Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

วัดนาทวี จัดสร้างเหรียญเจริญพร ๒๕๕๙ เหรียญรูปเหมือนพระสามตา อ.ภัทร อริโย รุ่นแรก

เริ่มโดย สงขลามีเดีย, 15:36 น. วันที่ 20 09 59

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

สงขลามีเดีย

วัดนาทวี จัดสร้างเหรียญเจริญพร ๒๕๕๙
เหรียญรูปเหมือนพระสามตา อ.ภัทร อริโย รุ่นแรก


วัดนาทวี จังหวัดสงขลา เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์ภัทร อริโย รุ่นแรก "รุ่นเจริญพร ๒๕๕๙" และกำไรเต่าเลื่อนรุ่น ๑ ฉลองอายุวัฒนมงคล ๕๐ ปี  พระครูสุวัฒนาภรณ์ (อ.ภัทร อริโย) พระเกจิสามตาชื่อดังของภาคใต้

สำรับการจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์ภัทร อริโย รุ่นแรก "รุ่นเจริญพร ๒๕๕๙" และกำไรเต่าเลื่อนรุ่น ๑ ฉลองอายุวัฒนมงคล ๕๐ ปี  พระครูสุวัฒนาภรณ์ (อ.ภัทร อริโย) พระเกจิสามตาชื่อดังของภาคใต้ ซึ่งทางวัดจัดสร้างขึ้นมาในจำนวนจำกัด ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติยังแห่กันมาจองเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์ภัทร อริโย รุ่นแรก รุ่นเจริญพร 59 ทำให้เพียงไม่กี่วัน เหรียญชุดกรรมการก็ถูกจองจนหมดวัดไปแล้ว
         
ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ก็ยังเหลือเพียงไม่มากนัก หากนักสะสมนิยมพระเครื่อง และประชาชนทั่วๆ ไปยังไม่รีบมาจองเหรียญรุ่นนี้ที่วัด คาดว่าอาจจะถูกจองหมดวัดเหมือนเหรียญรุ่นพญาเต่าเลื่อนรับยศ ที่ถูกประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติแห่จองจนเหรียญพญาเต่าเลื่อนรับยศ หมดวัดภายในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น หากท่านใดยังไม่จองเหรียญ รุ่นเจริญพร 59 ก็คงหมดในไม่ช้า ซึ่งหลังจากทางวัดนาทวีจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้แล้วก็จะหยุดทำวัตถุมงคลไปอีกระยะหนึ่ง
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่ป่าบาลาฮาลา ภายในเขื่อนบางลาง บริเวณคลองซาไก ม.8 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา รอยต่อ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งเป็นเหตุให้นักบินและช่างเครื่องรอดตายราวปาฏิหาริย์ทั้ง 7 นาย ซึ่งแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น จนตกเป็นข่าวดัง หลังพบว่า 1 ใน 7 ที่รอดชีวิตแขวนหลวงปู่ทวด รุ่นชนะมาร วัดพะโคะ จ.สงขลา ซึ่งวัตถุมงคลรุ่นนี้ พระอาจายร์ภัทร อริโย เกจิดังภาคใต้ ฉายา "เทพสามตา" เป็นหนึ่งในเกจิดัง ที่ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคล "รุ่นชนะมาร" ด้วยเช่นกัน

พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรือ อาจารย์ภัตร อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวี ตั้งอยู่ หมู่ 4 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เกิดเมื่อวันที่  20 กันยายน พ.ศ 2509 ที่หมู่ 6 ตำบลโคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง พ่อชื่อนายแผ้ว มารดาชื่อ นางโอภา นพรัตน์ วัยเด็ก ด.ช.สุภัตร นพรัตน์ อาศัยอยู่กับ ยายแก้ว เป็นส่วนใหญ่ ไปไหนยายแก้ว จูงมือตลอด ชาวบ้านในหมู่บ้านพบยายแก้ว ก็จะเห็น ด.ช.ภัตร และก่อนนอนทุกคืน ยายแก้ว ก็จะบอกว่า "โตขึ้นมาให้บวชแล้วอย่าสึก"

ด.ช.ภัตร นพรัตน์ เรียนอยู่โรงเรียนวัดควนเพ็ง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่ออายุ 13 ปี ยายแก้ว นายแผ้ว นางโอภา ก็ได้นำไปอยู่วัดวังปริง ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา ตลอดการเดินทาง ยายแก้วจะจูงมือหลานชายคนนี้ตลอด เมื่อถึงวัดวังปริง ยายแก้ว ก็จุงมือ ด.ช.ภัตร ไปส่งให้กับ พระอุปัชฌาย์ พระครูไพศาลสังฆกิจ เพื่อท่องจำคำขานนาคและบทไหว้พระสวดมนต์ ก่อนยายแก้ว จะกลับได้สอน ด.ช.ภัตร ให้เป็นคนดี และย้ำว่าบวชแล้วไม่ต้องสึก

