Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - สงขลามีเดีย

#1681
เมื่อเวลาประมาณ 06.28น. เช้ามืดวันที่5 ก.พ. 2556 ศูนย์วิทยุกู้ภัยจ้ังหวัดสงขลา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ และงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัย ย่านชุมชนโชคสมาน ถ.โชคสมาน5 ซ.3 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงได้ส่งรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าทำการระงับเเหตุและอำนวยความสะดวกแก่รถดับเพลิง

ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังขนของหนีกันอย่างโกลาหล ขณะที่เพลิงกำลังโหมไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่าเป็นบ้านพักอาศัยที่สร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงนับสิบคันเข้าทำการฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างเต็มกำลัง

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ทำให้เพลิงได้เผาผลาญบ้านเสียหายไปถึง 6 คูหา จากนั้นไม่นาน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ และรองผู้บริหารเทศบาลฯ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมรับฟังรายงานเบื้องต้นจากหัวหน้าชุดงานป้องกันฯ ก่อนที่จะอำนวยการการดับเพลิงด้วยตนเอง

เวลา 07.05 น. ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถฉีดน้ำควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและไม่ลุกลามไปยังบ้านหลังใกล้เคียง และตรวจสอบพบว่าบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ได้แก่ บ้านเลขที่ 7,9,24,26,28,30,32  เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้พักอาศัยรายหนึ่งได้ตกใจในเหตุการณ์ทำให้เป็นลมหมดสติไป ทางญาติได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น ส่วนการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากเพลิงได้ดับสนิทลงแล้ว...

#1682
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ตำรวจเตรียมนำผู้ต้องหาในคดีฆ่าอดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา 2 คน ที่เข้ามอบตัวเมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลฝากขังวันนี้

หลังการสอบปากคำนายอธิป ด้วงมาก และนายสุดขีด จันทร์เขียว ผู้ต้องหา 2 คน ที่เข้ามอบตัวที่เข้ามอบตัวเมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากกรณีร่วมกันฆ่านายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว วันนี้ พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 จะนำตัวทั้ง 2 คน ไปขออำนาจศาลจังหวัดสงขลาฝากขัง อย่างไรก็ตาม ในการสอบปากคำที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล

คดีสังหารอดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลามีการออกหมายจับผู้ต้องหา 10 คน มอบตัวแล้ว 7 คน ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมาย คือ นายปราโมทย์ แสงอรุณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา, นายณัฐพร นัคเร และนายชยันต์ หนูพันธ์ ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษภูธรภาค 9 พร้อมตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังออกติดตาม โดยมุ่งเน้นพื้นที่เป้าหมายทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และจังหวัดสงขลา
#1683
โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

ชุมพร - ตำรวจชุมพรจับตำรวจสงขลา ใช้รถตราโล่ลักลอบขนงาช้าง 20 กิ่ง มูลค่ากว่า 10 ล้าน ส่งนายทุนใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร สลดถึงกับเปรยของกลางทั้งหมดต้องฆ่าช้างตาย 10 เชือก
       
       เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร ในฐานะหัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ ถนนเพชรเกษม หมู่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณด่านตรวจพละ ซึ่งเป็นด่านตรวจถาวรประตูภาคใต้ เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และปัญหาอาชญากรรม ระหว่างนั้น พบรถตู้โตโยต้าสีขาว ทะเบียน ฮภ 1050 กรุงเทพมหานคร ที่ประตูทั้ง 2 ข้างติดตราโล่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บนหลังคาติดสัญญาณไฟไซเรนสีแดง ขับมาลักษณะมีพิรุธ จึงขอตรวจสอบ ทราบคนขับชื่อ ร.ต.อ.สมควร บัวไสว อายุ 46 ปี รอง สว.สส.สภ.สะเดา จ.สงขลา ที่เอวพกอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า พร้อมกระสุนในรังเพลิง 11 นัด และบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ระบุยศตำแหน่งสังกัด สภ.สะเดา จ.สงขลา
       
       ตรวจสอบภายในรถพบมีขวดเครื่องดื่มบำรุง 2 ขวด เสื้อคลุมแจ็กเกตติดตราโล่ตำรวจ 1 ตัว บริเวณที่วางเท้าเบาะนั่งด้านหลังในสุด พบถุงปุ๋ยห่อมัดมาอย่างดีวางอยู่ เมื่อเปิดดูภายในมีงาช้างขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว ยาวกว่า 1 เมตร จำนวน 10 คู่ รวม 20 กิ่ง ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองผิดกฎหมาย โดยที่โคนของงาช้างทั้งหมดไม่มีร่องรอยการตัด แต่มีลักษณะเหมือนดึงถอนออกมาจากช้างที่ถูกฆ่าตายแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุม ร.ต.อ.สมควรไปสอบสวนขยายผล
       
       ต่อมา พล.ต.ต.เอิบ คงกล่ำ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งเป็นระดับนายตำรวจด้วยตนเอง และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จากการจับกุมในครั้งนี้เพราะตำรวจพบว่ารถตู้ตราโล่ของตำรวจคันดังกล่าว ไม่ได้ติดเอกสารทางราชการไว้ที่หน้ารถแสดงให้เห็นชัดเจน เนื่องจากหากนำรถออกมาใช้ในราชการนอกพื้นที่จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้เข้มงวดในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางรายนำรถตราโล่ไปกระทำผิดกฎหมาย และตนได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเข้มงวดกับเรื่องดังกล่าวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจนำรถตราโล่ลักลอบทำผิดกฎหมายดังกล่าวได้



