Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สงขลามีเดีย

#1921
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ 22 พ.ย.2555 จนถึงเวลา 17.09 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ก็จากไปอย่างสงบ เมื่อแพทย์แถลงว่า ถึงอสัญกรรมด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

พล.ต.สนั่น ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ศิริราช  เข้ารับการรักษาที่ รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยปัญหาทางเดินหายใจ (ถุงลมโป่งพอง) โดยพักอยู่ที่หออภิบาลการหายใจ ?บัญญัติ ปริชญานนท์? Respiratory Care Unit (RCU) ชั้น 2 ตึกอัษฎางค์ รพ.ศิริราช ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ แต่ยังไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2478  เป็นชาวจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ก่อตั้งพรรคมหาชน และเคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงได้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลมาแล้วมากมายอาทิ รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม, รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และถูกเรียกขานจากสื่อมวลชนและแวดวงการเมืองว่า"เสธ.หนั่น"

ประวัติทางครอบครัว พล.ต.สนั่น สมรสกับ นางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ มีบุตร-ธิดารวม 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน โดยบุตรชายเข้าสู่วงการเมือง คือ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ หรือ "ยอด" อดีต ส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรคมหาชน ส่วนบุตรสาวอีก 3 คนคือ น.ส.บงกชรัตน์ ขจรประศาสน์, น.ส.ปัทมารัตน์ ขจรประศาสน์ และ น.ส.วัฒนีพร ขจรประศาสน์

ประวัติทางการศึกษา พล.ต.สนั่น สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและโรงเรียนเสนาธิการทหารบก และศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีศิลปะศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง,ปริญญาโทศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตรัฐศาสตร์ สาขาบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอกศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันราชภัฎจันทรเกษม พล.ต.สนั่น เคยรับราชการเป็นทหารบก เหล่าทหารม้า มียศทางทหารสุดท้ายเป็น พันโท

ก่อนจะถูกให้ออกจากราชการ เมื่อ พ.ศ. 2520 เนื่องจากร่วมก่อการกบฏ 26 มีนาคม 2520 ที่มีความพยายามโค่นล้มรัฐบาลชุดที่มีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริเป็นหัวหน้า โดย พ.ท.สนั่น เป็นเลขาธิการคณะ พ.ท.สนั่น ถูกจำคุกที่ เรือนจำลาดยาว จากข้อหากบฏ ทำให้ได้พบและสนิทสนมกับ พ.อ.มนูญ รูปขจร (ปัจจุบันคือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร) แต่หลังจากนั้นเมื่อ พ.ท.สนั่น ได้เข้าทำงานการเมือง และดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงมหาดไทย พ.ท.สนั่นได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น "พลตรี"

ปลายปี พ.ศ. 2540 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ถูกแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเกิดการลดค่าเงินบาทในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 และตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 ในเวลานั้นพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกอบด้วย พรรคความหวังใหม่, พรรคชาติพัฒนา, พรรคชาติไทย, พรรคประชากรไทยและพรรคกิจสังคม ตกลงที่จะสนับสนุน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ทางพรรคฝ่ายค้านที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ และมีจำนวนส.ส.น้อยกว่าพรรคความหวังใหม่เพียง 2 เสียง ก็มีความพยายามที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยเช่นกัน

วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 นายเสนาะ เทียนทอง เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ได้จัดแถลงข่าวยืนยันการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ชั้นล่างของทำเนียบรัฐบาล แต่ในเวลาเดียวกัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เปิดแถลงข่าว เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลด้วยเช่นกัน โดยมีเสียงสนับสนุนจากพรรคกิจสังคมของ นายมนตรี พงษ์พานิช ที่ย้ายฟากมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอย่างกะทันหัน และมีตัวแปรสำคัญคือ ส.ส. พรรคประชากรไทย จำนวน 12 คน นำโดย นายวัฒนา อัศวเหม และ นายฉลอง เรี่ยวแรง ที่เข้าร่วมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้สถานการณ์พลิกกลับอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเสียงทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่า และทำให้นายชวน หลีกภัย ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ในที่สุด

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น สื่อมวลชนได้เรียก ส.ส.ทั้ง 12 คนนั้น ว่า "กลุ่มงูเห่า" เพราะนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทย ได้เปรียบเทียบตนเองไว้ว่า เหมือนชาวนาในนิทานอีสป เรื่อง "ชาวนากับงูเห่า" เพราะแกนนำของ ส.ส. ทั้ง 12 คน โดยเฉพาะ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ของนายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งเดิมสังกัดพรรคสามัคคีธรรม แต่ภายหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ไม่มีพรรคใดรับเข้าสังกัด จนในที่สุดเข้ามาสังกัดพรรคประชากรไทย ที่นายสมัครเป็นหัวหน้าพรรค

การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ โดยนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.จังหวัดขอนแก่น พรรคความหวังใหม่ ได้เปิดเผยข้อมูลระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พล.ต.สนั่น แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยระบุว่ามีการกู้ยืมเงินจำนวน 45 ล้านบาท จากบริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส ทั้งที่ไม่มีการกู้ยืมจริง และนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ได้ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนคดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ว่า

พล.ต.สนั่น มีความผิด ฐานจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 295 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ พล.ต.สนั่น ต้องลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นมายาวนานถึง 13 ปี หลังการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง พล.ต.สนั่น ได้ก่อตั้ง พรรคมหาชน ขึ้นมาโดยมี ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 และต่อมา พล.ต.สนั่น ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อมา