หลังจาก ด.ช.ภัตร ท่องจำเรียบร้อยแล้ว พระครูไพศาลสังฆกิจ จึงกำหนดวันบรรพชา ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2523 เป็นสามเณรสุภัตร นพรัตน์ กระทั่งถึงวันที่ 23 เดือนเมษายน พ.ศ. 2530 อายุครบ 20 ปี ก็ได้อุปสมบท เป็นพระสุภัตร อริโย พระครูไพศาลสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูกิตติคีรีรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดประเสริฐ ธุติมณฺโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ระหว่างบวชก็ได้ศึกษาไปด้วย โดยมัธยมตอนต้นจบที่โรงเรียนบาลีสาธิตมหาจุฬา วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพมหานคร มัธยมตอนปลาย จบที่วชิระมหามงกุฎ วัดมกุฎกษัตริย์ กรุงเทพมหานคร

ในแต่ละวัน พระครูสุวัฒนาภรณ์ (พ่อท่านภัตร) ได้สงเคราะห์ญาติโยมที่มาขอความช่วยเหลือทางด้านจิตใจ พร้อมทั้งให้คติธรรมสอนใจ "รักษาศีล 5 อยู่เป็นนิจ ชีวิตและสังคมจะเป็นสุข" และท่านได้พูดกับศรัทธาประชาชนที่มากราบนมัสการอยู่เสมอว่า "ถ้าไม่อยากลำบากก็ให้นำพระราชดำรัสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้ดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง แล้วจะไม่จน ซึ่งพระราชดำรัสดังกล่าว ท่านพระครูสุวัฒนาภรณ์ ได้แนะนำให้โยมพ่อโยมแม่นำไปปฏิบัติแล้วและได้ผลดีเยี่ยม แม้ไม่มีเงินก็สามารถดำรงชีพได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ" ซึ่งท่านได้พูดกับลูกศิษย์และญาติโยมที่มาเยี่ยมฟังอยู่เนืองๆ พระครูสุวัฒนาภรณ์จึงถือเป็นร่มธรรมรูปหนึ่งของชาวสงขลา ที่ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พุทธศาสนา

สำหรับวัตรปฏิบัติของ อาจารย์ภัทร เจ้าอาวาสวัดนาทวี ซึ่งกลายเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนทั้งคนไทย และต่างประเทศ นอกจากจะเป็นผู้ที่มีความเข้มขลังในการปลุกเสกพระเครื่อง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักของผู้มีจิตศรัทธาในพระเครื่อง และนักเลงพระแล้ว ยังเป็นพระแท้อีกรูปหนึ่งที่ไม่มุ่งหากำไรจากวัตถุสิ่งของ เงินทองที่ได้จากผู้ที่มีจิตศรัทธาเป็นผู้ถวาย
         
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เหลือจากการใช้ในการทะนุบำรุงวัดนาทวี และการศึกษาของภิกษุ สามเณรที่บวชเรียนอยู่ภายในวัด จะถูกแจกจ่ายให้แก่การกุศล เช่น การมอบให้แก่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย มอบให้โรงเรียนต่างๆ เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเยาวชน การจัดตั้งมูลนิธิอริโยเพื่อการกุศลในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าความเดือดร้อนของส่วนรวม
       
อาจารย์ภัทร อริโย หรือเทพสามตา กล่าวว่า วัดนาทวีแห่งนี้ คือ ที่พึ่งทางใจของผู้คนที่เข้ามาทำบุญที่วัดเพื่อความสุขใจ และเพื่อคลายทุกข์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสงฆ์ในการเป็นที่พึ่งเพื่อชี้ทางแห่งปัญญา วันนี้ วัดนาทวี ยังต้องมีการพัฒนาอีกหลายด้าน มีการทำสวนสมุนไพรเพื่อประโยชน์ของผู้ที่เข้ามาที่วัด มีการก่อสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อรองรับความเจริญ ซึ่งจำเป็นที่จะดำเนินการ รวมทั้งยังต้องเดินหน้าในการช่วยเหลือสังคมในนามของมูลนิธิ ซึ่งยังคงต้องพึ่งพาจิตศรัทธาผู้คนทุกภาคส่วนในการร่วมบุญกุศลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป
         
สำหรับเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์ภัทร อริโย รุ่นแรก "รุ่นเจริญพร ๒๕๕๙" และกำไรเต่าเลื่อนรุ่น ๑ ฉลองอายุวัฒนมงคล ๕๐ ปี  พระครูสุวัฒนาภรณ์ (อ.ภัทร อริโย) มีวัตถุประสงค์การจัดสร้างเพื่อนำรายได้มาจัดสร้างอาคารอริโยสามัคคี (กู้ภัย) อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศลในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัยทุกรูปแบบ รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระของหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy