นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้ประกาศเขตความช่วยเหลือภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วมและวาตภัยเพิ่มเติมอีก 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองสงขลา อ.สิงหนคร อ.บางกล่ำ อ.ระโนด อ.นาหม่อม และ อ.คลองหอยโข่ง จากเดิมที่ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว 8 อำเภอ ทำให้ขณะนี้ จ.สงขลา มีพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้วทั้งสิ้น 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ของ จ.สงขลา โดยเหลือเพียง อ.กระแสสินธุ์ และ อ.สทิงพระ เท่านั้น พร้อมกับเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 ได้นำเครื่องจักรกลพร้อมคนงานสร้างสะพานแบริ่ง เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนได้สัญจรไปมาชั่วคราว รวมทั้งสามารถเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้สะดวกยิ่งขึ้น หลังจากคอสะพานเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่ 4 กับหมู่ 9 ต.บ้านนา ถูกน้ำซัดคอสะพานและถนนขาดเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร โดยชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 และ หมู่ 10 ของ ต.บ้านนา อ.จะนะ กว่า 400 ครัวเรือน ยังคงรอการช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุดใน อ.จะนะ
นายอภัย ดิษสระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านบ่อต้นแซะ ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องเสนอไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อขอถุงยังชีพพระราชทานนำมามอบให้กับ นายวิโรจน์ ดวงจันทร์ อายุ 61 ปี ซึ่งพิการเดินไม่ได้ และต้องอาศัยอยู่ตามลำพังที่บ้านพักเลขที่ 3/3 หมู่ 10 ต.บ้านนา อ.จะนะ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้น เนื่องจากขณะนี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะ บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และนานเกือบ 1 สัปดาห์ โดยไม่สามารถออกมาได้ และต้องอาศัยอยู่บนบ้านเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ได้มีเพื่อนบ้านช่วยกันดูแล และพายเรือนำอาหารไปส่งให้ ขณะที่ชาวบ้านต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมที่หนักที่สุดใน อ.จะนะ
ส่วนพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลานั้น จากภาวะน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้หนุนเข้าท่วมพื้นที่ชายฝั่งในหลายอำเภอ เช่น ที่ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ น้ำได้หนุนเข้าท่วมภายในที่พักสงฆ์แหลมโพธิ์ โดยระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว และชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปไหว้พระทำบุญได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนที่รุนแรงในรอบหลายปี
นอกจากนี้พื้นที่ชายฝั่งทะเลสาบสงขลา ทั้ง อ.บางกล่ำ อ.ควนเนียง อ.สิงหนคร และ อ.กระแสสินธุ์ ต่างประสบปัญหาเดียวกัน และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำในทะเลสาบสงขลายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา และน้ำจากพื้นที่ จ.พัทลุง ไหลมาสมทบ และอาจจะท่วมขังนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จากมวลน้ำที่ยังคงไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาอย่างต่อเนื่อง
/////