       พล.ต.ต.เอิบ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน ร.ต.อ.สมควร บัวไสว รอง สว.สส.สภ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ต้องหาในเบื้องต้นอ้างว่า ได้รับจ้างลักลอบขนงาช้างจำนวน 10 คู่ รวม 20 กิ่ง มาจากชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จ.สงขลา ซึ่งเป็นงาช้างลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยงาช้างดังกล่าวซื้อขายภายในประเทศมีราคาคู่ละกว่า 1 ล้านบาท รวม 10 คู่ มีมูลค่าสูงถึงกว่า 10 ล้านบาท เพื่อไปส่งให้นายทุนในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยอาศัยใช้รถตู้ตราโล่ของตำรวจลักลอบขนเพื่อความสะดวกในการเดินทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจด่านตรวจบ้านพละจับกุมได้ดังกล่าว
       
       ?ขบวนการลักลอบค้างาช้างถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ การที่ตำรวจจับงาช้างได้ในครั้งนี้ 10 คู่ จำนวน 20 กิ่ง จะต้องฆ่าช้างถึง 10 เชือกเลยทีเดียว? พล.ต.ต.เอิบ อ่วมถนอม ผบก.ภ.จ.ชุมพร
       
       หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุม ร.ต.อ.สมควร พร้องของกลางงาช้างส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติกรรมตามกฎหมายต่อไป
#1684
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับคดียิงอดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา เข้ามอบตัวกับตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว 1 คน เบื้องต้นให้การปฎิเสธ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

นายสุดขีด จันทร์เขียว พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ในคดียิงนายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิตเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมปฎิเสธข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

นายสุดขีด เป็น 1ในผู้ต้องหา 5 คน ที่ถูกออกหมายจับในคดีสังหารนายพีระ ซึ่งตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช จะส่งผู้ต้องให้ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เจ้าของคดี ดำเนินการสอบสวนต่อ

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจจังหวัดสงขลา เพิ่มอีก 1 คน และก่อนหน้านี้ อัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คนที่เกี่ยวข้องแล้ว
#1685
กระแตอกอึ๋มทะลุจอ



ที่มา สยามดารา
ดูฉบับเต็มที่ http://www.siamdara.com/gallery_detail.asp?id=2368
#1686
เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศลร่วมบริจาคโลหิต ระหว่างวันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 56

       นางขนิษฐา  บุญราช  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา  เปิดเผยว่า  เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา  ร่วมกับโรงพยาบาลสงขลา   โรงพยาบาลหาดใหญ่  และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์  ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และองค์กรเอกชน  เป็นประจำทุกเดือน   แต่เนื่องจากจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่มีปริมาณผู้ป่วย และความต้องการใช้โลหิตในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยของโรงพยาบาลต่างๆ ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น  แต่ปริมาณโลหิตที่ได้รับจากผู้มีจิตเป็นกุศลตามโรงพยาบาลและหน่วยรับบริจาคโลหิต  ยังไม่เพียงพอต่อความจำเป็นต้องใช้โลหิต

       เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศลร่วมบริจาคโลหิต ตามแผนการรับบริจาคโลหิตประจำสัปดาห์ดังนี้

                 วันอังคารที่ 5 ก.พ. 56 บริจาคได้ที่  สถาบันฝีมือแรงงานภาค 12  อ. เมืองสงขลา  และในอ.สิงหนคร หน่วยรับบริจาคโลหิตมี 2 แห่ง ได้ที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยนซีฟู้ด จำกัด  และที่อำเภอสิงหนครร่วมกับโรงเรียนหาดแก้วรีสอร์ท  ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น.

                 วันพฤหัสที่ 7 ก.พ. 56 บริจาคได้ที่ โรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่าและวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น.             

                 วันศุกร์ที่ 8 ก.พ. 56  บริจาคได้ที่  ที่ทำการปกครอง กลุ่มงานความมั่นคง อ.เมืองสงขลา  และกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 อ.หาดใหญ่   ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น. 





****************************************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1687
โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

พัทลุง - สภ.ปากพะยูน หนึ่งในโรงพักที่ถูกสั่งรื้อเพื่อสร้างใหม่กว่า 2 ปี ได้เพียงตอม่อ ต้องไปเช่าที่เพื่อบริการประชาชน เดือนละ 10,000 บาท ซ้ำร้ายผ่านไป 1 ปี ไม่มีค่าเช่าต่อ ล่าสุด อำเภอปากพะยูนแบ่งศาลาประชาคมให้เป็นโรงพักแห่งใหม่ชั่วคราว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า โครงการก่อสร้างที่ทำการโรงพักหลายแห่งทั่วประเทศที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน ปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายแห่งไม่มีที่ทำการให้บริการประชาชน และ 1 ในนั้นที่จังหวัดพัทลุงก็มี จำนวน 4 แห่ง ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างใหม่ แต่ผู้รับเหมาก็ทิ้งงานเช่นกัน โดยเฉพาะที่ สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ที่ทางผู้รับเหมาได้ดำเนินการก่อสร้าง และรื้อถอนโรงพักหลังเก่าเมื่อเดือนกุมพาพันธ์ 2554
       
       แต่จนถึงขณะนี้ การดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงพักขนาดใหญ่ 4 ชั้น มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ผู้รับเหมาได้แค่ตอกตอม่อ จำนวน 8 ต้น แล้วทิ้งร้างมานาน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องย้ายโรงพักมาเช่าปั๊มน้ำมันโพธิ์เรียงที่อยู่ใกล้กัน เพื่อเป็นที่ทำการให้บริการประชาชน ในราคาเดือน 10,000 บาท และหลังจากเช่ามานานเป็นปีจนไม่มีค่าเช้าต้องย้ายที่ทำการใหม่อีกครั้ง
       
       โดยล่าสุด ทางอำเภอปากพะยูนได้อนุญาตแบ่งศาลาประชาคมอำเภอให้เป็นที่ทำการโรงพักแห่งใหม่ ในการบริการประชาชนจนกว่าอาคารที่ทำการจะสร้างแล้วเสร็จ
       
