ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าฝนปาล์มน้ำมันมีโอกาสที่จะเป็นโรคทะลายเน่าได้สูง เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นสาเหตุโรคนี้ ซึ่งการเกิดโรคและการแพร่ระบาดพบมากในปาล์มอายุ 3 – 9 ปี โดยเฉพาะปาล์มที่มีการผสมเกสรไม่สมบูรณ์ อันเนื่องมาจากเกสรตัวผู้น้อยหรือมีแมลงผสมเกสรไม่เพียงพอ ซึ่งการเกิดโรคทะลายเน่าของปาล์มน้ำมันจะมีความสัมพันธ์กับอากาศที่ชื้นในฤดูฝน รวมถึงในสภาพที่ปลูกปาล์มชิดกันเกินไป ทำให้เกื้อกูลต่อการเกิดโรคได้อย่างรวดเร็ว
อาการของโรคในระยะแรก พบเส้นใยสีขาวของเชื้อราบนทะลายปาล์มน้ำมัน เส้นใยเจริญอยู่บริเวณช่องระหว่างผลปาล์มและโคนทะลายส่วนที่ติดทางใบ ต่อมาเส้นใยขึ้นปกคลุมทั้งทะลาย เกิดอาการผลเน่าเป็นสีน้ำตาล ในแปลงที่ไม่มีการกำจัดทะลายที่แสดงอาการเน่าออกจากต้น เชื้อราสาเหตุจะกระจายไปยังทะลายที่อยู่ใกล้เคียงตลอดจนส่วนอื่นๆ ของต้นปาล์มน้ำมัน เช่น บนโคนทาง ก้านทาง หรือบนใบย่อย
การป้องกันกำจัดโรคนี้ โดยการทำลายส่วนที่เป็นโรคทิ้ง หาวิธีการให้ปาล์มได้รับการผสมเกสรให้เพียงพอ เพื่อลดจำนวนทะลายที่ผสมเกสรไม่ติดอันจะเป็นที่อาศัยของเชื้อรา อีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือ หลีกเลี่ยงการสร้างทะลายจำนวนมาก ในระยะที่ต้นปาล์มน้ำมันกำลังอยู่ในช่วงให้ผลผลิตในระยะแรก โดยการตัดช่อดอกหรือทะลายทิ้ง และควรเก็บทะลายที่มีการผสมเกสรไม่สมบูรณ์ออกให้หมด ตลอดจนการตัดแต่งทางใบ ซึ่งเป็นการลดความชื้นที่คอทาง
อีกวิธีการหนึ่งในการป้องกันโรคทะลายเน่าปาล์มน้ำมัน คือ การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นตัวควบคุมเชื้อราสาเหตุโรคนี้ โดยใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่า 1 กก. ละลายในน้ำ 5 ลิตร กรองเอาเฉพาะน้ำ แล้วนำไปผสมกับน้ำอีก 100 ลิตร ควรใส่สารจับใบลงไปด้วย แล้วนำไปฉีดต้นปาล์มโดยเฉพาะบริเวณทะลายปาล์มให้ทั่วทั้งแปลงทุกๆ 20 วัน ต่อครั้ง ในระหว่างฉีดให้เขย่
:D :D ขอบคุณมากๆคับ
ดีเลยครับเป็นการบอกเกษตกรไปในตัวด้วยนะครับ