แต่หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พล.ต.สนั่น พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย และสมาชิกพรรคมหาชน เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบันไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ถือเป็นการสิ้นสุดการดำเนินงานของพรรคมหาชนไปโดยบริยาย ต่อมาพล.ต.สนั่น ได้เข้าสู่วงการเมืองอีกครั้ง โดยได้ร่วมรัฐบาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช, รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ และจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในประเทศในช่วงปี 2552-2553 ทำให้

พล.ต.สนั่น ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งชาติ เพื่อสร้างความปรองดองกับทุกฝ่าย เนื่องจากพล.ต.สนั่น เป็นคนที่มีความสนิทใกล้ชิดเคยทำงานร่วมกับกลุ่มการเมืองทั้งมีสีและไม่มีสี จนได้รับฉายาว่า "มือประสานสิบทิศ" เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2553 ผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยในปีนี้ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลได้ประชุม และมีมติให้ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2553 ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ได้รับฉายาว่า "ลิ้นชาละวัน" เพราะผลงานในตำแหน่งรองนายกฯ ไม่เป็นที่ประจักษ์และเป็นรูปธรรม แต่บทบาทที่ชัดเจนคือการเดินสายเจรจาสร้างความปรองดองกับทุกพรรคการเมือง และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองทุกสี แต่ก็ไม่เป็นผล เปรียบเหมือนการใช้ลิ้นจระเข้ที่ไม่มีต่อมรับรส กินอะไรก็ไม่รู้รสชาติ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังได้รับฉายาจากสถานีประชาชน (พีเพิลชาแนล) ด้วยอีกว่าเป็น ?สิงห์ไวน์ส่งไม้ต่อ? เนื่องจากชั่วหลังๆ เสธ.หนั่นมีแนวคิดที่จะสละเก้าอี้ ซึ่งหากลงจากตำแหน่งจริง จึงต้องการให้ลูกชายได้สัมผัสเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยในคราวนี้

และในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555 พล.ต.สนั่น ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยขอยุติการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. แต่ยังคงพร้อมที่จะช่วยงานในส่วนของพรรค และงานการเมืองของประเทศต่อไป
#1922
ที่มา แนวหน้าออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 13.05 น.


วันนี้ 16 ก.พ.56 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กล่าวแสดงความไว้อาลัยว่า ตนได้มีโอกาสมาทำงานการเมือง กับพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่ พล.ต.สนั่น เป็นเลขาธิการพรรค ก่อนหน้านี้เคยได้ยินชื่อเสียงท่านมามาก ยอมรับว่าเป็นคนจริง เป็นคนกว้าง มีน้ำใจ แม้ว่าจะผ่านการรัฐประหาร แต่เมื่อเข้ามาทำงานการเมืองในระบอบประชาธิปไตยก็เป็นนักคิด นักประชาธิปไตยตัวอย่าง งานที่ท่านทำทุกอย่างเกือบสำเร็จ ยังเหลืองานด้านการปรองดอง ซึ่งท่านตั้งใจจะให้มีการพูดคุยหาข้อยุติ หาสิ่งที่เป็นจริงทำให้ปรากฏหลังจากนั้น จึงหาแนวทางในการปรองดองเพื่อทำให้เกิดความพอใจกับทุกฝ่าย พวกเราเป็นนักการเมืองรุ่นหลังได้ยึดแบบอย่างท่าน

"ผมภาคภูมิใจในตัวท่านและผลงานของท่านมาก ขอให้แบบอย่างของท่านจงเป็นแบบอย่างของพวกเรานักการเมือง โดยเฉพาะการให้อภัย การเป็นมิตรกับเพื่อนฝูงทุกฝ่าย และคิดในทางที่ก้าวหน้าเป็นบวกมาตลอด ซึ่งผมเคารพบูชาในคุณงามความดีท่าน ขอให้ดวงวิญญาณท่านไปสู่สุคติ อย่าได้กังวลงานที่ค้างอยู่เพราะพวกผมจะได้สานต่อ โดยเฉพาะเรื่องการปรองดอง คือ คนผิดจะต้องรับผิดก่อน ส่วนการให้อภัยต้องตามมาภายหลัง แต่อยู่บนความพึงพอใจของทุกฝ่าย นอกจากนี้จะสานต่อท่านเรื่องการพัฒนาบ้านเมืองและพัฒนาระบอบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขด้วย? นายถาวร กล่าว
#1923
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ขอค้าน!! ... ขอค้าน!! ...

เพราะไม่ว่าจะเป็นลวดลาย ความปราณีต พิถีพิถัน หรือแม้แต่การจัดตกแต่งก็ดูเหมือนจะยากแสนยากไม่ชำนาญจริง ไม่เรียนรู้มาจริง ... พูดได้คำเดียวว่า ?ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ แน่นอน... ทั้งลายฟันปลา ลายฟันสาม ลายฟันห้า ลายน่องสิงห์ หรือแข้งสิงห์ ลายฟันบัว ลายเครือวัลย์(ลายกนก) แต่ละลายล้วยแล้วแต่ต้องใช้ความชำนาญในการทำทั้งสิ้น ซึ่งโครงการเสน่ห์บางลำภู ผ่านงานศิลปวัฒนธรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง ภายใต้การสนับสนุนจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้มีการนำเรื่อง ?ศิลปะการแทงหยวก? มาเผยแพร่และสอนแก่เยาวชนและคนทั่วไปได้เรียนรู้ 