       นอกจากนั้นแล้ว ที่ สภ.ลำปำ อ.เมือง ก็เช่นกัน ผู้รับเหมาก่อสร้างได้เข้าทำการปักหมุดเพื่อสร้างอาคารที่ทำการขนาด 2 ชั้น มูลค่า 8 ล้านบาท แต่การดำเนินการก่อสร้างจนถึงวันนี้ ยังไม่มีอะไรคืบหน้า โชคดีที่โรงพักลำปำไม่อนุญาตให้รื้อถอนอาคารหลังเก่า ทำให้เจ้าหน้าที่พอที่จะทำงานไปได้ ท่ามกลางอาคารไม้ที่ผุเก่าสร้างมานานกว่า 40 ปี
       
#1688
โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีคอร์รัปชั่นปี 2555 ไทยยังสอบตกแม้คะแนนจะดีขึ้นจาก 3.5 เป็น 3.9 จากคะแนนเต็ม 10 โดยผู้ประกอบกว่าร้อยละ 70 ระบุว่าต้องจ่ายเงินใต้โต้ะเพื่อให้ได้งานประมูลของรัฐ

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย เดือนธันวาคม 2555 พบว่าคะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.9 คะแนน เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2555 ที่ 3.5 แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่มีการคอร์รัปชั่นรุนแรง โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมรับว่ายังคงต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ มากกว่าร้อยละ 25 เพื่อให้ได้โครงการ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลการคอร์รัชชั่นในโครงการรับจำนำข้าว , การใช้งบประมาณในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และการใช้งบประมาณในการบริหารโครงการในอนาคต 2 ล้านล้านบาท
#1689
วันที่ 30 ม.ค. 56 นายไพโรจน์  โชติกเสถียร นักวิชาการแรงงานชำนาญพิเศษ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า  ผลกระทบจากปัญหาการขึ้นค่าแรงงาน 300 บาท ทั่วประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายมีปัญหาในการจ้างแรงงาน เพราะ มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น จึงมีแนวทางที่จะจ้างแรงงานต่างชาติ โดยการลงนาม MOU เข้ามาเพิ่มขึ้น  เนื่องจากแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้ง กัมพูชา ลาว พม่า ที่มีอยู่ มีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ประกอบการ

ดังนั้นจึงมีการคิดหาแนวทางแก้ปัญหา โดยกระทรวงแรงงานจะจ้างแรงงานชาวบังคลาเทศเข้ามาในลักษณะของ MOU เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนายจ้าง โดยเฉพาะในกิจการประมงและก่อสร้าง ซึ่งการนำเข้าแรงงานบังคลาเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทยจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ประกอบการของไทยเป็นหลัก ซึ่งสำนักงานจัดหางาน จ.สงขลา จะทำหนังสือถึงกระทรวงแรงงาน ก่อนที่จะส่งให้กับทางประเทศบังคลาเทศ เพื่อทำการนำเข้าต่อไป

สำหรับใน จ.สงขลา นั้น ขณะนี้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ขาดแคลนอย่างหนัก มีทั้งในส่วนของประมง ก่อสร้าง และ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย การนำเข้าแรงงานบังคลาเทศจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ประกอบการสามารถนำมาทดแทนแรงงานต่างด้าว ทั้งกัมพูชา ลาว และ พม่า ได้เป็นอย่างดี
#1690
จังหวัดสงขลา ประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯ ย้ำแก้ปัญหารถตู้โดยสาร ราคาอาหาร และแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากลุ่มโรฮิงญา เนื่องจากจังหวัดสงขลาเป็นเมืองเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว



วันนี้(30ม.ค.56) เวลา 09.30 น. ที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดสงขลาฯ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 200 คน

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของจังหวัดและรัฐบาลในรอบเดือนมกราคมในหลายเรื่อง อาทิ การรายงานผลศูนย์ดำรงธรรม , โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ?บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน? และโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสงขลา , รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปี 2555 , การสรุปผลภาวะเศรษฐกิจของภาคใต้ ไตรมาส 4 ประจำปี 2555 , รายงานกิจกรรมการท่องเที่ยว ประจำเดือนธันวาคม 2555-มกราคม 2556 ฯลฯ

ในโอกาสนี้ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติราชการอย่างเต็มกำลังด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน  และเนื่องจากอำเภอหาดใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลเรื่องความสะอาดและเรื่องการติดป้ายราคาสินค้าอาหารให้ชัดเจน ควบคู่กับการแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารขนาดเล็กของอำเภอหาดใหญ่ที่ผิดกฎหมาย โดยการให้จดทะเบียนรถโดยสารป้ายเหลืองให้ถูกต้องตามกฎหมาย และการจัดระเบียบการจอดรถให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การจัดสถานที่จอดรถตู้สาธารณระที่สถานีขนส่งผู้โดยสารตลาดเกษตร และการจอดรถตู้หน้าสำนักงานของผู้เช่าเหมาเอง เพื่อลดการสร้างปัญหาที่จอดรถให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันยังมีปัญหาในระดับนานาชาติที่จะต้องเร่งแก้ไข  คือ ปัญหาแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากลุ่มโรฮิงญา ที่ทางจังหวัดสงขลาได้มีการจับกุมเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา จำนวน 728 คน และได้มีการแยกย้ายไปให้ส่วนราชการต่างๆร่วมกันช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจภูธรต่างๆในจังหวัดสงขลา , ด่านตรวจคนเข้าเมือง , บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ซึ่งในเรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ช่วยกันสอดส่องดูแล พร้อมทั้งตรวจสอบไม่ให้มีการชักนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของทางภาครัฐเอง หากฝ่าฝืนถือว่าเป็นการกระทำความผิดทางวินัยและเป็นความผิดทางอาญาอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ พร้อมร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาเร่งพัฒนาจังหวัดสงขลาต่อไป

