ที่มา http://tcijthai.com/tcijthainews/
วันชัย พุทธทอง ศูนย์ข่าว TCIJ 29 กรกฏาคม 2556
กรมโยธาฯลุยถมดินลูกรังดินขี้เป็ด ทำชายหาดชลาทัศน์-สมิหลา สงขลาเละ อ้างจะทำถนนกันคลื่น นายกฯสงขลสั่งหยุดทันที ยันไม่ได้รับแจ้งให้ทราบแม้แต่ครั้งเดียว มารู้จากจนท.ต้องออกมาสั่งหยุด แต่คนงานก็ยังไม่เชื่อ ไปเอาดินขี้เป็ดมาถมแทนลูกรังอีก จนชายหาดเละไปหมด นักวิชาการจวกปัญหากัดเซาะเกิดจากสร้างที่กันคลื่นที่หาดเก้าเส้ง จนกระทบไปทั่ว มีการวางบิ๊กแบ็คมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ล้มเหลวหมดเงินไปเป็นร้อยล้าน
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ชายหาดชลาทัศน์-สมิหลา อ.เมืองจ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มพลเมืองสงขลา และ นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เดินทางมาดูสภาพชายหาด ที่ถูกถมและบดอัดด้วยดินลูกรัง และดินขี้เป็ดส่งผลให้ชายหาดชลาทัศน์ไม่เหลือสภาพชายหาดที่เคยสวยงามอีกต่อไป ในบริเวณดังกล่าวพบรถแบคโฮ 2 คัน กำลังตักดินถมบนชายหาด โดยมีรถบรรทุกสิบล้อหลายคัน ทะยอยบรรทุกดินเข้ามาถมในบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เปิดเผยว่า ทางเทศบาลนครสงขลาไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้ทราบมาก่อนว่าจะมีโครงการถมดินบนชายหาดชลาทัศน์ ในบริเวณดังกล่าว เพื่อสร้างถนนหรืออื่น ๆ ทราบเมื่อพบว่ามีการนำดินลูกรังมาถมชายหาดเพื่อทำถนนเสร็จแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันหยุดราชการ ทราบเรื่องเนื่องจากทางหัวหน้าช่างของเทศบาลนครสงขลาขับรถผ่านมาเห็นจึงแจ้งให้ทราบ หลังจากทราบเรื่อง ผมได้แจ้งให้ผู้ดำเนินการถมดินยกเลิกดำเนินการ และให้รื้อถนนลูกรังที่นำมาถมชายหาดออกไปทั้งหมด ต่อมาทราบว่า ดินลูกรังที่นำมาถมทำถนนบนชายหาดถูกรื้อออกไปทั้งหมดแล้ว
นายกเทศมนตรีนครสงขลากล่าวต่อว่า เหตุการณ์ผ่านไป 7 วัน ทราบว่าผู้ดำเนินการรายเดิม นำดินขี้เป็ดมาถมชายหาดอีกครั้ง ดินที่นำมาถมบนชายหาดมีจำนวนมาก เป็นดินสีดำซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศชายหาดอย่างแน่นอน การกระทำดังกล่าวจะรีบแจ้งให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพราะจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศชายหาด ที่สำคัญโครงการดังกล่าว ดำเนินการโดยไม่ได้แจ้งให้ทางเทศบาลนครสงขลาทราบแต่อย่างใด
ทางด้าน ดร.สมบูรณ์ พรพิเนตพงศ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ กล่าวว่า ปัญหาการกัดเซาะชายหาด ชลาทัศน์เกิดจากโครงการสร้างเขื่อนหินกันคลื่นชายหาดเก้าเส้ง และส่งผลกระทบรุนแรง มาอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การใช้วัสดุแข็งมาก่อสร้างบนชายหาดเป็นจุดเริ่มต้นหายนะของชายหาดดังเช่นในปัจจุบันนี้ และยังทำให้ปัญหานี้ลุกลามกว่าปกติ เหมือนเช่น ชายหาดชลาทัศน์ เมื่อเขื่อนหินสร้างผลกระทบต่อชายหาด ก็คิดโครงการต่อไปโดยดำเนินโครงการ วางบิ๊กแบ็ค กระสอบทรายยักษ์ บนชายหาดเป็นแนวยาวผลกระทบก็ยังเกิิดขึ้นเป็นลูกโซ่
ดร.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า แก้ปัญหาชายฝั่งถูกกัดเซาะ ด้วยการก่อสร้างในรูปแบบต่าง ๆ นั้น เกิดจากมีนักวิชาการบางคนพยายามสร้างความเข้าใจผิด ๆ ชี้แนะให้หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการตามที่นักวิชาการคนนั้นคิด ปัญหาจึงลุกลามอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดการนำดินลูกรัง และสีดำมาถมบนชายหาดและกำลังจะมีการวางบิ๊กแบ็ค หรือกระสอบทรายยักษ์ ตามมาในเร็ว ๆ ไม่ใช่ทางออกของปัญหา เพราะ วางบิ๊กแบ็คที่ชายหาดแห่งนี้ทำมาแล้วสามครั้ง งบประมาณหลายร้อยล้านบาท แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ครั้งนี้จะแตกต่างจากที่ดำเนินการที่ผ่านมาอย่างไร