โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th
ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติไฟฟ้าในช่วงเดือนเมษายนดูเหมือนลดลงไปมาก เมื่อมีการประเมินว่าไฟฟ้าสำรองพร้อมใช้ในวันที่ 5 เมษายน ซึ่งเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในพม่า มีปริมาณมากกว่า 1,200 เมกะวัตต์ หรือพ้นจุดเสี่ยงไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับ และวันนี้ จะมีการรวบรวมแผนรับมือวิกฤตพลังงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนซักซ้อมแผนบริหารจัดการพลังงานภาวะวิกฤต วันที่ 13 มีนาคมนี้
ช่วงสายวันนี้ (6 มี.ค.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงาน จะรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะสภาอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรม ที่เตรียมเสนอตัวเลขการลดใช้พลังงานในโรงงานต่างๆ เพื่อให้ภาครัฐประเมินได้ว่า กำลังไฟฟ้าสำรองจะสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าใด
ขณะที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับ ช่วงขาดก๊าซจากแหล่งในพม่า ระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน แม้แรงดันไฟฟ้าบางจุดต่ำกว่าปกติโดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ได้ประสานปรับเปลี่ยนจุดจ่ายไฟฟ้าระหว่างกัน
ส่วนปริมาณไฟฟ้าสำรองพร้อมใช้ได้เพิ่มจาก 767 เมกะวัตต์ เป็น 1,291 เมกะวัตต์แล้ว เพราะหลายโรงงานปรับแผนการผลิตให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลง มีผลให้ความเสี่ยงไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับลดลงไปด้วย
เว้นแต่เกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าขัดข้อง จนสำรองไฟฟ้าไม่เพียงพอ อาจต้องดับไฟฟ้าบางพื้นที่ แต่ต้องทำความเข้าใจผู้ใช้ไฟทั้งครัวเรือน อุตสาหกรรม และภาคธุรกิจ โดยการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงตกลงกันว่า จะแบ่งปริมาณไฟฟ้าที่จะดับสัดส่วน 30 ต่อ 70
นายชาญชัย บัณฑิตเสาวภาคย์ รองผู้ว่าการควบคุมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า ตามแผนจะเลือกดับไฟเฉพาะพื้นที่ที่มีผลกระทบน้อยที่สุด เช่น ไฟฟ้าครอบครัวในพื้นที่รอบนอกที่ห่างไกล ส่วนพื้นที่สำคัญ พื้นที่เศรษฐกิจ โรงพยาบาล สถาบันการเงิน โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไฟฟ้าจะไม่ดับแน่นอน
หากได้รับความร่วมมือจากประชาชน ลดการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะ 13.00-15.00 น. และ 18.30-21.00 น. สำรองไฟฟ้ามีโอกาสเพิ่มเป็นกว่า 1,500 เมกะวัตต์ และอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย 200 เมกกะวัตต์