Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สงขลามีเดีย

#1966
จังหวัดสงขลา ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ ประจำปี 2556

                  นายดำรง เศวตพรหม ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา แจ้งว่า ด้วยวัดพะโคะ (วัดราชประดิษฐาน) ตั้งอยู่บนเขาพะโคะหรือเขาพิพัทสิงห์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อ.สทิงพระ  จ.สงขลา  ได้กำหนดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ ประจำปี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 จนถึงปัจุจบัน โดยกำหนดวันพฤหัสบดีแรกข้างแรมของเดือน 2 (ยี่) ของทุกปีเป็นวันทอดผ้าป่า สำหรับปีนี้ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่  31 มกราคม 2556  หรือแรม 5 ค่ำ เดือน ยี่  เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ให้คงอยู่สืบไป โดยมีกำหนดการ ในวันพุธที่ 30 มกราคม 2556 (แรม 4 ค่ำ เดือนยี่) พิธีสมโภชผ้าป่า  ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป  และใน   วันพฤหัสบดีที่  31 มกราคม 2556  (แรม 5 ค่ำ เดือนยี่) ตั้งแต่เวลา 07.30 ? 11.00 น. พิธีห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ โดยมีขบวนแห่ผ้าห่มพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ และในช่วงบ่ายเวลา  13.00  น. พิธีทอดผ้าป่า แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์

                จังหวัดสงขลา  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ  ในวันที่  30 - 31 มกราคมนี้...
#1967
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th
   
ASTV ผู้จัดการรายวัน - ขณะที่ศึกฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ใกล้จะระเบิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ 4 อันดับแรกจากฤดูกาลที่แล้ว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี และ บีอีซี เทโรศาสน เตรียมเสริมทัพเต็มกำลัง แม้จะมีแนวทางการทำทีมที่ต่างกัน แต่ทุกสโมสรล้วนแล้วมีเป้าหมายเดียวกันคือ แชมเปียนส์
       
       กิเลนอิมพอร์ต : แชมป์เก่า เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด หวังเก็บ โทรฟี ไว้ในถิ่นเอสซีจี สเตเดียม เป็นสมัยที่ 4 แต่ขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการกรำศึกหนักทั้งซีซันที่มี เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เพิ่มเข้ามา จึงระดมเสริมทัพอย่างต่อเนื่องโดยเน้นไปที่แข้งต่างชาติเป็นหลัก นำโดย โรแลนด์ ลินซ์ ดาวยิงดีกรีทีมชาติออสเตรีย ชุดฟุตบอล ยูโร 2008 พร้อมด้วย มาเต็จ รัปนิค ปราการหลังดาวรุ่งชาวสโลวีเนีย, ปัค นัม โชล มิดฟิลด์เกาหลีเหนือ, คิม ยู จิน กองหลังเกาหลีใต้ และ จูเนียร์ กีมาโร ?จูนินโญ? ห้องเครื่องชาวบราซิล ของ บีบีซียู เอฟซี เมื่อบวกกับที่มีอยู่เดิมอย่าง เปาโล เรนเจล, มาริโอ ยูรอฟสกี, ดานโญ เซียกา, อัตนัน บาราคัต, โคเน โมฮัมเหม็ด และ รี ควาง ชอน ทำให้ ?กิเลนผยอง? มีแข้งต่างชาติในทีมรวมแล้ว 11 ราย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ?ย็อคกา? สลาวิซา โยคาโนวิช กุนซือชาวเซิร์บ ว่าจะผสมผสานกันได้กลมกล่อมขนาดไหน หรือจะบรรจุใครเข้าโควตารายการใด
       
       รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรกล่าวว่า ?ปีนี้ทีมต้องเล่นในถ้วยเอเชียจึงต้องเพิ่มขนาดทีมให้มากขึ้น ผู้เล่นต่างชาติอาจดูเยอะเมื่อรวมกับผู้เล่นเก่า เนื่องจากเราต้องการผู้เล่นที่มีคุณภาพมากที่สุดเพื่อใช้งานในทุกรายการ?
       
       ลูกครึ่งเซราะกราว : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้บทเรียนราคาแพงจากการเสริมตัวผู้เล่นผิดพลาดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซีซันนี้ ?เซราะกราว? สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการต้อนแข้งลูกครึ่งเชื้อสายไทยจากทุกมุมโลกมาร่วมทีม ซึ่งทุกคนล้วนพกดีกรีที่ไม่ธรรมดาติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์ มิดฟิลด์ลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ จากทีมกลาสฮอปเปอร์ ซูริค ที่เคยพาทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกยู-17 ครั้งล่าสุดปี 2009 ที่ประเทศไนจีเรีย รวมถึง เดนนิส บุสเชนนิง ตัวรุกไทย-เยอรมัน อดีตเด็กฝึกของ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา และ ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร ดาวยิงเชื้อสายไทย-ลาว ที่เคยเป็นนักเตะเยาวชนสโมสรซามพ์โดเรีย ในอิตาลี และเมื่อรวมกับ แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ ที่ย้ายมาปีที่แล้ว เบ็ดเสร็จรวม 4 ราย ซึ่งทั้งหมดสามารถลงเล่นในโควตานักเตะไทย บวกกับประสบการณ์จากต่างแดน และรูปร่างที่สูงใหญ่เชื่อว่าจะเป็นอาวุธหนักในการล่าทุกแชมป์สู่แดนอีสานใต้แน่นอน
       
       เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรเผยว่า ?เรามีประสบการณ์จากฤดูกาลที่แล้วในถ้วยเอเชีย ทำให้พบว่าต้องเร่งพัฒนาผู้เล่นไทยมากกว่าต่างชาติ จึงได้สร้างความหลากหลายด้วยการดึงแข้งลูกครึ่งเพื่อยกระดับทีมให้สูงขึ้น เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องประสบการณ์ วินัย และมีมาตรฐานเดียวกับแข้งต่างชาติระดับต้นๆในไทยลีก แต่เป็นผู้เล่นไทย?
       
       ทีมเวิร์คฉลามชล : ชลบุรี เอฟซี ยังคงแน่วแน่ในคอนเซ็ปต์การทำทีมสไตล์ของตนเอง เน้นทีมเวิร์คและระบบการเล่นเป็นหลักมากกว่าสตาร์ดัง ผู้เล่นตัวหลักยังคงเป็นชุดเดิม พิภพ อ่อนโม้ และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น เป็นคีย์แมนในเกมรุก บวกกับ 2 แข้งนอกที่เสริมเข้ามาคอยสแตนด์บายอย่าง อิรฟาน บัชดิม จอมทัพทีมชาติอินโดนีเซีย และ อีวาน บอสโควิช ศูนย์หน้า ชาวมอนเตเนโกร แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเสีย สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาตัวเก่ง แต่กลับไม่หวั่นว่าจะเป็นรอยโหว่นี้ พร้อมเปิดโอกาสให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ กับ พุทธินันท์ วรรณศรี ลูกหม้อของทีมได้แสดงความสามารถ ซึ่งปีนี้ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญว่าแข้งที่เล่นร่วมกันมานาน รวมถึงการกลับมาของ เกียรติประวุฒิ สายแวว, ศราวุฒิ จันทพันธ์ และ อนุชา กิจพงษ์ศรี จะสามารถพา ?ฉลามชล? เถลิงความสำเร็จได้หรือไม่ หลังรองแชมป์เก่าไม่ต้องพะวงในบอลถ้วยเอเชีย มีเพียงโฟกัสเดียวที่ต้องการคือแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก
       
       วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคของทีมกล่าวว่า ?ชลบุรี ยังคงเน้นทีมเวิร์คมากกว่าความสามารถส่วนบุคคล เพราะสไตล์การเล่นของนักเตะหรือผู้เล่นต่างชาติที่ย้ายเข้ามาไม่สามารถทำผลงานได้ดีตลอดทุกนัด แต่ทีมเวิร์คที่ดีสามารถสร้างมาตรฐานของทีมให้ออกมาดีได้ตลอด?
       
       แข้งคะนองมังกรไฟ : บีอีซี เทโรศาสน วางรากฐานตั้งแต่ซีซันก่อนด้วยการเปิดโอกาสให้แข้งดาวรุ่งของทีมอายุระหว่าง 18-20 ปี ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา รวมถึง อัครพล มีสวัสดิ์ ซึ่งการผ่านร้อนผ่านหนาวตลอดขวบปีที่ผ่านมา รวมถึงการก้าวขึ้นสู่ทีมชาติ ทำให้พวกเขาสั่งสมประสบการณ์พร้อมที่จะระเบิดออกมา เมื่อบวกกับผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, เคลย์ตัน ซิลวา และ ศรายุทธ ชัยคำดี ทำให้ ?มังกรไฟ? แข็งแกร่งพอที่จะเป็นตัวเต็งในการแย่งแชมป์แน่นอน
       
       ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม เผยว่า ?บีอีซี เทโรฯ วางแนวทางการทำทีมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว โดยเน้นการพัฒนาดาวรุ่งเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้หลายคนจากปีก่อนพร้อมแล้วที่จะเป็นกำลังหลักให้กับทีม และเรายังมีเด็กอีกหลายคนจากทีมเยาวชนที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาอีกเช่นกัน ซึ่งปีนี้เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป้าหมายของเราคือตำแหน่งแชมป์?
       
      ถึงเวลานี้แฟนลูกหนังของเหล่าบรรดาทีม "บิ๊ก4ไทยลีก" คงต้องมาคอยติดตามผลงานทีมรักว่าการรักษาแนวทางการทำทีมของแต่ละสโมสรจะส่งผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน เมื่อถึงเวลาเปิดสนามแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2013 เริ่มเปิดฉาก
#1968
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th


นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ ?กำนันเป๊าะ? ถูกตร.จับกุมตัวแล้ว

ตำรวจคอมมานโดบุกรวบตัว "กำนันเป๊าะ" ได้คาด่านทางด่วนลาดกระบัง หลังเดินทางมารักษาตัวที่ รพ.สมิติเวช ย่านพัฒนาการ พร้อมหลานสาวช่วงเช้าวันนี้ ขณะนี้หิ้วตัวมาไว้ที่หน่วยคอนมานโด กองปราบปราม ที่ซอยโชคชัย 4 ผบช.ก.อยู่ระหว่างสอบสวนรอส่งตัวให้ศาลอาญา
       
       เมื่อเวลา 09.30 น.พ.ต.อ.อาธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอนมานโดบุกเข้าจับกุมตัวนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ" ผู้กว้างขวางทางภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคดีจ้างฆ่ากำนันยูร และทุจริตการจัดซื้อที่ดินเพื่อทำที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว ได้ที่บริเวณด่านชำระค่าทางด่วนลาดกระบัง (ขาออก) เพื่อขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ขณะกำนันเป๊าะโดยสารมาในรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อเล็กซัส สีดำ ทะเบียน ฏฏ 9519 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับหลานสาวซึ่งร่วมกันโดยสารมาในรถจำนวน 3 คนโดยมีหลานสาวกำนันเป๊าะเป็นผู้ขับขี่หลังจากสายรายงานว่ากำนันเป๊าะได้เดินทางมารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ย่านพัฒนาการ โดยปลอมแปลงชื่อผู้ป่วยว่า นายกิม แซ่ตั้ง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้เดินทางมาสอบสวนนนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ด้วยตนเองที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปรามคอนมานโด ที่ซอยโชคชัย 4 ด้วยบรรยากาศเคร่งเครียดภายในห้องสอบสวนโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่ต่างมาปักหลักรอทำข่าวอยู่บริเวณหน้ากองปราบฯโชคชัย 4 จำนวนมากเข้าทำข่าวแต่อย่างใด โดยรายงานข่าวแจ้งใว่าหลังการาสอบสวนเสร็จสิ้น ตร.กองปราบฯจะนำตัวกำนันเป๊าะไปส่งตัวให้ศาลอาญาต่อไป
       
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2550 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ ?กำนันเป๊าะ? ในคดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วเป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน ทว่าในวันฟังคำพิพากษานายสมชายไม่เดินทางไปยังศาล และหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา
       
       คดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อปี 2536 เมืองพัทยา จะจัดหาที่ดินเพื่อใช้เป็นที่กลบฝังขยะ โดยตั้งเงื่อนไขว่าต้องอยู่ห่างจากเมืองพัทยาในรัศมีไม่เกิน 15 กิโลเมตร แต่หลังจากเปิดประมูล ไม่ปรากฏมีเจ้าของที่ดินเจ้าใดเสนอมา จึงมีการแก้ไขเงื่อนไขว่าให้ห่างออกไปอีกเป็น 25 กิโลเมตร จุดนี้เองนายพีระ ศิลรัตน์ เจ้าของที่ดินจำนวน 150 ไร่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสนอที่ดินจำนวน 140 ไร่ ให้เมืองพัทยาพิจารณา โดยเสนอขายในราคาไร่ละ 6 แสนบาทเศษ รวมเป็นเงิน 93 ล้านบาทเศษ ซึ่งเมืองพัทยาก็ตกลงซื้อที่ดินดังกล่าวเอาไว้และชำระเงินให้เจ้าของที่ดินไปทั้งหมด
       
       ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีการร้องเรียนว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในการจัดซื้อเองก็รู้ดี เพราะเคยมีหนังสือจากสำนักงานที่ดิน จ.ชลบุรี และกรมที่ดินให้ตรวจสอบและเพิกถอนสิทธิ แต่ยังฝืนทำสัญญาซื้อขาย เมื่อมีการสอบสวนลึกลงไปอีกพบข้อมูลอันน่าตระหนกถึงมหกรรมทุจริตครั้งใหญ่ เพราะที่ดินแปลงนี้ นายพีระเพิ่งซื้อมาจาก บริษัท เค.ไอ.ที.ไอ. เมื่อปี 2535 ในราคาเพียงไร่ละ 50,000 บาทเท่านั้น และในสัญญาการซื้อขายทั้ง 2 ฝ่ายก็ลงชื่อยอมรับเองว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ซึ่งระยะเวลาเพียงปีเดียว ที่ดินไร่ละ 5 หมื่นบาทกลับเพิ่มมูลค่ากว่า 10 เท่าอย่างเหลือเชื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ที่ดินที่เหลืออีก 10 ไร่ นายพีระขายต่อให้ชาวบ้านรายหนึ่งในราคาเพียงไร่ละ 30,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่เมืองพัทยาอ้างว่าได้ตรวจสอบการซื้อขายที่ดินละแวกดังกล่าวแล้ว พบว่าราคาอยู่ในระดับมาตรฐานคือไร่ละ 6-7 แสนบาท แต่จากหลักฐานพบว่า การซื้อขายที่ดินที่เมืองพัทยานำมาอ้างนั้น เกิดขึ้นในช่วงไล่เลี่ยกับที่มีการจัดซื้อที่ทิ้งขยะ และจำนวนผู้ซื้อ-ขายที่ดินรอบๆ จำนวน 3 ราย เป็นการซื้อขายกันเองแบบจงใจ เจ้าของใหม่ซื้อที่ดินไม่นานก็ขายคืนให้เจ้าของเดิม แต่ราคาลดลงมหาศาล และเมื่อสอบปากคำเจ้าของที่สารภาพว่า มีคนจ้างให้ทำเช่นนี้ ได้เงินค่าเสียเวลา 10,000 บาท ส่วนภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนมีคนออกให้ทั้งหมด
       
       กำนันเป๊าะได้เข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อชุดสืบสวนของพนักงานสอบสวนภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สืบทราบและมีหลักฐานแน่ชัดว่า นายพีระผู้ขายที่ดินให้เมืองพัทยา ทำงานอยู่ในบ้านกำนันเป๊าะ และมีสถานะเป็นเพียงคนสวนเท่านั้น จนทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกนายสมชาย คุณปลื้ม รวมเป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน
       
       นอกจากคดีข้างต้นแล้ว ?กำนันเป๊าะ? ยังตกเป็นผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชติ หรือ ?กำนันยูร? คู่แข่งบารมีร่วมเมือง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่กำนันยูรถูกสังหารเสียชีวิต แต่เป็นคดีก่อนที่กำนันยูรจะถูกสังหาร โดยตำรวจมีหลักฐานว่า มีการวางแผนและจ้างวานให้สังหารกำนันยูร ทว่า การสั่งการในครั้งนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ โดยศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์พิพากษาจำคุกในคดีจ้างวานฆ่าแต่ไม่สำเร็จเป็นเวลา 25 ปี และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2555 ศาลฎีกาได้พิพากษายืนจำคุก ?กำนันเป๊าะ? และ ?ส.ท.เหี่ยว? หรือ นายภาสกร หอมหวล คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร ศาลสั่งออกหมายจับสองจำเลยที่ยังหลบหนีมารับโทษตามคำพิพากษา
#1969
ทีมสงขลายูไนเต็ด ได้มีการวางโปรแกรมการอุ่นเครื่องก่อนที่ไทยลีก 2013 จะเปิดไว้ดังนี้

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พบกับทีม Penang f.a  ที่City Stadium,George Town, Penang

วันที่ 3 กุมภาพันธ์พบ Kedah F.Aที่ Darul Aman Stadium, Alor Star,Kedah

วันที่ 7 กุมภาพันธ์พบทีมรวมดารานักเตะจากไทยลีก ที่จ.ยะลา (พิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลPEA เอฟเอคัพ)

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พบพัทลุงเอฟซี ที่สนาม อบจ.พัทลุง

วันที่13-15-17 กุมภาพันธ์ อุ่นเครื่องกับทีมในไทยพรีเมียร์ลีกที่กรุงเทพ

วันที่25 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.เมือง จ.สงขลา

วันที่26 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.นาทวี จ.สงขลา

มีการแข่งขันฟุตบอลสองคู่ คู่แรก15.00น.ทีมสงขลายูไนเต็ดกับทีมปัตตานีเอฟซี

16.30น.ทีมรวมดาราช่อง3พบกับทีมเดโมแครต เอฟซีนำทีมโดยหัวหน้าพรรคปชป.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันที่27 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
#1970
โดย เนชั่นทันข่าว http://breakingnews.nationchannel.com

กองทัพเรือภาค 3 รับแจ้งจากชาวประมงที่ทำประมงในบริเวณหน้าเกาะราชาใหญ่ ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ว่าพบเรือของชาวโรฮิงญาซ่งเป็นเรือประมงดัดแปลงพยายามจะเข้าฝั่งที่เกาะดังกล่าว แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว และประชาชนอยู่บนเกาะจำนวนมาก ชาวบ้านบนเกาะจึงได้ห้ามไม่ให้เรือเข้าที่ฝั่งที่เกาะราชาใหญ่ พร้อมทั้งผลักดันให้ไปลอยลำอยู่ที่บริเวณเกาะราชาน้อย ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะราชาใหญ่