ข้อมูลและที่มา ข่าว-ภาพ สุวดี ศรีสมบูรณ์ สวท.สงขลา
#1691
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ส่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมรับภัยแล้งในจังหวัดสงขลา คาดประสบภัยแล้งระยะยาว

นายกฤษฎา บุญราช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า  จากข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก พบว่า  ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ? พฤษภาคม 2556 ในพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกน้อย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา  ซึ่งจะทำให้พื้นที่ในจังหวัดสงขลาประสบภัยแล้ง มีผลกระทบต่อพื้นที่ทำการเกษตรและน้ำในการอุปโภค บริโภค จึงขอให้ประชาชนได้เตรียมรับภัยแล้งในช่วงดังกล่าว โดยใช้น้ำอย่างประหยัดมีการกักเก็บน้ำไว้ใช้เมื่อจำเป็น นอกจากนั้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมงบประมาณ บุคลากร และอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมในการช่วยเหลือประชาชน เช่น การดูแลบ่อน้ำบาดาล รถบรรทุกน้ำและการเตรียมแหล่งน้ำ  สำหรับช่วยเหลือเกษตรและประชาชน รวมทั้งการวางแผนประสานงานในการจัดทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรด้วย...



ดำรง เศวตพรหม//ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1692
จังหวัดสงขลา ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ ประจำปี 2556

                  นายดำรง เศวตพรหม ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา แจ้งว่า ด้วยวัดพะโคะ (วัดราชประดิษฐาน) ตั้งอยู่บนเขาพะโคะหรือเขาพิพัทสิงห์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อ.สทิงพระ  จ.สงขลา  ได้กำหนดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ ประจำปี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 จนถึงปัจุจบัน โดยกำหนดวันพฤหัสบดีแรกข้างแรมของเดือน 2 (ยี่) ของทุกปีเป็นวันทอดผ้าป่า สำหรับปีนี้ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่  31 มกราคม 2556  หรือแรม 5 ค่ำ เดือน ยี่  เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ให้คงอยู่สืบไป โดยมีกำหนดการ ในวันพุธที่ 30 มกราคม 2556 (แรม 4 ค่ำ เดือนยี่) พิธีสมโภชผ้าป่า  ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป  และใน   วันพฤหัสบดีที่  31 มกราคม 2556  (แรม 5 ค่ำ เดือนยี่) ตั้งแต่เวลา 07.30 ? 11.00 น. พิธีห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ โดยมีขบวนแห่ผ้าห่มพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ และในช่วงบ่ายเวลา  13.00  น. พิธีทอดผ้าป่า แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์

                จังหวัดสงขลา  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ปิดทองหลวงปู่ทวด และห่มผ้าพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุวัดพะโคะ  ในวันที่  30 - 31 มกราคมนี้...
#1693
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th
   
ASTV ผู้จัดการรายวัน - ขณะที่ศึกฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ใกล้จะระเบิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ 4 อันดับแรกจากฤดูกาลที่แล้ว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี และ บีอีซี เทโรศาสน เตรียมเสริมทัพเต็มกำลัง แม้จะมีแนวทางการทำทีมที่ต่างกัน แต่ทุกสโมสรล้วนแล้วมีเป้าหมายเดียวกันคือ แชมเปียนส์
       
       กิเลนอิมพอร์ต : แชมป์เก่า เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด หวังเก็บ โทรฟี ไว้ในถิ่นเอสซีจี สเตเดียม เป็นสมัยที่ 4 แต่ขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการกรำศึกหนักทั้งซีซันที่มี เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เพิ่มเข้ามา จึงระดมเสริมทัพอย่างต่อเนื่องโดยเน้นไปที่แข้งต่างชาติเป็นหลัก นำโดย โรแลนด์ ลินซ์ ดาวยิงดีกรีทีมชาติออสเตรีย ชุดฟุตบอล ยูโร 2008 พร้อมด้วย มาเต็จ รัปนิค ปราการหลังดาวรุ่งชาวสโลวีเนีย, ปัค นัม โชล มิดฟิลด์เกาหลีเหนือ, คิม ยู จิน กองหลังเกาหลีใต้ และ จูเนียร์ กีมาโร ?จูนินโญ? ห้องเครื่องชาวบราซิล ของ บีบีซียู เอฟซี เมื่อบวกกับที่มีอยู่เดิมอย่าง เปาโล เรนเจล, มาริโอ ยูรอฟสกี, ดานโญ เซียกา, อัตนัน บาราคัต, โคเน โมฮัมเหม็ด และ รี ควาง ชอน ทำให้ ?กิเลนผยอง? มีแข้งต่างชาติในทีมรวมแล้ว 11 ราย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ?ย็อคกา? สลาวิซา โยคาโนวิช กุนซือชาวเซิร์บ ว่าจะผสมผสานกันได้กลมกล่อมขนาดไหน หรือจะบรรจุใครเข้าโควตารายการใด
       
       รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรกล่าวว่า ?ปีนี้ทีมต้องเล่นในถ้วยเอเชียจึงต้องเพิ่มขนาดทีมให้มากขึ้น ผู้เล่นต่างชาติอาจดูเยอะเมื่อรวมกับผู้เล่นเก่า เนื่องจากเราต้องการผู้เล่นที่มีคุณภาพมากที่สุดเพื่อใช้งานในทุกรายการ?
       
       ลูกครึ่งเซราะกราว : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้บทเรียนราคาแพงจากการเสริมตัวผู้เล่นผิดพลาดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซีซันนี้ ?เซราะกราว? สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการต้อนแข้งลูกครึ่งเชื้อสายไทยจากทุกมุมโลกมาร่วมทีม ซึ่งทุกคนล้วนพกดีกรีที่ไม่ธรรมดาติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์ มิดฟิลด์ลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ จากทีมกลาสฮอปเปอร์ ซูริค ที่เคยพาทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกยู-17 ครั้งล่าสุดปี 2009 ที่ประเทศไนจีเรีย รวมถึง เดนนิส บุสเชนนิง ตัวรุกไทย-เยอรมัน อดีตเด็กฝึกของ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา และ ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร ดาวยิงเชื้อสายไทย-ลาว ที่เคยเป็นนักเตะเยาวชนสโมสรซามพ์โดเรีย ในอิตาลี และเมื่อรวมกับ แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ ที่ย้ายมาปีที่แล้ว เบ็ดเสร็จรวม 4 ราย ซึ่งทั้งหมดสามารถลงเล่นในโควตานักเตะไทย บวกกับประสบการณ์จากต่างแดน และรูปร่างที่สูงใหญ่เชื่อว่าจะเป็นอาวุธหนักในการล่าทุกแชมป์สู่แดนอีสานใต้แน่นอน
       
       เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรเผยว่า ?เรามีประสบการณ์จากฤดูกาลที่แล้วในถ้วยเอเชีย ทำให้พบว่าต้องเร่งพัฒนาผู้เล่นไทยมากกว่าต่างชาติ จึงได้สร้างความหลากหลายด้วยการดึงแข้งลูกครึ่งเพื่อยกระดับทีมให้สูงขึ้น เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องประสบการณ์ วินัย และมีมาตรฐานเดียวกับแข้งต่างชาติระดับต้นๆในไทยลีก แต่เป็นผู้เล่นไทย?
       
       ทีมเวิร์คฉลามชล : ชลบุรี เอฟซี ยังคงแน่วแน่ในคอนเซ็ปต์การทำทีมสไตล์ของตนเอง เน้นทีมเวิร์คและระบบการเล่นเป็นหลักมากกว่าสตาร์ดัง ผู้เล่นตัวหลักยังคงเป็นชุดเดิม พิภพ อ่อนโม้ และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น เป็นคีย์แมนในเกมรุก บวกกับ 2 แข้งนอกที่เสริมเข้ามาคอยสแตนด์บายอย่าง อิรฟาน บัชดิม จอมทัพทีมชาติอินโดนีเซีย และ อีวาน บอสโควิช ศูนย์หน้า ชาวมอนเตเนโกร แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเสีย สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาตัวเก่ง แต่กลับไม่หวั่นว่าจะเป็นรอยโหว่นี้ พร้อมเปิดโอกาสให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ กับ พุทธินันท์ วรรณศรี ลูกหม้อของทีมได้แสดงความสามารถ ซึ่งปีนี้ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญว่าแข้งที่เล่นร่วมกันมานาน รวมถึงการกลับมาของ เกียรติประวุฒิ สายแวว, ศราวุฒิ จันทพันธ์ และ อนุชา กิจพงษ์ศรี จะสามารถพา ?ฉลามชล? เถลิงความสำเร็จได้หรือไม่ หลังรองแชมป์เก่าไม่ต้องพะวงในบอลถ้วยเอเชีย มีเพียงโฟกัสเดียวที่ต้องการคือแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก
       
       วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคของทีมกล่าวว่า ?ชลบุรี ยังคงเน้นทีมเวิร์คมากกว่าความสามารถส่วนบุคคล เพราะสไตล์การเล่นของนักเตะหรือผู้เล่นต่างชาติที่ย้ายเข้ามาไม่สามารถทำผลงานได้ดีตลอดทุกนัด แต่ทีมเวิร์คที่ดีสามารถสร้างมาตรฐานของทีมให้ออกมาดีได้ตลอด?
       
       แข้งคะนองมังกรไฟ : บีอีซี เทโรศาสน วางรากฐานตั้งแต่ซีซันก่อนด้วยการเปิดโอกาสให้แข้งดาวรุ่งของทีมอายุระหว่าง 18-20 ปี ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา รวมถึง อัครพล มีสวัสดิ์ ซึ่งการผ่านร้อนผ่านหนาวตลอดขวบปีที่ผ่านมา รวมถึงการก้าวขึ้นสู่ทีมชาติ ทำให้พวกเขาสั่งสมประสบการณ์พร้อมที่จะระเบิดออกมา เมื่อบวกกับผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, เคลย์ตัน ซิลวา และ ศรายุทธ ชัยคำดี ทำให้ ?มังกรไฟ? แข็งแกร่งพอที่จะเป็นตัวเต็งในการแย่งแชมป์แน่นอน
       
       ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม เผยว่า ?บีอีซี เทโรฯ วางแนวทางการทำทีมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว โดยเน้นการพัฒนาดาวรุ่งเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้หลายคนจากปีก่อนพร้อมแล้วที่จะเป็นกำลังหลักให้กับทีม และเรายังมีเด็กอีกหลายคนจากทีมเยาวชนที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาอีกเช่นกัน ซึ่งปีนี้เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป้าหมายของเราคือตำแหน่งแชมป์?
       
