งานสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย ตอน 1 เคาะเส้นทางแล้ว เริ่มต้นจากถนนสายเอเชีย อำเภอบางกล่ำ ถึงเขตอำเภอคลองหอยโข่ง พร้อมเส้นทางเชื่อมสายสนามบินรวมระยะทาง 32 กิโลเมตร
(14 ต.ค.58) ณ โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการเปิดการประชุมสรุปรูปแบบโครงการและรูปแบบทางแยกต่างระดับที่เหมาะสม (สัมมนาครั้งที่ 2) งานสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย ตอน 1 โดยมีนายไพศาล สุวรรณรักษ์ ผู้แทนกรมทางหลวง กล่าวรายงานโครงการ พร้อมผู้แทนบริษัทที่ปรึกษาโครงการร่วมนำเสนอโครงการโดยมีผู้แทนท้องถิ่นและประชาชนในแนวสำรวจเส้นทางเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
สำหรับโครงการศึกษาการก่อสร้างทางด่วนพิเศษระหว่างเมืองมอเตอร์เวย์ เป็นโครงการศึกษาเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดนของอำเภอสะเดา ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงเศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่และข้างเคียง ที่มีการจราจรและการขนส่งเพิ่มขึ้นทุกวัน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ จึงเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
โครงการมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-สะเดา มีจุดเริ่มต้นจากถนนสายเอเชีย ช่วงบ้านยางงาม ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ และมีจุดสิ้นสุดที่บริเวณด่านสะเดาแห่งใหม่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา รวมระยะทาง 64 กิโลเมตร สำหรับช่วงที่ 1 เป็นการสำรวจจากจุดเริ่มต้น อ.บางกล่ำ หาดใหญ่ และคลองหอยโข่ง ระยะทาง 26 กิโลเมตร และเส้นทางเชื่อมสายสนามบินหาดใหญ่อีก 6 กิโลเมตร รวมเป็น 32 กิโลเมตร
สำหรับตอน 1 จากจุดเริ่มต้นที่บ้านยางงาม ม.10 ต.ท่าช้าง ถ.สายเอเชีย ห่างจากทางเข้าอำเภอบางกล่ำประมาณ 1.5 กิโลเมตร ผ่านบ้านป่ายาง ม.9เชื่อมต่อ อ.หาดใหญ่ ด้านหลังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ม.3 และ ม.4 ต.ฉลุง ผ่าน ม.1 ,2 ,3 ,4 และ ม.10 ต.ทุ่งตำเสา พื้นที่ ม.4 ต.ควนลัง และเชื่อมต่อเขต อ.คลองหอยโข่ง พื้นที่ ม.5 และ ม.7 ต.คลองหลา และพื้นที่ ม.3 ,4 ,5 ต.คลองหอยโข่ง รวม 3 อำเภอ 6 ตำบล 15 หมู่บ้าน พร้อมเชื่อมต่อกับตอน 2 พื้นที่อำเภอสะเดาถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่บริเวณด่านสะเดาแห่งใหม่
โดยการสำรวจเส้นทางเน้นให้เป็นแนวทางตรงเพื่อให้ง่ายต่อการขนส่งและทำความเร็วของรถ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องให้กระทบต่อประชาชนและชุมชนน้อยที่สุด ทางทีมสำรวจจึงได้มีการเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อยช่วง กม.ที่ 18+400 ที่ตัดผ่านสุสานตรัยรัตน์ ซึ่งเป็นสุสานเก่าแก่ของ ม.7 ต.คลองหลา เป็นสถานที่สำคัญทางจิตใจของชาวบ้าน ทางทีมสำรวจจึงมีการออกแบบให้เลี่ยงพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
ส่วนแนวเวนคืนในเขตทางโครงการจะมีตั้งแต่ 80 เมตร สำหรับเส้นทางถนนทั่วไป และ 120 เมตร สำหรับพื้นที่ทางร่วมทางแยก โดยในการก่อสร้างจะเน้นไม่ให้ถนนไปกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนดั้งเดิม จะมีการสร้างจุดระบายน้ำ ทางลอดสำหรับพื้นที่ชุมชน รวมถึงทางยกระดับในแยกใหญ่ช่วงจุดเริ่มต้นโครงการและทางเชื่อมถนนสายสนามบินหาดใหญ่ จากการเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนครั้งที่ 1 และเวทีย่อยส่วนใหญ่สนับสนุนให้เกิดโครงการนี้เพราะเชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่
อย่างไรก็ตามในการศึกษาข้อมูลจะต้องมีการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการกำหนดรูปแบบสร้างเส้นทางที่เหมาะสมและประชาชนมีส่วร่วมมากที่สุด โดยสิ่งที่ประชาชนกังวลคือการชดเชยกรณีที่ดินไม่มีโฉนดจะได้เหมือนกับคนที่มีโฉนดหรือไม่ ตรงนี้ยืนยันว่าได้เหมือนกันเพียงแต่อาจได้ไม่เท่ากับเจ้าของที่ที่มีหนังสือครอบครองที่ชัดเจน
โดยประมาณต้นปีหน้ามีการสรุปรูปแบบและแนวทางการก่อสร้างที่สมบูรณ์ พร้อมเปิดเวทีให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอเพื่อปรับปรุงโครงการครั้งสุดท้าย และเสนอให้กระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอรัฐบาลในการอนุมิติงบประมาณจัดสร้างต่อไปในอนาคต