ด้าน พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผบ.ทัพเรือภาค 3 จึงได้สั่งการให้เรือหลวงวังใน ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกออกไปตรวจสอบบริเวณที่ได้รับแจ้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 28 ไมล์ทะเล ทางเจ้าหน้าที่พบเรือประมงดัดแปลงยาวประมาณ 30 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร ตัวเก๋ง 2 ชั้น ภายในละเรือมีชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นชายล้วน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อัดแน่นอยู่ภายในลำเรือ และบริเวณบนหลังคาเก๋ง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำเรือไปเทียบ

จากการสอบถามทราบว่า ภายในเรือมีชาวโรฮิงญาเป็นผู้ชายทั้งหมด 205 คน เดินทางออกจากพม่าเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่เมื่อเดินทางมาได้ 4 วัน อาหารและน้ำเริ่มหมดลงจึงได้นำเรือเข้าหาฝั่ง จนกระทั่งเข้ามาพบกับเกาะจึงได้นำเรือเข้าเกาะ แต่เมื่อพบกับชาวบ้านและเรือลำต่างๆ จำนวนมากที่จอดลอยลำอยู่ จึงได้ขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงถูกผลักดันให้มาลอยลำอยู่ที่บริเวณใกล้กับเกาะราชาน้อย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำเรือหลวงวังใน จึงได้แบ่งปันน้ำจืดและอาหารที่อยู่ภายในลำเรือให้กับชาวโรฮิงญา โดยชาวโรอิงญาได้นำน้ำใส่แกลลอน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ฉีดน้ำเป็นละออง เพื่อระบายความร้อนให้กับชาวโรฮิงญาที่นั่งอยู่ภายในเรือท่ามกลางแสงแดด จนกระทั่งน้ำเต็มทุกแกลลอน ชาวโรฮิงญาได้ปรบมือ เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะหันหัวเรือออกน่านน้ำสากล และเดินเครื่องเรือมุ่งไปข้างหน้าต่อไป
#1971
หน่วยเฉพาะกิจสงขลา  เร่งบรูณาการทุกฝ่ายเฝ้าระวังพื้นที่ 4 อำเภอสงขลา ไม่ให้เกิดเหตุร้ายจากผู้ก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้

                ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจสงขลา อ.เทพา จ.สงขลา พลตรีนพวงศ์ สุรวิชัย  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา หรือ ฉก. สงขลา ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและพลเรือน      ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 4 อำเภอ  จังหวัดสงขลา คือ อ.สะบ้าย้อย เทพา นาทวี และอำเภอจะนะ  เพื่อปรับกลยุทธ์ในการปฏิบัติให้เกิดความสงบในพื้นที่อย่างยั่งยืน ด้วยการบรูณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชนที่จะทำให้หมู่บ้านทุกหมู่บ้านเข้มแข็งเกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน ด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา คณะกรรมการหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและภาคประชาชน

                นอกจากนั้นจะมีการเร่งสลายโครงสร้างอำนาจรัฐซ้อนที่ผู้ก่อความไม่สงบได้จัดตั้งขึ้นในหมู่บ้านให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อหน่วยเฉพาะกิจสงขลาจะได้ส่งมอบพื้นที่ 4 อำเภอ  ให้กับทางจังหวัดสงขลา ดูแลต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทางหน่วยเฉพาะกิจสงขลาได้ทำพิธีส่งมอบพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอนาทวีให้กับทางจังหวัดสงขลาไปเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่อำเภอเทพาและอำเภอสะบ้าย้อยให้กับทางจังหวัดสงขลาได้ในเร็ว ๆ นี้...



นายดำรง เศวตพรหม// ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1972
จังหวัดสงขลาเร่งสร้างพลังประชาชนเพื่อต่อสู่กับการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา วันนี้ (25 มค.56) นายขจรศักดิ์  เจริญโสภา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสงขลา  เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหายาเสพติดของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีการระบาดในหลายพื้นที่ซึ่งพบว่าสถานการณ์    ยาเสพติดในจังหวัดสงขลา ยังคงมีความรุนแรง จากการจับกุมในคดียาเสพติดพบว่า อำเภอหาดใหญ่  มีคดียาเสพติดมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ อำเภอสะเดา อำเภอเมือง และอำเภอนาทวีตามลำดับ นอกจากนั้นยังพบว่าคดีการเสพไอซ์ มีมากที่สุด รองลงมาเป็นยาบ้าและกระท่อม ทั้งนี้เนื่องจากผู้ที่เคยเสพยาบ้าได้หันมาเสพไอซ์แทน

อย่างไรก็ตามทางศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสงขลา จะยังคงบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้าดำเนินการกับผู้เสพและผู้ค้าอย่างเข้มข้นทุกรูปแบบตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะให้ ยาเสพติดหมดสิ้นไปจากประเทศไทย โดยเฉพาะการรณรงค์ให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นพลังแผ่นดิน พลังสังคม และพลังชุมชนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่กำลังระบาดอยู่บนแผ่นดินไทยให้หมดสิ้นไป



