Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สงขลามีเดีย

#61
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าจัดกิจกรรมจิตอาสาทาสีอาคารและรั้ว ณ ตาดีกา บ้านควนหัวช้าง

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566  ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานและพนักงานจ้างเหมาโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมจิตอาสาทาสีอาคารและรั้ว ณ ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) อิสลามธัญศึกษา บ้านควนหัวช้าง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงบริเวณอาคาร ให้สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีความพร้อมและมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน
#62
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกับ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ (อสค.) และ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี ได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพน้ำขาเข้าและขาออกจากโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา รวมไปถึงตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินและนิเวศวิทยาทางน้ำในคลองนาทับ ตามที่ได้กำหนดไว้ในมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจะนะ





#63
มรภ.สงขลา เปิดลงทะเบียนบัณฑิตเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566

มรภ.สงขลา เปิดให้บัณฑิตและมหาบัณฑิตที่สภาอนุมัติจบเดือนกรกฎาคม 2563 - ธันวาคม 2565 ลงทะเบียนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ขอให้บัณฑิตและมหาบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2563-2564 ซึ่งสภาอนุมัติจบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 - ธันวาคม 2565 (และบัณฑิตที่เลื่อนรับ บัณฑิตที่รายงานผล ATK) ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://std.skru.ac.th/e-graduate

ทั้งนี้ มรภ.สงขลา จะดำเนินการฝึกซ้อมย่อยระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2566 และฝึกซ้อมใหญ่ในวันที่ 26 กันยายน 2566 ณ มรภ.สงขลา พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 วันที่ 28 กันยายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

สามารถติดตามประกาศต่าง ๆ เกี่ยวกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ทางเพจกองพัฒนานักศึกษา หรือเพจ มรภ.สงขลา
#64
"เกษตร" มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ เสริมประสบการณ์วิชาชีพ นศ. รองรับความต้องการภาคธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์-อาหาร

คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ ผลิตกำลังคน เสริมสร้างประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษา รองรับความต้องการภาคธุรกิจเกษตร ปศุสัตว์ และอาหาร พร้อมสนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรม

หลักสูตร วท.บ. สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) นำโดย ดร.มงคล เทพรัตน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงานในสถานประกอบการ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ นำโดย ร.ต.ต.อำพล แก้วมุสิก ประธานกลุ่มฯ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณบดี ชั้น 2 อาคาร 62 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา วัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ในสถานศึกษากับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการตามสาขาวิชาชีพ การจัดการเรียนการสอนด้านสหกิจศึกษา และการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE)

นอกจากนั้น ยังมีจุดมุ่งหมายในการผลิตกำลังคน พัฒนาศักยภาพทางทักษะวิชาชีพ เสริมสร้างประสบการณ์วิชาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจเกษตร ปศุสัตว์ และอาหาร รวมทั้งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัยงานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม และการบริการวิชาการแก่สังคม เป็นต้น ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

สำหรับบทบาทของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา ประกอบด้วย 1. จัดให้คณาจารย์ นักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการ เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเอง เพื่อ Reskill/Upskill/New Skill ตามแผนการดำเนินกิจกรรมที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน 2. จัดให้มีผู้ประสานงานความร่วมมือกับสถานประกอบการทำหน้าที่เป็นคณะทำงาน ภายใต้ความร่วมมือโดยร่วมกันพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม พัฒนาสื่อการเรียนการสอนหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามพันธกิจให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ 3. ร่วมเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ และจัดกิจกรรมอื่น ๆ ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนากำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ และให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงความร่วมมือ 4. ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย งานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม เป็นต้น เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. ส่งเสริมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ สถานที่ และอำนวยความสะดวกในการเข้าปฏิบัติงานของบุคลากรจากสถานประกอบการ             

ในส่วนบทบาทของสถานประกอบการ มีดังนี้ 1. ส่งเสริมสนับสนุนด้านวิชาการ โดยจัดให้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความสามารถร่วมกันพัฒนานักศึกษา พัฒนาสื่อการเรียนการสอน การฝึกอบรม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ร่วมกับมหาวิทยาลัย 2. ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ กำหนดระเบียบ ปรับปรุงหลักสูตร พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน ประเมินผล การประกันคุณภาพการศึกษาและอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนากำลังคน และเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ 3. ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย งานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม เป็นต้น เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. ส่งเสริมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ สถานที่ และอำนวยความสะดวกในการเข้าฝึกปฏิบัติงาน ฝึกอบรม และเข้าศึกษาดูงานของอาจารย์และนักศึกษา
#65
กองเชียร์ล้นเวที สรรเพชญ เบอร์ 4 ดร.เอ้-มาดามเดียร์ ของแรงเชียร์คนรุ่นใหม่พัฒนาสงขลา

สุดยิ่งใหญ่ งานปราศรัย DEM 4 YOU ประชาธิปัตย์เพื่อประชาชน พบกับผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา สรรเพชญ บุญญามณี กองหนุนแน่น DNA ประชาธิปัตย์ ยึด 3 ยุทธศาสตร์หลัก สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ
   สรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร สส. เขต 1 สงขลา เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก เน้นรุ่นใหม่ ทันสมัย ทำงานไว ทำได้จริง เริ่มเปิดเวทีเวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีผู้ร่วมปราศรัยเบอร์ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค และเมธี อรุณ ปิดท้ายเวทีอย่างคึกคักด้วยผู้สมัครตัวเต็งของสงขลาเขต 1 ขณะนี้ นายสรรเพชญ บุญญามณี DNA รุ่นใหม่ไฟแรงของพรรคประชาธิปัตย์
   "Leadership หรือภาวะผู้นำ นับเป็น Soft Skill อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญ และอยู่ในตัวของผู้นำ สำหรับผมสรรเพชญ เป็นว่าที่ผู้แทนคนหนึ่ง ที่มีทักษะในการสื่อสารดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สรรเพชญมีความสามารถในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ไม่กลับไปกลับมา จนนำไปสู่ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน" หนึ่งในสี่เหตุผลของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) แสดงถึงความเชื่อมั่นว่าวันนี้ชาวสงขลาพร้อมเลือกสรรเพชญ บุญญามณีเป็นผู้แทน
   ในขณะที่ วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) เสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า "คุณสรรเพชญ เป็น เลือดใหม่ DNA ประชาธิปัตย์ เพราะ เดียร์ เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีชีวิต ในขณะที่เลือดเก่าไหลออกก็ยังคงมีเลือดใหม่คนรุ่นใหม่ มืออาชีพอย่างคุณสรรเพชญ บุญญามณี  เข้ามาเป็นผู้สมัครที่มีความพร้อมในเรื่องความรู้ ความสามารถ มีความเหมาะสมจะมาเป็นผู้แทนที่เป็นหน้าเป็นตา สมศักดิ์ศรีชาวจังหวัดสงขลา"
   ในการปราศรัยครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าทำหน้าที่นักการเมืองเพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับและพัฒนาพรรคให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมผ่านการสร้างพื้นที่ให้ DNA รุ่นใหม่   อย่างสรรเพชญ บุญญามณี เข้าชิงตำแหน่ง สส. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมกันนั้นยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคที่ว่า ประชาธิปัตย์ = ประชาชน   
   "ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ก่อกำเนิดเกิดโดยเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะพรรคแรกที่ผู้ก่อตั้งรวบรวมพี่น้องประชาชนขึ้นเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารตั้งแต่ยุคแรก ๆ (ราวปี 2489) มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างสมดุลทางการเมืองและยังช่วยผลักดันคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปบริหารประเทศ นี่คือปณิธานของพรรคประชาธิปัตย์" เมธี อรุณ อดีตนักร้องนำวงลาบานูน ขึ้นกล่าวปราศรัยเล่าถึงอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองเลือกลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2566 นี้ด้วย
   พร้อมกันนั้น นักการเมืองรุ่นใหญ่ อย่างนิพนธ์ บุญญามณี ที่เสียงตอบรับไม่เคยตก ขวัญใจนักการเมืองของชาวสงขลา ได้งัดข้อมูลชุดสำคัญที่ทำให้พรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุราว 77 ปีอย่าง พรรคประชาธิปัตย์เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน
   "77 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ยืนหยัดเพื่อประชาชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2489 เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุ ยืนยาวที่สุดในประเทศไทย นับแต่วันก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบันมีหัวหน้าพรรคมาแล้วรวม 8 คน จุรินทร์ ลักษณวิศิฏฐ์ เป็นคนปัจจุบัน ในจำนวนนี้ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยมาแล้วกว่า 4 คน"
   "พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองของคนทุกวัย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานหลักการอุดมการณ์ทันสมัย วันนี้พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เพราะ 3 สร้างนี้จะผสานเกลียวกันนำไปสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืนของประเทศไทยได้ในอนาคต" นิพนธ์ บุญญามณีกล่าว
   ปิดท้ายการปราศรัยด้วยสรรเพชญ บุญญามณี ไฮไลท์สำคัญของการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ที่ชาวสงขลาตั้งตารอฟังวิสัยทัศน์และอุดมการณ์ของว่าที่ผู้แทนในอนาคต
   "สิ่งที่นักการเมืองต่างจากนักเลือกตั้ง เรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือการทำการบ้าน ลงพื้นที่ พบปะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  ผมเชื่อว่าหากเป็นนักการเมืองแล้วไม่เข้าใจเรื่องการทำการบ้าน ก็จะไม่สามารถทำงานตามที่ชาวบ้านต้องการได้ การทำการบ้านของผม 4 ปี 1,400 กว่าวันที่ผ่านมา ผมทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจและทำมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขอโอกาสพี่น้องในการให้ผมได้เข้าไปเป็นผู้แทน ทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ" สรรเพชญ บุญญามณี
   ความสม่ำเสมอในการช่วยเหลือประชนชนของสรรเพชญ บุญญามณี ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็น บทพิสูจน์สำคัญให้กับชาวสงขลาที่ต่างต้องพิจารณาอย่างตั้งใจ ว่าพร้อมมอบโอกาสให้ สรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา ได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ กับบทบาทผู้แทนฯ ของประชาชนหรือไม่
   14 พฤษภาคม 2566 สงขลา เขต 1 เลือกคนกาเบอร์ 4 เลือกพรรคเบอร์ 26
#66
"พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เปิดเวทีหาเสียงเขต 2 หวังดันรองรักษ์ขึ้นแท่นสส.ใหม่