โดยมีลุงจ้อย หรือนายวีระ แดงแนวโต อายุ 54 ปี ช่างแทงหยวกมือทองชาวชุมชนวัดใหม่อมตรส ผู้คลุกคลีอยู่กับงานแทงหยวกมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ บอกว่า ศิลปะ ?แทงหยวก? เป็นงานแกะสลักหยวกกล้วยที่ถือเป็นหนึ่งในงานช่างสิบหมู่ของไทย นิยมนำมาใช้ประดับตกแต่งบนแท่นเชิงตะกอนในงานฌาปนกิจศพให้มีความสวยงาม เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ล่วงลับมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล  ต้นกำเนิดการแทงหยวกนั้น ?ชาวมอญ? เป็นผู้ริเริ่มนำเข้ามาในประเทศไทยสมัยเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว แต่ในยุคปัจจุบันศิลปะการแทงหยวก แทบจะเลือนหายไปจากสังคมไทย หาพบเห็นได้ยากแล้ว

วิธีแทงหยวกนั้นต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกต้นกล้วย ซึ่งต้องเป็นต้นกล้วยตานีหรือต้นกล้วยน้ำว้าต้นสาวๆ (ต้นกล้วยที่ยังไม่ออกผล) เมื่อได้ต้นกล้วยที่ต้องการมาแล้วตัดหัวท้ายออกให้ได้ขนาดที่ต้องการ การตัดหยวกที่จะนำไปสลัก จำเป็นต้องตัดหยวกให้มีขนาดยาวกว่าขนาดของโครงแบบประมาณ 30-40 เซนติเมตร เพราะในการประกอบแผงหยวกเข้ากับโครงแบบนั้น จะต้องมีการเฉือนหยวกออกเล็กน้อยให้เป็นมุม 45 องศา เพื่อให้หยวกประกบกันได้สนิทเป็นมุมฉากในการเข้ามุม  ส่วนการลอกกาบให้ลอกออกทีละชั้น เพราะกาบนอกสุดจะมีรอยตำหนิ สีไม่สวยงาม ให้ลอกทิ้งไป กาบรองลงมาแม้จะมีสีเขียวก็นำไปใช้รองด้านในได้จึงควรแยกไว้ต่างหาก โดยการลอกกาบกล้วยนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ช้ำเพื่อวามสวยงามของการแกะ           

เมื่อได้กาบกล้วยที่ต้องการแล้วช่างส่วนใหญ่จะนำมาแทงเป็นลวดลายต่างๆ อย่างลายฟันปลา ลายฟันสาม ลายฟันห้า ลายน่องสิงห์ หรือแข้งสิงห์ ลายฟันบัว ลายเครือวัลย์(ลายกนก) หรืออื่นๆ ตามความถนัด เมื่อทำลายเพียงพอตามความต้องการเเล้วถึงขั้นตอนการประกอบหยวก เพื่อทำเป็นเสาล่าง พรึง เสาบน รัดเกล้าเเละฐานล่าง โดยใช้ตอกผิวไม้ไผ่เย็บให้ติดกันเเล้วติดเเต่งมุมให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ             

ในปัจจุบันไม่ค่อยมีการถ่ายทอดวิชาช่างประเภทนี้มากนักเพราะขาดผู้สนใจและนิยมใช้ ประกอบกับช่างเเทงหยวกต้องไม่กลัวผีเพราะต้องทำตอนกลางคืน ส่วนใหญ่จะทำที่วัด ล่วงหน้าก่อน 1 คืน ต้องทำกลางคืนและติตตั้งเช้า หยวกกล้วยจะไม่เหี่ยวเเห้ง ยังคงความสวยงามอยู่จนถึงเวลาประชุมเพลิงทำให้ทุกวันนี้มีช่างแทงหยวกหลงเหลืออยู่น้อยมาก!!  ?การแทงหยวก? เป็นงานที่น่ารักษาเพราะเป็นการช่วยให้เรารักษาวัฒนธรรมอันนี้ไว้ให้สืบต่อไปให้ลูกหลานและยังสามารถประกอบเป็นอาชีพที่มีรายได้สูงอีกด้วย
#1924
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ผบ.ตร.มอบนโยบายแก้ปัญหาโรงพักถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน เตรียมจัดสรรงบประมาณให้โรงพักที่ถูกรื้อสถานีละ 3 00,000 บาท พร้อมยกเลิกสัญญา 14 มีนาคม

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญาหาการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน396 แห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับหัวหน้าสถานีขึ้นไปถึงระดับรองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบพื้นที่รวม 650 นายทั่วประเทศร่วมประชุม ผบ.ตร.เปิดเผยว่าการประชุมวันนี้ (15ก.พ.55) ได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาเพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางแก้ไข

โดยเนื้อหาที่จะประชุมหารือกัน คือ สาเหตุที่ผู้รับเหมาไม่สามารถส่งมอบงานได้ภายในวันที่ 14 มีนาคม รวมถึงหลักฐานการเช่าช่วงในพื้นที่ โดยเน้นวางแผนการแก้ไขร่วมกัน ทั้งนี้ ผบ.ตร. ยังย้ำถึงความสำคัญของผู้นำหน่วยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้สถานีตำรวจสามารถทำงานดูแลประชาชนได้ ซึ่งจำเป็นต้องจัดระเบียบสถานีที่ถูกทิ้งร้างให้สะอาด โดยดัดแปลงทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้ใช้ความร่วมแรงร่วมใจของชาวชุมชน และจะทำอย่างไรให้การปฏิบัติหน้าที่สามารถดำเนินต่อไปได้ ทั้งที่งานสอบสวน ,งานเปรียบเทียบปรับ ,ห้องควบคุมผู้ต้องหา และห้องศูนย์วิทยุ โดยจากนี้ไปจะจัดสรรงบประมาณให้