นายดำรง  เศวตพรหม//ข่าว ส.ปชส.สงขลา
#1973
           ด้วยจังหวัดสงขลา กำหนดฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรักษาความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่ ครั้งที่ 2 โดยฝึกซ้อมการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากเหตุไฟไหม้อาคารสูง ในวันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2556 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป  ณ บริเวณโรงแรมหรรษา เจ บี หาดใหญ่ โดยการฝึกดังกล่าวจะเป็นการจำลองเหตุการณ์ไฟไหม้และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เสมือนเหตุการณ์จริง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ อย่าได้ตื่นตระหนก หวาดกลัว เพราะเป็นเพียงการฝึกซ้อมการปฏิบัติงานในการเผชิญเหตุไฟไหม้บนอาคารสูงของเจ้าหน้าที่เท่านั้น จังหวัดสงขลาจึงขอแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ทราบโดยทั่วกัน?

                                                                                           

วัชรพงศ์  พูนชุม / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1974
]ผู้ว่าฯสงขลา มอบรางวัลสำนักทะเบียนดีเด่นและบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา [/b]

[attach=1]

วันนี้ (3 ม.ค.55) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา   มอบประกาศเกียรติคุณและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ในโอกาสประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

       นายวิโรจน์ ทัฬหะวาสน์ ปลัดจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกสำนักทะเบียนดีเด่น ประจำปี 2555 และ โครงการคัดเลือกสำนักทะเบียนดีเด่นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

       สำหรับจังหวัดสงขลา สำนักทะเบียนอำเภอเทพา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสำนักทะเบียนอำเภอจำนวนราษฎร ตั้งแต่ 50,001 ? 80,000 คน และประกาศเกียรติคุณนายทะเบียน ประจำสำนักทะเบียนดีเด่น ได้แก่ นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอเทพา โครงการสำนักทะเบียนดีเด่น ประจำ 2555 ได้แก่ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ประเภทสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาล จำนวน ราษฎร ตั้งแต่ 70,001 คนขึ้นไป ประกาศเกียรติคุณนายทะเบียน ประจำสำนักทะเบียนดีเด่น ได้แก่ นายสุชาติ เล็กขาว ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่

     ประกาศเกียรติคุณบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ระดับจังหวัด และเข็มเครื่องหมายเชิดชุเกียรติ ได้แก่ นายพรชัย เสือสิงห์เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร 4 สำนักทะเบียนท้อถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่ และนางเสาวลักษณ์ทรงสงวน เจ้าพนักงานปกครองชำนาญ อำเภอเทพา และประกาศเกียรติคุณบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียนประจำสำนักทะเบียนดีเด่นและเข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ได้แก่ นางเสาวลักษณ์ ทรงสงวน เจ้าพนักงานปกครองชำนาญ อำเภอเทพา และนายสันติ คุ้มเคี่ยม เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร 7 สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่
#1975
สรุปผลอุบัติเหตุ ๗ วันอันตรายปีใหม่ จังหวัดพัทลุงมีอุบัติเหตุลดลงเล็กน้อยแต่ยังตายเท่าเดิม

ที่ห้องประชุมอิรวดี ศาลากลางจังหวัดพัทลุงวันนี้(๓ ม.ค.๕๖)นายสุชาติ สุวรรณกาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖

ทั้งนี้โดยนายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง รายงานว่า ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดช่วงวันรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๕ ? ๒ มกราคม ๒๕๕๖ และมอบแนวทางการดำเนินงานฯ ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของจังหวัดพัทลุง ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด ฯ ณ ที่ทำการสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดพัทลุง อาคารศาลากลางจังหวัดพัทลุง หลังเก่า ( ชั้น ๒ ) เพื่อประสานการปฏิบัติและดำเนินการตามแผนฯดังกล่าว และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ในทุกอำเภอ ทั้ง ๑๑ อำเภอ พร้อมทั้งจัดตั้งจุดตรวจร่วม / ด่านตรวจร่วม รวมทั้งหมด ๓๓ จุด นอกจากนั้นยังมีจุดสกัดกั้นในชุมชน / หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระจายไปทั่วทั้งจังหวัด ๗๓ จุด โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด ๒๔ ชั่วโมงทุกวัน

ซึ่งผลการดำเนินการ มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นในจังหวัดพัทลุง รวม ๔๐ ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ซึ่งเกิดขึ้น ๔๙ ครั้ง ลดลง ๙ ครั้ง คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๓๗ มีผู้เสียชีวิตรวม ๔ คน เป็นเพศชาย ๒ คน เพศหญิง ๒ เท่ากับช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวม ๔ คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ( ADMIT ) รวม ๔๕ คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ซึ่งมีผู้บาดเจ็บจำนวน ๔๙ คน ลดลง ๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๘.๑๖

สำหรับสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากรถมอเตอร์ไซด์ และเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายหลัก และเป็นทางตรง มากกว่าสายรอง ผู้ประสบเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน และส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ สาเหตุเกิดจากเมาสุราแล้วขับ / ไม่สวมหมวกนิรภัย / ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด และขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เวลาเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นช่วงกลางคืน

ด้านนายสุชาติ สุวรรณกาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงกล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวกันจำนวนมาก จึงเป็นธรรมดาที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่การที่เราสามารถรณรงค์ให้อุบัติเหตุลดลงได้ แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มากนักแต่ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนได้ทุ่มเท เสียสละทำงานอย่างเต็มที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในห้วงเวลาที่ไม่ใช่เทศกาล การรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ให้ตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้เพราะปัญหาอุบัติเหตุเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้นสิ่งที่จะแก้ปัญหาอุบัติเหตุให้เกิดความยั่งยืนได้ คือต้องสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเป็นหน้าที่และเป็นความรับผิดชอบของทุกคนในสังคม


ประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
#1976
ผู้แทนพระองค์มอบเครื่องสูบน้ำและสิ่งของพระราชทาน ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาและประชาชนจังสงขลา

(9 พ.ย.55) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณท่าแพขนานยนต์ ฝั่งตำบลบ่อยาง  อำเภอเมืองสงขลา  ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้ นายนิวัฒน์ธำรง  บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบเครื่องสูบน้ำพระราชทาน ตามโครงการ ?หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย?  ของมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯ  เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นำไปช่วยเหลือ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา
ในโอกาสเดียวกันนี้  ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ยังทรงพระกรุณาโปรดให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบสิ่งของพระราชทาน จำนวน 500 ชุด ให้กับประชาชนจังหวัดสงขลาอีกด้วย

สำหรับเครื่องสูบน้ำพระราชทาน จำนวน 2 เครื่อง เป็นแบบลากจูงโดยรถยนต์กระบะได้ มีขนาด 12 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีเยอรมัน สามารถเดินเครื่องได้ได้นาน 7-8 ชั่วโมง เมื่อพักเครื่อง 1-2 ชั่วโมง  ก็สามารถสูบน้ำต่อได้ มูลค่า 1.5 ล้านบาท  ทั้งนี้ จังหวัดสงขลาจะได้นำเครื่องสูบน้ำพระราชทาน นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ  อุทกภัย และภัยแล้ง โดยมี นายกฤษฎา  บุญราช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายอุทิศ  ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นผู้รับมอบ

พื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นแผ่นดินที่ถูกขนาบด้วยทะเล 2 ด้าน คือ ทะเลอ่าวไทยทางด้านตะวันออก และทะเลสาบสงขลาทางด้านตะวันตก  ในหลายรอบปีที่ผ่านมา ทำให้ในบางปีต้องประสบกับภัยธรรมชาติ หนักบางเบาบ้างตามปัจจัยแห่งภัยธรรมชาติ  ในโอกาสที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ยังทรงพระกรุณาโปรดให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบเครื่องสูบน้ำและสิ่งของพระราชทานให้แก่ประชาชนชาวสงขลาในวันนี้ เป็นเสมือนสิ่งย้ำเตือนให้ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์-สุขของประชาชนในจังหวัดสงขลา ทุกภาคส่วนได้ตระหนักในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา...


จันจิรา  บัวน้อย//ข่าว
ปชส.สงขลา
#1977
ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศศไทยภาค 4 สงขลา ขอเชิญร่วมแข่งขันเดิน ? วิ่ง  สปสช.อบต.ทุ่งหวัง  ครั้งที่ 1 พิชิตภูเขาหลง   ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

นายจำนงค์ เสนาจิตร์   ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศศไทยภาค 4สงขลา เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหวัง กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.ทุ่งหวัง บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้จัดโครงการ ?เดิน ? วิ่งเพื่อสุขภาพ สปสช.อบต.ทุ่งหวัง ครั้งที่ 1 พิชิตภูเขาหลง? ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ณ ที่ว่าการองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อให้เยาวชนและประชาชนในตำบลทุ่งหวังและอำเภอใกล้เคียงได้ออกกำลังกาย ด้วยการเดิน-วิ่ง พิชิตภูเขาหลง

      ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 สงขลา จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีความสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศศไทยภาค 4 สงขลา สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หรือโทรศัพท์ 074 - 553095
#1978
จังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2555   ณ วัดเปรมศรัทธา อ.สิงหนคร  ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

