรติดต่อ ธีรพงษ์ ได้ที่หมายเลข โทร.08-1969-3928

--------------------
(เคล็ดลับปลูก 'ส้มหัวจุก' สำเร็จ ฟื้นไม้ผลเมืองใต้สู่พืชเศรษฐกิจ : โดย...สันติภาพ รามสูต)
#917
โดย คมชัดลึก www.komchadluek.net
ปม'แฉทุจริต'ปลิดชีพ 'พีระ ตันติเศรณี' : ตะลุยข่าวโดยโต๊ะรายงานพิเศษ

              การคลี่คลายคดีฆาตกรรม "พีระ ตันติเศรณี" ชุดสืบสวนใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เมื่อไล่เรียงจากกล้องวงจรปิดนำไปสู่การทยอยออกหมายจับทีมสังหาร โดยเชื่อว่ามูลเหตุจูงใจเกิดจากปัญหาการเมืองท้องถิ่น!!

              คืนวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผานมา "พีระ ตันติเศรณี" เสร็จประชุมกับกลุ่มเอ็นจีโอเรื่องการเคลื่อนย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสีออกไปจากเขตตัวเมืองสงขลา แล้วเดินมาขึ้นรถบริเวณหน้าร้าน สงขลาฟอรั่ม ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา วินาทีนั่นเอง ห่ากระสุนกว่า 20 นัด พุ่งใส่ร่างของเขาเสียชีวิตทันที ประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมหลายปากให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำหนิรูปพรรณคนร้าย รวมถึงยานพาหนะที่คนร้ายนำมาใช้ในการก่อเหตุและหลบหนี ขณะเดียวกันชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวแรกติดตั้งห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบเห็นรถยนต์ของคนร้ายขับด้วยความเร็วสูงผ่านไป

              เมื่อไล่เรียงภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครสงขลา พบว่า เวลา 17.15 น.คนร้ายขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ผ่านสามแยกถนนนครใน ตัดธนาคารออมสินเข้ามายังจุดเกิดเหตุในเวลา 18.29 น. หลังคนร้ายก่อเหตุเสร็จได้ขับรถหลบหนีผ่านสี่แยกสะพานเหล็กในเวลา 19.32 น. มุ่งหน้าผ่านสามแยกถนนนครนอก ไปประมงใหม่ในเวลา 19.33 น. ก่อนจะเลี้ยวรถด้วยความเร็วสูง โดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเข้าไปในซอย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ

              ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ชุดสืบสวนนำกำลังปิดล้อมพื้นที่ จนกระทั่งพบเห็นรถยนต์กระบะตามภาพจากกล้องวงจรปิด จอดทิ้งไว้ในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ถนนสงขลาพลาซ่า ของนายกิตติ ชูช่วย น้องชายนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา และเป็นอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครสงขลา หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนา คู่แข่งของนายพีระ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสงขลาครั้งที่ผ่านมา

              "หลังเกิดเหตุไม่นานนัก ชุดสืบสวนพบเบาะแสสำคัญ แล้วพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยติดป้ายทะเบียนปลอม อีกทั้งกระโปรงหน้ารถบริเวณที่ปัดน้ำฝนพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ติดค้างอยู่ อีกทั้งบริเวณทางเชื่อมไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่ง พบถุงมือ 1 ข้าง และพบหมวกไหมพรมตกอยู่" แหล่งข่าวในชุดสืบสวนกล่าว

              หลักฐานที่พบทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่า คนร้ายอาจอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรืออาจอยู่ในรีสอร์ทดังกล่าว ผู้ดูแลอ้างว่า มีเพียงห้องหมายเลข 16 ผู้เช่านำกุญแจไปด้วย ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง พบว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีดำ ติดทะเบียนป้ายแดง ขับออกไปจากบริเวณดังกล่าวก่อนที่ชุดสืบสวนมาถึงเพียงแค่ 3 นาที โดยรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเลี้ยวไปทางสวน 72 พรรษา และตรวจพบว่าจอดอยู่ภายในสถานีขนส่งจังหวัดสงขลา ตรวจสอบภายนอกรถพบว่าติดทะเบียนป้ายแดง แต่บริเวณกระจกหน้ารถยนต์มีป้ายแสดงการจดทะเบียนเสียภาษีติดอยู่