โดยโรงพักที่ถูกรื้อเบื้องต้นจะจัดสรรงบประมาณให้แห่งละ 300,000 บาท ส่วนโรงพักที่ผู้รับเหมาทิ้งงานก่อสร้างโรงพักละ 100,000 บาท นอกจากนี้จะจัดประกวดสถานีตำรวจดีเด่นจากโรงพักที่มีปัญหาการก่อสร้างด้วย ซึ่งจะพิจารณาจากการปรับปรุงโรงพัก ว่าสามารถทำงานให้ขับเคลื่อนได้เช่นเดิมหรือไม่ รวมถึงสามารถควบคุมอาชญากรรม และสร้างความน่าเชื่อถือศรัทธาในฐานะผู้นำหน่วยได้มากน้อยเพียงใด โดยจะใช้เวลา 3 เดือนในการประเมินผล ขณะที่ภาพรวมการแก้ไขปัญหานั้น ได้มอบหมายให้ สตช.ดูแลปัญหาการยกเลิกสัญญาให้ถูกต้องตามกฎหมาย และกระจายอำนาจแต่ละพื้นที่ที่พิจารณาจัดจ้างผู้รับเหมารายใหม่โดยเร็วที่สุด
#1925
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th


ผู้บริหาร ทีโอที ยอมรับ เกิดปัญหาอินเตอร์เน็ตล่ม 19จังหวัดทั่วประเทศ รับเป็นเหตุที่ล่มนานที่สุด

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ประชาชนที่ใช้บริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตเครือข่ายทีโอทีในหลายจังหวัด ได้เขียนข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ แจ้งว่า เกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตของทีโอทีได้ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืน วันที่ 14 ก.พ.  จนถึงเที่ยงที่ผ่านมาวันที่ 15 ก.พ.

นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า เกิดปัญหาดังกล่าวจริง จากการรายงานข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าเกิดปัญหาอินเตอร์เน็ตล่ม ตั้งแต่เวลาเกือบตี 3 ของเมื่อคืนนี้ ในพื้นที่  19 จังหวัดทั่วประเทศผิดปกติ  และในเวลา 9.00 น. วันที่ 15 ก.พ.  ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง และวิศวกรจากส่วนกลาง ได้เร่งรีเซ็ตระบบทั้งหมด  ซึ่งจากตอนแรก ที่คาดว่าจะกู้คืนได้ทั้งหมดในช่วงเวลาประมาณ15.00 น. แต่ขณะนี้เวลา 16.00 น. สามารถกู้คืนได้ร้อยละ 70 แล้ว

ส่วนเหตุขัดข้องในการให้บริการอินเตอร์เน็ตของทีโอทีเป็นเรื่องปกติ แต่ยอมรับว่าครั้งนี้เป็นการล่มกินพื้นที่มากที่สุด และมีลูกค้ารายใหญ่หลายรายแจ้งเข้ามาที่ทีโอทีแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการแก้ไขให้ลูกค้ากลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด   

เมื่อถามถึงสาเหตุการล่มครั้งนี้เกี่ยวกับการเมืองภายในรับน้อง หลังได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งกจญ.วานนี้ (14 ก.พ.) นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเรื่องทางการเมือง แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้
#1926
 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

ทำเอางานประกาศผลรางวัล ?ท็อป อวอร์ดส์ 2012? ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แทบแตก เมื่อสาวๆ คนดังในวงการบันเทิงพากับแหวกเต้าดูมๆ มาร่วมงานให้ช่างภาพกดชัตเตอร์กันมือสั่น
#1927
http://youtu.be/H9QeHnE8IS8
คลิปวิดีโอบางส่วนของการพูดคุยกับคุณธนวัฒน์

นายธนวัฒน์ พูนศิลป์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา ยอมรับงานมหกรรมบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง 56 ไม่เปรี้ยงอย่างที่ตั้งเป้าไว้ เหตุมี 2 งานซ้อนและหลายโครงการเพิ่งเปิดตัวรับปีใหม่ แต่เชื่อมั่นอสังหาหาดใหญ่ยังไปรุ่ง เตือนผู้ประกอบการท้องถิ่นต้องพร้อมรับมือการบุกตลาดของทุนส่วนกลาง

ทีมข่าวบ้านเรา มีโอกาสสัมภาษณ์นายธนวัฒน์ พูนศิลป์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา ถึงความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมบ้าน คอนโด และวัสดุตกแต่ง และงานสถาปนิกทักษิณ 2556 เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และแนวโน้มการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯ สงขลาโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวขึ้นทุกมุมเมืองโตเร็วปานดอกเห็ดหน้าฝน

ในส่วนของงานมหกรรมบ้านฯ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ กล่าวยอมรับว่าปีนี้ยอดขายและยอดผู้เยี่ยมชมไม่เป็นตามเป้าที่วางไว้ แต่ในส่วนของแพลนงาน รูปแบบการจัดงานถือถือว่ายกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยมีการว่าจ้างทีมจัดงานจากกรุงเทพมาช่วยยกระดับงานให้เป็นสากล ซึ่งในส่วนของผู้ร่วมออกบูธต่างมีความพึงพอใจในผลงานที่ออกมา

