สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา รณรงค์งดเผาฟางและตอวังพืช ปี 2558 เพื่อประโยชน์ของชาวนาในพื้นที่ และลดปัจจัยการเกิดสภาวะโลกร้อน
(26 มี.ค.58) ที่บริเวณทุ่งนา หมู่ที่ 5 บ้านคูวาตก ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา นายปรีชา โพธิ์ปาน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เป็นประธานในโครงการ รณรงค์งดเผาฟางและตอวังพืช ปี 2558 จัดโดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสงขลา และภายในได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการรณรงค์งดเผาฟางและตอวังพืช โดยมีอาสาสมัครหมอดิน เจ้าหน้าของสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดต่างๆ และชาวนาในพื้นที่อำเภอระโนดเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นางศิริวรรณ เกษตรสุนทร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสงขลา ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดโครงการฯ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์งดเผาฟางและตอวังพืช ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในตำบลบ้านขาว และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนกว่า 200 ราย ได้ทราบถึงประโยชน์การงดเผาฟางและตอซังพืช คือเพิ่มปริมาณอินทรีย์ วัตถุปรับปรุงโครงสร้างดิน และรักษาระดับความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนนี้ยังทำให้ดินมีความโปร่งร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น เป็นการนำธาตุอาหารจากตอซังพืชลงสู่พื้นดิน และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีได้
อีกทั้งยังช่วยป้องกันและบรรเทาการเกิดสภาวะเรือนกระจกหรือโลกร้อนได้ ซึ่งหากดำเนินการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการไถกลบตอซังข้าวเพิ่มมากขึ้นจะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในดินได้อีกด้วย โดยมุ่งหวังให้เกษตรสามารถนำแนวทางหรือวิธีการไปใช้ในพื้นที่ของตนเองได้
สำหรับภาพรวมของประเทศไทย ปัจจุบันมีเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากตอซังข้าว ข้าวโพด และพืชอื่นๆ ประมาณ 35 ล้านตันต่อปี เฉลี่ยไร่ละ 300 กิโลกรัม ถ้าเผาวัสดุเหล่านี้ทิ้งทั่วประเทศทำให้สูญเสียธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน 90 ล้านกิโลกรัม ฟอสฟอรัส 20 ล้านกิโลกรัม โพแทสเซียม 260 ล้าน กิโลกรัม และธาตุอาหารรอง เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ ซึ่งคิดเป็นเงินกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี...
วิชราวุฒิ แกล้วกล้าหาญ//ภาพ//ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
ช่วยกันคนละไม้คนละมือ
เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยครับ
มีแต่กิจกรรมดีดีทั้งนั้น