              หลังจากได้ข้อมูลรถยนต์กระบะต้องสงสัยทั้ง 2 คัน พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10), พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญสิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.คำรณ ยอดรักษ์ รองผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา, ชุดสืบสวนของภูธรภาค และภูธรจังหวัด พร้อมทั้งชุดสืบสวนของกองปราบปราม ประชุมสรุปประเด็นการสืบสวนสอบสวน

              โดยมีข้อสรุปตรงกันว่า ผลตรวจลายนิ้วมือแฝงบริเวณตำแหน่งผู้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ผู้ครองครองคือ นายนิวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) แต่ผลนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่า พบลายนิ้วมือของ นายไพศาล หนูพันธ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/9 ถนนเตาอิฐ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเคยมีประวัติกระทำความผิดเกี่ยวกับชีวิต และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน เมื่อปี 2550 แต่ศาลยกฟ้องเพราะพยานหลักฐานอ่อน

              เมื่อได้ข้อสรุปพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมสำนวนการสอบสวนเสนอต่อศาลจังหวัดสงขลา พิจารณาอนุมัติหมายจับที่ 539/2555 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ในข้อกล่าวหาร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์

              "นายไพศาลอ้างว่าเดินทางเข้ามอบตัว แต่ศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับก่อน ต่อมาได้ควบคุมตัวไปตรวจค้นจุดต่างๆ ที่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้อง ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน รวมถึงผลนิติวิทยาศาสตร์ แล้วจะพิจารณาอนุมัติหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 คน" พล.ต.อ.รชต กล่าว

              คดีนี้ชุดสืบสวนมั่นใจว่า มีมูลเหตุจูงใจมาจากปัญหาการเมืองท้องถิ่น ในอดีตที่ผ่านมานายพีระอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับผู้ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ภายหลังเกิดความระหองระแหงกัน หลังจากนายพีระดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลา พบความผิดปกติเกี่ยวกับงบประมาณแล้วกำลังรวบรวมข้อมูลส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ อีกทั้งบางโครงการที่กำลังสร้างมูลค่าหลายร้อยล้านก็เกิดปัญหา มีการแจ้งความกันไปมา จนกระทั่งเกิดคดีฆาตกรรมนายพีระ!!
...........................
(หมายเหตุ : ปม'แฉทุจริต'ปลิดชีพ 'พีระ ตันติเศรณี' : ตะลุยข่าวโดยโต๊ะรายงานพิเศษ)
#918
โปรแกรมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
       
      11 พ.ย. 2555
       ปารากวัย - โปรตุเกส (อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เวลา 16.00 น.)
       ยูเครน - ญี่ปุ่น (อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เวลา 18.30 น.)
      สเปน - ไทย (อาคารนิมิบุตร เวลา 18.30 น.)
       อิหร่าน - โคลัมเบีย (อาคารนิมิบุตร เวลา 21.00 น)
       
       12 พ.ย. 2555
       รัสเซีย - สาธารณรัฐเช็ก (อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เวลา 18.30 น.)
       เซอร์เบีย - อาร์เจนตินา (อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เวลา 21.00 น.)
       อิตาลี - อียิปต์ (โคราช ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา 16.00น.)
       บราซิล - ปานามา (โคราช ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา 18.30น.)
#919
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลานำหัวหน้าส่วนราชการรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี

วันที่ (11 ต.ค. 55) นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทางไกลกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
               
สำหรับจังหวัดสงขลา ได้จัดประชุมทางไกลหรือวีดีโอ คอนเฟอร์เร็น ขึ้น ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยมี นายกฤษฎา  บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังนโยบายและการประชุมประมาณ 90 คน
               