?ปีนี้ถ้าดูในส่วนของยอดขายและคนเข้าเยี่ยมชมงานถือว่าลดลงจากครั้งก่อน 4 วันของการจัดงานมีผู้ร่วมงานประมาณ 20,00 คน มูลค่ายอดจองบ้าน คอนโด และยอดขายสินค้าในงานน่าจะอยู่ที่ 500 กว่าล้านบาท ถามว่าทำไมยอดถึงลดลงส่วนหนึ่งมาจากการจัดงาน 2 งานที่ห่างกันไม่ถึงเดือน และอีกปัจจัยมาจากหลายๆ โครงการมีการจัดงานเปิดตัวไปก่อนที่จะมีการจัดงานไม่กี่วันทำให้ลูกค้าบางส่วนไปจองบ้าน คอนโดในช่วงก่อนงานแล้ว

อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการจัดงานครั้งนี้เรายังมีตัวเลือกน้อยเกินไป บ้าน คอนโด ถือเป็นตัวหลักมีกว่า 70 โครงการ ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่จัดงานมา แต่ในส่วนของวัสดุตกแต่งยังมีน้อยมากทำให้คนที่มีบ้านอยู่แล้วไม่รู้ว่าจะมาร่วมงานทำไม หลังเสร็จงานเรามีการประชุมกรรมการจัดงานเพื่อประเมินข้อบกพร่องต่างๆ สำหรับนำมาปรับปรุงแก้ไขในการจัดงานปีต่อไป ซึ่งเรามีการพูดคุยกับทางศูนย์ประชุมฯ ไว้แล้วว่าปีหน้าจะจัด 13-16 ก.พ.57 และกำชับทางศูนย์ประชุมด้วยว่าอย่ารับงานประเภทนี้มาจัดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน?
นายธนวัฒน์ กล่าวนำ

ส่วนรูปแบบการจัดงานในปีหน้ามีการวางแผนการจัดงานระยะยาวเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด งานออกมาเป็นมืออาชีพมากที่สุดรวมถึงการดึงบูธที่เกี่ยวกับวัสดุตกแต่งบ้านเข้ามาร่วมงานให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีบ้านอยู่แล้วได้มาร่วมงาน ได้เลือกซื้อของประดับตกแต่ง ต่อเติมบ้านในรูปแบบใหม่ๆ ทันสมัย มีให้เลือกมากกว่าตามร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป

มองแนวโน้มอสังหาฯหาดใหญ่ โอกาสยังสดใสแต่ต้องพร้อมรับการแข่งขัน

ในส่วนของมุมมองการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หาดใหญ่ และใกล้เคียง นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา ให้มุมมองที่น่าสนใจว่าตลาดบ้าน คอนโด ของหาดใหญ่ยังมีลู่ทางที่สดใส โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด หากถามว่าทำไมคอนโดหาดใหญ่โตเร็วมาก ต้องบอกเลยว่าปัจจัยสำคัญที่สุดคือเรื่อง ราคาที่ดิน ราคาที่ดินหาดใหญ่ทำเลในเมืองและรอบๆ ที่อยู่ในเส้นทางสัญจรหลักแพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับหัวเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ฯลฯ

?ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดคอนโดเมืองหาดใหญ่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ราคาที่ดินในหาดใหญ่ค่อนข้างสูงถ้าเปรียบเทียบกับหัวเมืองอื่นๆ  สาเหตุที่ 2  น้ำท่วมใหญ่ปี 2553 ทำให้เกิดคอนโดมิเนียมขึ้นในปี 2554 และ 2555 ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนกลัวน้ำท่วม และไม่มั่นใจว่าต่อไปจะท่วมอีกไหม ก็เลยคิดว่าการซื้อคอนโดฯ คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และประเด็นเมื่อที่ดินหาดใหญ่มีราคาสูง บ้านระดับราคาไม่ถึงล้าน หรือล้านต้นๆ แทบจะไม่มีขายในตลาด ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนหันมาคอนโดแทนเพราะมีให้เลือกตั้งแต่ไม่ถึงล้าน ล้านต้นๆ ยาวไปถึงสองล้านนิดๆ 

ส่วนคนที่ต้องการบ้านในราคาล้านต้นๆ ต้องบอกว่าแทบไม่มีขายแล้ว แม้แต่ทาวน์เฮาส์ก็ยังไม่มี  ถ้าจะหาทาวน์เฮาส์ในราคาล้านต้นๆ ก็ต้องไปแถวคลองแห ซึ่งอยู่ไกลและเป็นพื้นที่น้ำท่วม หรือโซนคลองหอยโข่ง โซนสนามบิน ซึ่งตรงนั้นมีมลพิษทางเสียง มีเครื่องบินขึ้นลงบ่อยทำให้ที่ดินละแวกนั้นมีราคาถูก เมื่ออยากมีบ้านเป็นของตัวเองและอยู่ในพื้นที่เขตเมือง คอนโดจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความกะทัดรัด เรียบง่าย และที่สำคัญอัตราการผ่อนคอนโดเมื่อเทียบการเช่าห้องพักดีๆ ราคาก็ใกล้เคียงกันหลายคนจึงเลือกที่จะซื้อคอนโดแทนการเช่า?
นายธนวัฒน์ กล่าว 