      ถึงเวลานี้แฟนลูกหนังของเหล่าบรรดาทีม "บิ๊ก4ไทยลีก" คงต้องมาคอยติดตามผลงานทีมรักว่าการรักษาแนวทางการทำทีมของแต่ละสโมสรจะส่งผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน เมื่อถึงเวลาเปิดสนามแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2013 เริ่มเปิดฉาก
#1694
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th


นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ ?กำนันเป๊าะ? ถูกตร.จับกุมตัวแล้ว

ตำรวจคอมมานโดบุกรวบตัว "กำนันเป๊าะ" ได้คาด่านทางด่วนลาดกระบัง หลังเดินทางมารักษาตัวที่ รพ.สมิติเวช ย่านพัฒนาการ พร้อมหลานสาวช่วงเช้าวันนี้ ขณะนี้หิ้วตัวมาไว้ที่หน่วยคอนมานโด กองปราบปราม ที่ซอยโชคชัย 4 ผบช.ก.อยู่ระหว่างสอบสวนรอส่งตัวให้ศาลอาญา
       
       เมื่อเวลา 09.30 น.พ.ต.อ.อาธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอนมานโดบุกเข้าจับกุมตัวนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ" ผู้กว้างขวางทางภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคดีจ้างฆ่ากำนันยูร และทุจริตการจัดซื้อที่ดินเพื่อทำที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว ได้ที่บริเวณด่านชำระค่าทางด่วนลาดกระบัง (ขาออก) เพื่อขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ขณะกำนันเป๊าะโดยสารมาในรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อเล็กซัส สีดำ ทะเบียน ฏฏ 9519 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับหลานสาวซึ่งร่วมกันโดยสารมาในรถจำนวน 3 คนโดยมีหลานสาวกำนันเป๊าะเป็นผู้ขับขี่หลังจากสายรายงานว่ากำนันเป๊าะได้เดินทางมารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ย่านพัฒนาการ โดยปลอมแปลงชื่อผู้ป่วยว่า นายกิม แซ่ตั้ง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้เดินทางมาสอบสวนนนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ด้วยตนเองที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปรามคอนมานโด ที่ซอยโชคชัย 4 ด้วยบรรยากาศเคร่งเครียดภายในห้องสอบสวนโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่ต่างมาปักหลักรอทำข่าวอยู่บริเวณหน้ากองปราบฯโชคชัย 4 จำนวนมากเข้าทำข่าวแต่อย่างใด โดยรายงานข่าวแจ้งใว่าหลังการาสอบสวนเสร็จสิ้น ตร.กองปราบฯจะนำตัวกำนันเป๊าะไปส่งตัวให้ศาลอาญาต่อไป
       
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2550 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ ?กำนันเป๊าะ? ในคดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วเป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน ทว่าในวันฟังคำพิพากษานายสมชายไม่เดินทางไปยังศาล และหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา
       
       คดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อปี 2536 เมืองพัทยา จะจัดหาที่ดินเพื่อใช้เป็นที่กลบฝังขยะ โดยตั้งเงื่อนไขว่าต้องอยู่ห่างจากเมืองพัทยาในรัศมีไม่เกิน 15 กิโลเมตร แต่หลังจากเปิดประมูล ไม่ปรากฏมีเจ้าของที่ดินเจ้าใดเสนอมา จึงมีการแก้ไขเงื่อนไขว่าให้ห่างออกไปอีกเป็น 25 กิโลเมตร จุดนี้เองนายพีระ ศิลรัตน์ เจ้าของที่ดินจำนวน 150 ไร่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสนอที่ดินจำนวน 140 ไร่ ให้เมืองพัทยาพิจารณา โดยเสนอขายในราคาไร่ละ 6 แสนบาทเศษ รวมเป็นเงิน 93 ล้านบาทเศษ ซึ่งเมืองพัทยาก็ตกลงซื้อที่ดินดังกล่าวเอาไว้และชำระเงินให้เจ้าของที่ดินไปทั้งหมด
       
       ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีการร้องเรียนว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในการจัดซื้อเองก็รู้ดี เพราะเคยมีหนังสือจากสำนักงานที่ดิน จ.ชลบุรี และกรมที่ดินให้ตรวจสอบและเพิกถอนสิทธิ แต่ยังฝืนทำสัญญาซื้อขาย เมื่อมีการสอบสวนลึกลงไปอีกพบข้อมูลอันน่าตระหนกถึงมหกรรมทุจริตครั้งใหญ่ เพราะที่ดินแปลงนี้ นายพีระเพิ่งซื้อมาจาก บริษัท เค.ไอ.ที.ไอ. เมื่อปี 2535 ในราคาเพียงไร่ละ 50,000 บาทเท่านั้น และในสัญญาการซื้อขายทั้ง 2 ฝ่ายก็ลงชื่อยอมรับเองว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ซึ่งระยะเวลาเพียงปีเดียว ที่ดินไร่ละ 5 หมื่นบาทกลับเพิ่มมูลค่ากว่า 10 เท่าอย่างเหลือเชื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ที่ดินที่เหลืออีก 10 ไร่ นายพีระขายต่อให้ชาวบ้านรายหนึ่งในราคาเพียงไร่ละ 30,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่เมืองพัทยาอ้างว่าได้ตรวจสอบการซื้อขายที่ดินละแวกดังกล่าวแล้ว พบว่าราคาอยู่ในระดับมาตรฐานคือไร่ละ 6-7 แสนบาท แต่จากหลักฐานพบว่า การซื้อขายที่ดินที่เมืองพัทยานำมาอ้างนั้น เกิดขึ้นในช่วงไล่เลี่ยกับที่มีการจัดซื้อที่ทิ้งขยะ และจำนวนผู้ซื้อ-ขายที่ดินรอบๆ จำนวน 3 ราย เป็นการซื้อขายกันเองแบบจงใจ เจ้าของใหม่ซื้อที่ดินไม่นานก็ขายคืนให้เจ้าของเดิม แต่ราคาลดลงมหาศาล และเมื่อสอบปากคำเจ้าของที่สารภาพว่า มีคนจ้างให้ทำเช่นนี้ ได้เงินค่าเสียเวลา 10,000 บาท ส่วนภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนมีคนออกให้ทั้งหมด
       