ในส่วนของการประชุมทางไกล วันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทุกจังหวัดได้บูรณาการ การทำงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลความเดือดร้อนของประชาชนได้ถูกจุดและรวดเร็ว นอกจากนั้นขอให้ทางจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้วางแผนการจัดทำงบประมาณในระยะยาว เพื่อรองวันการพัฒนาเข้าสู่ประชาอาเซียนในปี พ.ศ. 2558
               
สำหรับการส่งเสริมสินค้า OTOP ให้ดูรายละเอียดจุดแข็ง จุดอ่อนทางด้านผลผลิตที่มีคุณภาพ และผลผลิตเชิงปริมาณ เพื่อสนับสนุนสินค้า OTOP ได้ ตรงจุดและให้สามารถส่งสินค้าไปจำหน่าย ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น สินค้ามีคุณภาพ ส่งไปขายต่างประเทศหรือชาวต่างประเทศ รวมทั้งให้มีการสร้างตราเอกลักษณ์และประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า
               
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินของราษฎรให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์รับเรื่องและสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนรวมทั้งการสำรวจพื้นที่ ที่สามารถจัดสรรให้ราษฎรใช้เป็นที่ทำกินได้อย่างเป็นระบบ
               
สำหรับปัญหาของจังหวัดชายแดนใต้นายกรัฐมนตรีขอให้เน้นด้านการพัฒนาและสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนอย่างเร่งด้วย และอาจมีการส่งงานจากพื้นที่ภายนอกไปให้ราษฎรได้ทำที่บ้านรวมทั้งจะส่งเสริม ภาคเอกชนให้มีการสร้างแรงจูงใจแก่ลูกจ้างในการจ้างงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ อีกด้วย



ดำรง  เศวตพรหม//ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#920
โดย ศูนย์ข่าวบ้านเรา www.Gimyong.com

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 55 พล.ต.ต.ลิขิต สุทธะพินทุ ผบก.ตชด.ภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สุตสม ผกก.ตชด.43 พ.ต.ท.วัฒนา เพ็งแก้ว ผบ.ฉก.ตชด.43 และ พ.ต.ต.สุเทพ สังวรกิตติวุฒิ รอง ผบ.ฉก.ตชด.43 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหน่วยเฉพาะกิจ ตชด.43 เข้าจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอชายแดน จ.สงขลา ได้ผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย

ประกอบด้วย นายมะสุกรี ขะหรีดาโอ๊ะ อายุ 30 ปี นางฮาตอน๊ะ แก้วช่วย  อายุ 42 ปี นายดิลก จันทร์จิ อายุ 37 ปี  นายบนยา  ทองเส็น อายุ 27 ปี และ น.ส.นัดดา ขวัญโต๊ะเร๊ะ อายุ 27 ปี พร้อมยึดของกลางยาบ้า 688 เม็ด ยาไอซ์ 5 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ อาวุธปืนขนาด .38 และ กระสุน 5 นัด รวมทั้งรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน โดยทั้ง 5 คน เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดอยู่ในทีมเดียวกัน และเป็นเครือข่ายใหญ่ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

โดยการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้ง 5 คน เป็นการขยายผลมาจากการเข้าตรวจค้นแหล่งชำแหละดัดแปลงสภาพรถจักรยานยนต์และค้ายาเสพติดที่บ้านเกษมรัตน์ ม.6 ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ เมื่อวานนี้ (9 ต.ค. 55) ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน และหนึ่งในนั้นเป็นแนวร่วมในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งให้การซัดทอดไปยังเครือข่ายผู้ค้ายาที่อยู่ในทีมเดียวกัน และเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลล่อซื้อ และจับกุมได้เพิ่มเติมได้อีก 5 คน ดังกล่าว

ทั้งนี้หลังการจับกุมได้มีนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน อ.จะนะ พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอต่อรองให้ปล่อยตัว นายมะสุกรี หนึ่งในผู้ต้องหา แลกกับเงิน 1 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่เล่นด้วย
/////