[สงขลามีเดีย]

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เปิดรับแจ้งการครอบครองงาช้างบ้านภายใน 21 เมษายน 2558 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท

วันนี้(10ก.พ.58) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายสุพจน์ เพริศพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เปิดศูนย์รับแจ้งการครอบครองงาช้างบ้าน โดยมีประชาชนผู้ครอบครองงาช้างบ้านทยอยเดินทางนำงาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง อาทิ กรงนกงาช้าง สร้อยประคำงาช้าง มาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง

นายสุพจน์ เพริศพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการปรับปรุงแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้างาช้างแอฟริกาข้ามชาติผิดกฎหมาย และกำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการครอบครองและการค้างาช้างในประเทศไทยตามคำแนะนำของคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) หากประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม อาจถูกคว่ำบาตรทางการค้า CITES  เช่น ผลิตภัณฑ์หนังจระเข้ กล้วยไม้ กิ้งก่า หนังงู และนกแก้ว เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยกว่า 47,000 ล้านบาท

ดังนั้น สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา จึงได้เปิดให้ประชาชนที่ครอบครองงาช้างบ้านและผลิตภัณฑ์จากงาช้างบ้าน รวมทั้งผู้ค้างาช้างบ้าน มาจดทะเบียนการครอบครองและขออนุญาตค้างาช้างบ้าน ภายในวันที่ 21 เมษายน 2558 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถแจ้งการครอบครองได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำหรับท้องที่ต่างจังหวัด สามารถแจ้งการครอบครองได้ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1-16 และสาขา หรือสามารถแจ้งได้ทางไปรษณีย์ที่ ตู้ ปณ. 555 ปณศ.จตุจักร กทม. 10900 โดยใช้แบบแจ้งการครอบครองสามารถดาวน์โหลดแบบแจ้งได้ที่ WWW.DNP.GO.TH

ในส่วนของจังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง สามารถแจ้งการครอบครองงาช้างบ้านได้ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา อ.เมือง จ.สงขลา โทรศัพท์ 0-7431-1020 ต่อ 601 ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส สามารถติดต่อได้ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี หรือโทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อมูลและที่มา
สุธิดา พฤกษ์อุดม / ข่าว สวท.สงขลา 10-02-58