   การหลั่งไหลเข้ามาของประชากรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างรวดเร็ว ความเป็นเมืองศูนย์กลางของจังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการ สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ล้วนเป็นปัจจัยเอื้อธุรกิจอสังหาฯ เมืองหาดใหญ่เติบโตอย่างรวดเร็ว และทำให้กลุ่มทุนส่วนกลางกำลังมองการลงทุนมาที่หาดใหญ่

   ?การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา ผมมองว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดีมีช่องว่างทางการตลาดอีกเยอะ เห็นได้จากโครงการบ้าน คอนโด ที่เปิดตัวมาแล้วส่วนใหญ่มียอดจอง ยอดขายที่ดีซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการด้านที่อยู่อาศัยในเมืองหาดใหญ่ยังมีอีกเยอะ อย่างกลุ่มคอนโด ปัจจุบันน่าจะเกิน 40 โครงการ เกือบ 5,000 ยูนิตแล้ว และจะมีตามมาในเร็วๆ นี้ คือกลุ่มทุนส่วนกลางหรือแม้แต่ทุนต่างชาติเองก็มองการลงทุนในหาดใหญ่แล้วเหมือนกัน โดยเฉพาะกลุ่มแสนสิริ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศก็มีข่าวว่าจะมาเปิดตลาดที่หาดใหญ่เช่นกัน ก่อนหน้านี้เรามีแค่กลุ่มศุภาลัยเท่านั้นที่มาปักหลักทำตลาดหาดใหญ่

   การรุกตลาดของกลุ่มแสนสิริ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นต้องพร้อมรับมือ เขามาพร้อมทุน องค์ความรู้ ชื่อเสียงที่แข็งแกร่ง และเชื่อว่าโครงการแรกๆ ที่จะเปิดเขาตั้งราคาได้ถูกกว่าและมีหลายยูนิตกว่า ตรงนี้เองที่แบรนด์ท้องถิ่นจะได้รับผลกระทบเต็มๆ ซึ่งผมก็คุยกับกลุ่มสมาชิกสมาคมอสังหาฯ ว่าเราต้องปรับตัวรับการแข่งขันที่มากกขึ้นได้แล้ว การสร้างคอนโดมันต้องมีการดูแลหลังการขาย มีการจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมาบริหารจัดการ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคต้องศึกษาก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของคอนโดโครงการใดโครงการหนึ่ง?
นายธนวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม     

     การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองหาดใหญ่ที่มีอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคด้วย การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองสักหลัง ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคากับภาระการผ่อนชำระของตัวเอง ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง (คอนโดและบ้านบางโครงการ) ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของโครงการที่จะซื้อ การตัดสินใจเป็นเจ้าของบ้าน-คอนโด อาจเป็นแค่โอกาสครั้งเดียวของชีวิตที่ต้องคิดให้รอบด้าน
#1928
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ปัญหาชาวโรฮิงยาจำนวนมากลักลอบเข้าเมืองและถูกล่อลวงโดยขบวนการค้ามนุษย์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงพื้นที่จัดประชุมหาทางแก้ปัญหา ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่รับผิดชอบดูแลคดีชาวโรฮิงยาให้ข้อมูลต่อที่ประชุมว่า สาเหตุที่ไม่สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาส่วนหนึ่งได้ เพราะไม่มีพยานไปให้ข้อมูล

คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงพื้นที่ จัดประชุมกรณีปัญหาชาวโรฮิงยา จังหวัดสตูลและจังหวัดสงขลา โดยมีตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น กาชาดสากล ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ร่วมคณะด้วย

การเดินทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิง ยา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง กรมสอบสวนคดีพิเศษ จังหวัดสงขลา หน่วยงานจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เข้าร่วมให้ข้อมูล

พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ซึ่งรับผิดชอบในคดีนี้ ระบุว่า ขณะนี้มีชาวโรฮิงยาอยู่ในจังหวัดสงขลา 1,580 คน ซึ่งพักพิงอยู่ที่สถานที่กักตัวของตรวจคนเข้าเมือง และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา โดยได้ดำเนินคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวกับผู้กระทำความผิดรวม 11 คน ทั้งชาวพม่าและชาวไทย ตลอดจนออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องรวม 3 คน

ในจำนวนนี้มอบตัวแล้ว 2 คนคือนายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ นายสาโรจน์ แก้วมณีโชติ มีผู้อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับอีก 1 คน คือนายจามา นาดีน สัญชาติพม่า แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีค้ามนุษย์ได้ เนื่องจากไม่มีพยานให้ข้อมูล
#1929
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ชาวตำบลปกาสัย จังหวัดกระบี่ ชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอีกแห่งภายในบริเวณโรงไฟฟ้านิกไลท์เดิม โดยอ้างว่าที่ผ่านมาได้รับความผลกระทบมากพอแล้ว จึงยืนยันจะคัดค้านให้ถึงที่สุด

ชาวตำบลปกาสัย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ กว่า 500 คน ร่วมกันเผาโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินจำลอง ก่อนเดินทางไปชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่จะสร้างในพื้นที่โรงไฟฟ้านิกไลท์เดิม บริเวณตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง ห่างจากตำบลปกาศัย เพียง 1.5 กิโลเมตร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ

ชาวตำบลปกาศัยอ้างว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้รับผลจากโรงไฟฟ้าแห่งเดิมทั้งในด้านระบบนิเวศ ปัญหาสุขภาพ และยังทำให้พืชผลทางการเกษตรมีผลผลิตน้อย เพราะคุณภาพต่ำ หากยังมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นใหม่ อาจได้รับผลกระทบมากกว่าเดิมหลายเท่า จึงได้รวมตัวคัดค้าน ขณะนี้มีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมลงชื่อคัดค้านไปแล้วกว่า 1,000 คน ในจำนวนนั้นเป็นผู้ที่เป็นป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจกว่า 100 คน
#1930
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีน สามารถยึดอาวุธสงครามและปืนสั้นชนิดต่างๆรวมกว่า 30 กระบอก ยาเสพติด 60 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 2 คน

นายภิญโญ สุวรรณมงคล และนายเอียดแก้วมงคล ถูกตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับกุมพร้อมอาวุธสงคราม เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ระหว่างการกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเจ้าหน้าที่สามารถยึดปืนสั้นชนิดต่างๆ ได้ 30 กระบอก และตรวจยึดกัญชาของกลางได้ 60 กิโลกรัม ขณะขบวนการค้ายาเสพติดเตรียมส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน

พลตำรวจตรีสุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำอาวุธปืนทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์ ว่าเคยก่อเหตุในคดีใดมาก่อนหรือไม่ รวมทั้งเร่งรัดเพื่อติดตามจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
#1931
เพลงมาร์ชประจำจังหวัดสงขลา จัดทำโดย โครงการค่านิยมใหม่
ในความอุปถัมภ์ของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

คำร้อง - ทำนอง นายจำเริญ แสงดวงแข
ประยงค์ ชื่นเย็น เรียบเรียงดนตรี ควบคุมวง
ขับร้องโดย นักร้องสุนทรสมาน โดย ใหญ่ นภายน

     เมืองสงขลาแดนฟ้าบันดาล แหล่งประสานพาณิชยการก้าวไกล
สมิหราทิวทัศน์เด่นตาซึ้งใจ ทะเลสดใสมองไปรื่นรมย์

    ชาวสงขลารักษาความดี ประเพณีล้วนเชิดชูชวนชื่นชม
แหล่งศึกษานำพัฒนาสังคม ดินแดนอุดมสินทรัพย์นานา

    รูปสังข์งามเด่นนั่นเป็นมงคล มิ่งขวัญปวงชนถ้วนทุกคนเทิดทูนศรัทธา
ร่วมใจไมตรีเหมือนดังน้องพี่เกิดร่วมมารดา สุขศานติ์สืบมายืนยงคู่ฟ้าทักษิณถิ่นไทย..?...


ฟังเพลงมาร์ชสงขลา
http://youtu.be/3wu-wSH4p-U
#1932
เปิดปม - กวาดล้างน้ำมันเถื่อน 5Nov12

http://youtu.be/4FPR-GF7cHY
#1933
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

มาตามคำเรียกร้อง สำหรับการเก็บสีสันภาพพริตตี้ในงาน ?แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013? มาให้แฟนๆ ได้ยลโฉมกัน

#1934
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สุดเนี้ยบ! พบลุงโคราชวัย 66 ปี แต่งตัวใส่สูทผูกไทสวมรองเท้าหนังขัดมัน ขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างมานานกว่า 20 ปี สร้างความประทับแก่ลูกค้า รับกระแสเข้าสู่ AEC เจ้าตัวบอกเป็นคนชอบแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยทำให้ลูกค้าเชื่อถือไว้ใจและขับรถด้วยความสุภาพ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้อาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก ขณะเพื่อนร่วมอาชีพระบุเป็นคนอัธยาศัยดี

       ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณจุดทางลงอาคารจอดรถด้านหน้าศูนย์อาหาร ภายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบมีคนขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างแต่งตัวไม่เหมือนใคร โดยใส่สูทผูกเนกไทมาขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างบริการรับส่งประชาชนทุกวัน จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นายบรรจง กาญจนโภคิน หรือ ?ลุงจง? อายุ 66 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 419/83 หมู่ที่ 11 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างมากว่า 20 ปี ซึ่ง ?ลุงจง? แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไท สวมสูทสีกรมท่า กางเกงขายาว และใส่รองเท้าหนังขัดมัน ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กคู่ใจ สีส้ม-ดำ
       
       เดิมทีมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ จ.ระยอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงพาครอบครัวอพยพมาปักหลักยึดอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างเลี้ยงครองครัวอยู่ที่ จ.นครราชสีมา มานานกว่า 20 ปีแล้ว สาเหตุที่ผูกไทใส่สูทมาขับตุ๊กตุ๊กเพราะเป็นคนชอบแต่งตัวสะอาดสุภาพเรียบร้อย และชุดสูทเป็นชุดสากลสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าและมีความอุ่นใจในการใช้บริการ ซึ่งได้ใส่สูทมาทำงานทุกวันตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา หากวันไหนอากาศร้อนขณะนั่งรอลูกค้าจะถอดเสื้อสูทแขวนไว้ในรถ เมื่อมีลูกค้ามาใช้บริการก็นำมาสวมใส่ทันทีเพื่อความเรียบร้อยและใส่มานานจนรู้สึกขาดไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าด้วย
       
       สูททุกตัวได้ลงทุนซื้อเอง โดยเจียดเงินที่ได้จากค่าโดยสารไปซื้อราคาชุดละประมาณ 500-700 บาท มีทั้งหมด 4 ชุด คือ สีดำ 2 ชุด, สีฟ้า 1 ชุด, สีกรมท่าอีก 1 ชุด และ รองเท้าหนังอีก 4 คู่สลับใส่มาทำงานทุกวัน โดยเข้าประจำคิวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพียงแห่งเดียว ตั้งแต่เวลา 11.00-03.00 น. ไม่มีวันหยุด
       
       ?ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นประชาชนญาติผู้ป่วย ผู้ป่วย และชาวต่างชาติ บางรายเห็นเราแต่งตัวเรียบร้อยเขาชอบใจให้ทิปพิเศษหลายร้อยบาท หลายคนชมว่าแต่งตัวดี ซึ่งปัจจุบันมีรายได้จากการขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างเฉลี่ยวันละ 700-800 บาท โดยเก็บค่าโดยสารราคาปกติไม่ได้คิดราคาพิเศษแต่อย่างใด บางครั้งลูกค้าไม่มีเงินจ่ายก็ไปส่งฟรี หรือถึงขั้นให้ยืมเงินไป 100-200 บาทเป็นค่าเดินทางกลับบ้านก็มี และวันหลังเขาก็เอาเงินมาใช้คืนให้ บางรายก็หายไปเลย? นายบรรจงกล่าว
       
       นายบรรจงเล่าต่อว่า ทุกวันนี้มีภาระในการเลี้ยงดูลูกและภรรยา พร้อมผ่อนส่งค่างวดรถตุ๊กตุ๊กคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อ 7 เดือนก่อน ในราคา 3.2 แสนบาท ผ่อนชำระเดือนละประมาณ 5,000 บาท เป็นเวลา 60 เดือน เนื่องจากรถคันเก่าใช้งานมานานผุพังใช้การไม่ได้แล้ว โดยรถตุ๊กตุ๊กคันใหม่นี้ติดตั้งด้วยเครื่องรถยนต์เสียงจึงไม่ดัง ผู้โดยสารนั่งสบายปลอดภัย วิ่งนิ่มกว่ารถตุ๊กตุ๊กทั่วไป
       
       ?คงสวมชุดสูทขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างทุกวันตลอดไปจนกว่าไม่มีแรงขับ เพราะรักในอาชีพนี้ ซึ่งเป็นอาชีพสุจริต ให้บริการประชาชน และอยากให้เพื่อนร่วมอาชีพขับตุ๊กตุ๊กทุกคนทั่วประเทศแต่งตัวให้เรียบร้อยและขับรถด้วยความสุภาพ ประกอบกับประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ด้วย หากแต่งตัวดีลูกค้าก็มาใช้บริการมากและมีความอุ่นใจในความปลอดภัย หากใครจะนำแบบอย่างไปใช้ก็ไม่สงวนสิทธิ์? นายบรรจงกล่าว
       
       ด้าน นายไวพจน์ ภูเกาะ อายุ 42 ปี เพื่อนขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างวินเดียวกัน บอกว่า ลุงบรรจง ใส่ชุดสูทมาทำงานทุกวัน เคยถามเหมือนกันว่าทำไมใส่สูท ลุงตอบว่าอยากใส่ให้มันดูสุภาพเรียบร้อย ซึ่งอุปนิสัยของคุณลุงเป็นคนร่าเริง พูดคุยสนุกเข้ากับเพื่อนทุกคนได้ดี และเป็นที่รักใคร่ของทุกคน
       
       ขณะที่ นายพร ตอบกลาง อายุ 54 ปี ลูกค้าที่ไปใช้บริการ กล่าวว่า เห็นคุณลุงใส่สูทแล้วเท่ดี ดูมีความปลอดภัย จึงเลือกขึ้นรถตุ๊กตุ๊กของลุง อยากให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กทุกคนแต่งกายเรียบร้อยหรืออาจเลียนแบบคุณลุงก็ได้ ซึ่งคุณลุงให้บริการดีและเก็บค่าโดยสารไม่แพง
#1935
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

กลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ 37 คน เข้ารายงานตัวกับทางการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่จังหวัดปัตตานี ส่วนตำรวจศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จับเครือข่ายค้ายาเสพติดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเครือข่าย 14 คน ตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท

กลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 37 คน เข้ารายงานตัว กับทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 22 จังหวัดปัตตานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกออกหมายจับตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และหมายจับตาม ป.วิอาญา ซึ่งส่วนใหญ่มีภูมิลำเนา ในตำบลเขาตูม ,ตำบลวัด ,ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง และ ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี มีผู้นำศาสนาร่วมเป็นพยาน

ผู้หลงผิดส่วนใหญ่ บอกว่า สาเหตุที่มารายงานตัว เพราะทางการเปิดโอกาสให้กลับใจ จึงอยากแสดงตน หลังจากนี้จะถูกส่งตัวไปฝึกอบรมสามเดือน เพื่อปรับทัศนคติแทนการรับโทษ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางขับเคลื่อนการด้วยวิธีการพูดคุยสันติภาพ

ส่วนที่จังหวัดสงขลา พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำหมายจับศาลไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายสันดี หรือ บังดี เจ๊ะแว ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางสงขลา พร้อมเครือข่ายอีก 14 คน

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าวพบว่า มีการโอนเงินไปยัง 2 เส้นทาง คือภาคเหนือ ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กว่า 250 ล้านบาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 117 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับตัว และขยายผลว่า เกี่ยวข้องกับการอุดหนุนการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดภาคใต้หรือไม่