ที่มา : สวท.สงขลา
ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "เชื้อไวรัสโคโรน่า 2012" ในขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคนี้ แต่มีโอกาสแพร่มาไทยได้ตลอดเวลาจากการเดินทาง โดยเฉพาะการไปแสวงบุญที่ตะวันออกกลาง เนื่องจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เตือนคนไทยในภาคตะวันตกของประเทศซาอุดิอาระเบีย ในการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการติด "เชื้อไวรัสโคโรน่า 2012" หรือ เมิร์ส-โควี ภายหลังพบการแพร่ระบาดเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซาอุดิอาระเบีย หลังจากระบาดมา 2 ปี ล่าสุดองค์การอนามัยโลกรายงาน ณ วันที่ 16 เมษายน 2557 พบผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วจากทั่วโลก จำนวน 238 ราย และได้เสียชีวิตแล้ว 92 ราย
สำหรับ "เชื้อไวรัสโคโรน่า 2012" หรือ เมิร์ส-โควี (Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus : MERS-CoV) เป็นเชื้ออยู่ในตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส โดยมีแหล่งแพร่มาจากสัตว์เลี้ยง เช่น อูฐ และในพื้นที่เกิดโรคมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยพบชาวมาเลเซียติดเชื้อ และเสียชีวิตหลังเดินทางกลับจากพิธีอุมเราะห์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งมีพยาบาลจากประเทศฟิลิปปินส์ที่ติดเชื้อจากการทำงานที่ตะวันออกกลาง โดย "เชื้อไวรัสโคโรน่า 2012" เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรงคล้ายโรคซาร์ โดยผู้ที่ติดมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 30-40 ซึ่งเชื้อจะลุกลามเข้าปอดอย่างรวดเร็ว ติดต่อได้ง่ายจากการไอจามและการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โดยลักษณะของอาการจะมีไข้สูง ไอ หายใจหอบ ถ่ายเหลว และอาเจียน โดยผู้ที่มีอาการรุนแรงมากจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คล้ายอาการไข้หวัดใหญ่
ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิด โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และมีประวัติการเดินทางกลับจากประเทศที่พบผู้ป่วย หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่พบผู้ป่วย ขอให้จัดอยู่ในข่ายสงสัย และให้ปฏิบัติควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาลเช่นเดียวกับโรคซาร์
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการจัดระบบดูแล ตรวจสุขภาพ และคัดกรองชาวไทยมุสลิมประมาณ 10,000 คน ที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ ในเดือนตุลาคม 2557 โดยผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ (อุมเราะห์) ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนการเดินทาง โดยกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรเตรียมหน้ากากอนามัยติดตัวไปด้วยระหว่างอยู่ต่างประเทศ และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับบุคคลหรือผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยเป็น "เชื้อไวรัสโคโรน่า 2012"
เป็นกิจกรรมที่ดีมากค่ะ