            นายกฤษฎา  บุญราช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  เปิดเผยว่า  ด้วยจังหวัดสงขลา ร่วมกับ อำเภอสิงหนคร และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีที่วัดเปรมศรัทธาเป็นประจำทุกปี ตามดำริของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์  ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ  ที่มีความประสงค์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามให้มีความมั่นคงสืบไป

            สำหรับในปีนี้ จังหวัดสงขลาขอเชิญชวนทอดถวายองค์กฐิน ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา 13.00 น. ณ วัดเปรมศรัทธา อ.สิงหนคร จ.สงขลา   เพื่อพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาสจะได้รับอานิสงส์ตามพระบรมพุทธานุญาตส่วนบริวารอันเป็นอดิเรก จะนำไปเผยแพร่ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระพุทธสาสนาด้านความสะอาด สงบ และสงัด ภายในวัดต่อไป....

จันจิรา  บัวน้อย//ข่าว
ส.ปชส.สงขลา
#1979
จังหวัดสงขลา เตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม ASEAN ? India Car Rally ฉลองความสัมพันธ์อาเซียน ? อินเดีย ครบรอบ 20 ปี

ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา บ่ายวานนี้(7พ.ย.) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุม การจัดกิจกรรม ASEAN ? India Car Rally เพื่อฉลองความสัมพันธ์อาเซียน ? อินเดีย ครบรอบ 20 ปี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ? 19 ธันวาคม 2555 โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อมอบหมายหน้าที่แก่หน่วยงานต่างๆ ซึ่งเข้าร่วมประชุมกว่า 50 หน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชน ที่รับผิดชอบดูแลคณะรถแรลลี่ ซึ่งจะมีรถทั้งหมด 63 คัน และผู้เข้าร่วม 250 คน

นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการฯ เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงต่างประเทศ ได้กำหนดการจัด ASEAN ?India Car Rally ในโอกาสฉลองความสัมพันธ์อาเซียน ? อินเดีย ครบรอบ 20 ปี ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ? 19 ธันวาคม 2555 เพื่อสำรวจเส้นทางจากประเทศสมาชิกอาเซียนไปยังแคว้นอัสสัมชันของอินเดีย และเพิ่มพูนโอกาสทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่าย โดยในวันที่ 29 พ.ย. 55 ขบวนแรลลี่เดินทางจากมาเลเซียผ่านด่านสะเดาถึงอำเภอหาดใหญ่ พักค้างคืนที่โรงแรม หรรษา เจบี เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 30 พ.ย. 55 แล้วเดินทางต่อไปยังพัทยา อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อไปยังกัมพูชา เวียดนามและลาวต่อไป?

 
วิชราวุฒิ แกล้วกล้าหาญ//ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1980
ที่มา สยามกีฬา www.siamsport.co.th

"เสี่ยบอย" กฤษ พรหมทอง ผอ.สโมสร "เร้ด อีเกิ้ล" หาดใหญ่ เอฟซี ออกมาปักป้ายประกาศหาคนเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร หลังประสบปัญหาในเรื่องของงบประมาณอย่างหนัก

         ความคืบหน้าล่าสุดของทีม "เร้ด อีเกิ้ล" หาดใหญ่ เอฟซี ทีมดังจากศึก เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 โซนภาตใต้ที่ตอนนี้กำลังประสบปัญหาในเรื่องของงบประมาณอย่างหนักจนทางด้านบอร์ดบริหารสโมสรเตรียมเปิดระดมทุนให้ทุกภาคส่วนที่ต้องการสนับสนุนทีมได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ

         รวมถึงเพื่อพยุงและรักษาสถานะของสโมสรหาดใหญ่ เอฟซี ให้อยู่รอดเพื่อสู้สึก ดิวิชั่น 2 ต่อไปในซีซั่น 2013 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า โดยล่าสุดทางด้าน กฤษ พรหมทอง ในฐานะผู้รักษาการประธานสโมสร หาดใหญ่ เอฟซี ได้ออกมาเปิดเผยในรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า

         "ยอมรับตามตรงว่าทีมเราประสบปัญหาในเรื่องของงบประมาณเป็นอย่างมากจนทางบอร์ดมีมติต้องทำการเปิดระดมทุนโดยเตรียมจำหน่ายหุ้นให้ผู้ที่สนใจในหน่วยละ 1,000 บาท และจะต้องซื้อเป็นจำนวน 10 หุ้นขึ้นไป

         แต่ในอีกแง่หนึ่งถ้าหากว่าใครต้องการเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรเพื่อนำไปบริหารเองนั้นทางเราก็ยินดี เพียงแค่เข้ามาช่วยโปะหนี้จำนวน 4 ล้านบาทที่เราเป็นหนี้อยู่ก็เข้ามาทีมได้เลย แต่ต้องสัญญาว่าจะต้องตั้งใจเข้ามาทำอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อให้ทีมหาดใหญ่ก้าวหน้าต่อไป"