       กำนันเป๊าะได้เข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อชุดสืบสวนของพนักงานสอบสวนภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สืบทราบและมีหลักฐานแน่ชัดว่า นายพีระผู้ขายที่ดินให้เมืองพัทยา ทำงานอยู่ในบ้านกำนันเป๊าะ และมีสถานะเป็นเพียงคนสวนเท่านั้น จนทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกนายสมชาย คุณปลื้ม รวมเป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน
       
       นอกจากคดีข้างต้นแล้ว ?กำนันเป๊าะ? ยังตกเป็นผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชติ หรือ ?กำนันยูร? คู่แข่งบารมีร่วมเมือง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่กำนันยูรถูกสังหารเสียชีวิต แต่เป็นคดีก่อนที่กำนันยูรจะถูกสังหาร โดยตำรวจมีหลักฐานว่า มีการวางแผนและจ้างวานให้สังหารกำนันยูร ทว่า การสั่งการในครั้งนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ โดยศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์พิพากษาจำคุกในคดีจ้างวานฆ่าแต่ไม่สำเร็จเป็นเวลา 25 ปี และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2555 ศาลฎีกาได้พิพากษายืนจำคุก ?กำนันเป๊าะ? และ ?ส.ท.เหี่ยว? หรือ นายภาสกร หอมหวล คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร ศาลสั่งออกหมายจับสองจำเลยที่ยังหลบหนีมารับโทษตามคำพิพากษา
#1695
ทีมสงขลายูไนเต็ด ได้มีการวางโปรแกรมการอุ่นเครื่องก่อนที่ไทยลีก 2013 จะเปิดไว้ดังนี้

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พบกับทีม Penang f.a  ที่City Stadium,George Town, Penang

วันที่ 3 กุมภาพันธ์พบ Kedah F.Aที่ Darul Aman Stadium, Alor Star,Kedah

วันที่ 7 กุมภาพันธ์พบทีมรวมดารานักเตะจากไทยลีก ที่จ.ยะลา (พิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลPEA เอฟเอคัพ)

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พบพัทลุงเอฟซี ที่สนาม อบจ.พัทลุง

วันที่13-15-17 กุมภาพันธ์ อุ่นเครื่องกับทีมในไทยพรีเมียร์ลีกที่กรุงเทพ

วันที่25 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.เมือง จ.สงขลา

วันที่26 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.นาทวี จ.สงขลา

มีการแข่งขันฟุตบอลสองคู่ คู่แรก15.00น.ทีมสงขลายูไนเต็ดกับทีมปัตตานีเอฟซี

16.30น.ทีมรวมดาราช่อง3พบกับทีมเดโมแครต เอฟซีนำทีมโดยหัวหน้าพรรคปชป.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันที่27 กุมภาพันธ์ เปิดตัวทีมฟุตบอลสงขลายูไนเต็ดพร้อมคอนเสิร์ต  ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
#1696
โดย เนชั่นทันข่าว http://breakingnews.nationchannel.com

กองทัพเรือภาค 3 รับแจ้งจากชาวประมงที่ทำประมงในบริเวณหน้าเกาะราชาใหญ่ ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ว่าพบเรือของชาวโรฮิงญาซ่งเป็นเรือประมงดัดแปลงพยายามจะเข้าฝั่งที่เกาะดังกล่าว แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว และประชาชนอยู่บนเกาะจำนวนมาก ชาวบ้านบนเกาะจึงได้ห้ามไม่ให้เรือเข้าที่ฝั่งที่เกาะราชาใหญ่ พร้อมทั้งผลักดันให้ไปลอยลำอยู่ที่บริเวณเกาะราชาน้อย ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะราชาใหญ่

ด้าน พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผบ.ทัพเรือภาค 3 จึงได้สั่งการให้เรือหลวงวังใน ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกออกไปตรวจสอบบริเวณที่ได้รับแจ้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 28 ไมล์ทะเล ทางเจ้าหน้าที่พบเรือประมงดัดแปลงยาวประมาณ 30 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร ตัวเก๋ง 2 ชั้น ภายในละเรือมีชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นชายล้วน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อัดแน่นอยู่ภายในลำเรือ และบริเวณบนหลังคาเก๋ง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำเรือไปเทียบ

จากการสอบถามทราบว่า ภายในเรือมีชาวโรฮิงญาเป็นผู้ชายทั้งหมด 205 คน เดินทางออกจากพม่าเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่เมื่อเดินทางมาได้ 4 วัน อาหารและน้ำเริ่มหมดลงจึงได้นำเรือเข้าหาฝั่ง จนกระทั่งเข้ามาพบกับเกาะจึงได้นำเรือเข้าเกาะ แต่เมื่อพบกับชาวบ้านและเรือลำต่างๆ จำนวนมากที่จอดลอยลำอยู่ จึงได้ขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงถูกผลักดันให้มาลอยลำอยู่ที่บริเวณใกล้กับเกาะราชาน้อย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำเรือหลวงวังใน จึงได้แบ่งปันน้ำจืดและอาหารที่อยู่ภายในลำเรือให้กับชาวโรฮิงญา โดยชาวโรอิงญาได้นำน้ำใส่แกลลอน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ฉีดน้ำเป็นละออง เพื่อระบายความร้อนให้กับชาวโรฮิงญาที่นั่งอยู่ภายในเรือท่ามกลางแสงแดด จนกระทั่งน้ำเต็มทุกแกลลอน ชาวโรฮิงญาได้ปรบมือ เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะหันหัวเรือออกน่านน้ำสากล และเดินเครื่องเรือมุ่งไปข้างหน้าต่อไป
#1697
หน่วยเฉพาะกิจสงขลา  เร่งบรูณาการทุกฝ่ายเฝ้าระวังพื้นที่ 4 อำเภอสงขลา ไม่ให้เกิดเหตุร้ายจากผู้ก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้

                ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจสงขลา อ.เทพา จ.สงขลา พลตรีนพวงศ์ สุรวิชัย  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา หรือ ฉก. สงขลา ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและพลเรือน      ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 4 อำเภอ  จังหวัดสงขลา คือ อ.สะบ้าย้อย เทพา นาทวี และอำเภอจะนะ  เพื่อปรับกลยุทธ์ในการปฏิบัติให้เกิดความสงบในพื้นที่อย่างยั่งยืน ด้วยการบรูณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชนที่จะทำให้หมู่บ้านทุกหมู่บ้านเข้มแข็งเกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน ด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา คณะกรรมการหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและภาคประชาชน

                นอกจากนั้นจะมีการเร่งสลายโครงสร้างอำนาจรัฐซ้อนที่ผู้ก่อความไม่สงบได้จัดตั้งขึ้นในหมู่บ้านให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อหน่วยเฉพาะกิจสงขลาจะได้ส่งมอบพื้นที่ 4 อำเภอ  ให้กับทางจังหวัดสงขลา ดูแลต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทางหน่วยเฉพาะกิจสงขลาได้ทำพิธีส่งมอบพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอนาทวีให้กับทางจังหวัดสงขลาไปเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่อำเภอเทพาและอำเภอสะบ้าย้อยให้กับทางจังหวัดสงขลาได้ในเร็ว ๆ นี้...



นายดำรง เศวตพรหม// ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1698
จังหวัดสงขลาเร่งสร้างพลังประชาชนเพื่อต่อสู่กับการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา วันนี้ (25 มค.56) นายขจรศักดิ์  เจริญโสภา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสงขลา  เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหายาเสพติดของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีการระบาดในหลายพื้นที่ซึ่งพบว่าสถานการณ์    ยาเสพติดในจังหวัดสงขลา ยังคงมีความรุนแรง จากการจับกุมในคดียาเสพติดพบว่า อำเภอหาดใหญ่  มีคดียาเสพติดมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ อำเภอสะเดา อำเภอเมือง และอำเภอนาทวีตามลำดับ นอกจากนั้นยังพบว่าคดีการเสพไอซ์ มีมากที่สุด รองลงมาเป็นยาบ้าและกระท่อม ทั้งนี้เนื่องจากผู้ที่เคยเสพยาบ้าได้หันมาเสพไอซ์แทน

อย่างไรก็ตามทางศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสงขลา จะยังคงบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้าดำเนินการกับผู้เสพและผู้ค้าอย่างเข้มข้นทุกรูปแบบตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะให้ ยาเสพติดหมดสิ้นไปจากประเทศไทย โดยเฉพาะการรณรงค์ให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นพลังแผ่นดิน พลังสังคม และพลังชุมชนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่กำลังระบาดอยู่บนแผ่นดินไทยให้หมดสิ้นไป



นายดำรง  เศวตพรหม//ข่าว ส.ปชส.สงขลา
#1699
           ด้วยจังหวัดสงขลา กำหนดฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรักษาความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่ ครั้งที่ 2 โดยฝึกซ้อมการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากเหตุไฟไหม้อาคารสูง ในวันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2556 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป  ณ บริเวณโรงแรมหรรษา เจ บี หาดใหญ่ โดยการฝึกดังกล่าวจะเป็นการจำลองเหตุการณ์ไฟไหม้และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เสมือนเหตุการณ์จริง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ อย่าได้ตื่นตระหนก หวาดกลัว เพราะเป็นเพียงการฝึกซ้อมการปฏิบัติงานในการเผชิญเหตุไฟไหม้บนอาคารสูงของเจ้าหน้าที่เท่านั้น จังหวัดสงขลาจึงขอแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ทราบโดยทั่วกัน?

                                                                                           

วัชรพงศ์  พูนชุม / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
#1700
]ผู้ว่าฯสงขลา มอบรางวัลสำนักทะเบียนดีเด่นและบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา [/b]

[attach=1]

วันนี้ (3 ม.ค.55) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา   มอบประกาศเกียรติคุณและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ในโอกาสประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

       นายวิโรจน์ ทัฬหะวาสน์ ปลัดจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกสำนักทะเบียนดีเด่น ประจำปี 2555 และ โครงการคัดเลือกสำนักทะเบียนดีเด่นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

       สำหรับจังหวัดสงขลา สำนักทะเบียนอำเภอเทพา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสำนักทะเบียนอำเภอจำนวนราษฎร ตั้งแต่ 50,001 ? 80,000 คน และประกาศเกียรติคุณนายทะเบียน ประจำสำนักทะเบียนดีเด่น ได้แก่ นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอเทพา โครงการสำนักทะเบียนดีเด่น ประจำ 2555 ได้แก่ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ประเภทสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาล จำนวน ราษฎร ตั้งแต่ 70,001 คนขึ้นไป ประกาศเกียรติคุณนายทะเบียน ประจำสำนักทะเบียนดีเด่น ได้แก่ นายสุชาติ เล็กขาว ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่

     ประกาศเกียรติคุณบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียน ระดับจังหวัด และเข็มเครื่องหมายเชิดชุเกียรติ ได้แก่ นายพรชัย เสือสิงห์เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร 4 สำนักทะเบียนท้อถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่ และนางเสาวลักษณ์ทรงสงวน เจ้าพนักงานปกครองชำนาญ อำเภอเทพา และประกาศเกียรติคุณบุคลากรดีเด่นทางการทะเบียนประจำสำนักทะเบียนดีเด่นและเข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ได้แก่ นางเสาวลักษณ์ ทรงสงวน เจ้าพนักงานปกครองชำนาญ อำเภอเทพา และนายสันติ คุ้มเคี่ยม เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร 7 สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่