(16 เม.ย.66) ที่ลานตลาดนัดยรรยยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคคภูมิใจไทย นำโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เปิดเปิดเวทปราศรัยใหญ่ขึ้นในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ในเขต ต.หาดใหญ่ และ ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ ส่งนายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือรองรักษ์ เบอร์ 9 สู้ศึกเลือกตั้งชูผลงานเด่นสานต่อการพัฒนาท่องเที่ยวเมืองหาดใหญ่ 

โดยมีผู้ร่วมปราศรัยนำทีมโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะกรรมการ และแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือ รองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 รวมทั้งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งอื่นๆของ จ.สงขลา และทีมงานพรรค เข้าร่วม และมีปะชาชนในพื้นที่เดินทางมารับฟังกันแน่นพื้นที่มากกว่า 3,500 คน สำหรับในช่วงแรกได้มีการปราศรัยจากบบรรดาผู้สมัคร สส. ในแต่ละเขตที่เดนทางมาร่วมเวทีในครั้งนี้ รวมทั้งได้กล่าวถึงความสำเร็จของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ร่วมรัฐบาล และมีผลผงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะใน 3 กระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการจัดสรรวัคซีนวิด 19 ที่ จ.สงขลา มีผู้ได้รับวัคซีนเกินกว่าร้อยละ 70 เป็นกลุ่มจังหวัดแรกๆของประเทศ รวมทั้งผลงานของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือรองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 เบอร์ 9 เผยว่า ทุกวันนี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาทำงานหนักมาก เพื่อพัฒนา อ.หาดใหญ่ รวมทั้ง จ.สงขลา ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน อีกทั้ง สส. ในพื้นที่ที่จะคอยช่วยงาน หรือรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ไม่มี ตนจึงอยากขอโอกาสพี่น้องชาวหาดใหญ่ในการเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ ซึ่งจากการเดินทางพื้นที่มาระยะหนึ่งพบว่าหลายนโยบายของพรรคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างตรงจุด และยังสามารถช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้จากนโยบายที่มีส่วนในการช่วยเหลือค่าครองชีพ และเงินทุนที่เข้าถึงได้

โดยเฉพาะนโนยาบายกองทุนประกันชีวิตสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับกรมธรรพ์คนละ 100,000 บาท เมื่อเสียชีวิตทายาทจะได้รับ อีกทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังสามารถใช้กรมธรรพ์นี้กู้เงินได้อีก 20,000 บาท เพื่อเอาไปใช้จ่ายดำรงชีพ หรือเป็นเงินฉุกเฉิน เงินหมุนเวียนได้  นอกจากนี้นโยบายเกี่ยวกับเรื่องสนับสนุนโซล่าเซลล์ในครัวเรือนก็ยังได้รับความสนใจจากประชาชนมากเช่นเดียวกัน ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ตรงความต้องในช่วงพลังงานแพงแบบนี้ ส่วนนโยบายอื่นๆที่เน้นหนักทั้งเศรษฐกิจ และการค้า การท่องเที่ยว ของเมืองหาดใหญ่ ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาเหมือนเดิม

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะกรรมการและแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในภาคใต้พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัคร สส. รวม 59 เขต ขาดเพียงเขตเดียวที่ไม่ส่งคือ เขต 6 จ.สงขลา เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติ จึงไม่ได้ส่ง
โดยกระแสพรรคใน 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดินทางลงพื้นที่หลายจุดพบว่า ได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 62 ซึ่งในครั้งในได้ สส.เขต 8 คน และปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน โดยในปีนี้ตั้งเป้าคาดว่า น่าจะสามารถเบียดแย่งเก้าอี้ สส.เขต ได้เพิ่มเป็น 20 เขต ส่วนใน จ.สงขลา ส่งผู้สมัคร สส.เขต 8 จาก 9 เขต ซึ่งมีความมั่นใจ และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน และตนก็เป็นคนสงขลาเหมือนกัน

นอกจากนั้นพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตนก็มีแนวคิดที่จะพัฒนาให้กลับมาเป็นหาดใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีต โดยมีแนวคิดที่จะทำให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในย่านตลาดกิมหยง และตลาดสันติสุข กลางเมืองหาดใหญ่ จะผลักดันให้เป็นพื้นที่ขายสินค้าปลอดภาษี ราคาถูก เหมือนแต่ก่อน และจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของการผ่อนปรน และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายกันได้อย่างถูกต้อง และสบายใจ  รวมทั้งจะมีการดึงห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใหญ่ๆ มาขายสินค้าแบรนด์แนม และสินค้าคุณภาพสูง ลักษณะคล้ายกับการซื้อของในดิวตี้ฟรีสนามบินชั้นนำ ซึ่งจะคลอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม และทำให้หาดใหญ่กลับมาเป็นศูนย์กลางการค้าขายเหมือนในอดีต ส่วนด้านการท่องเที่ยว และกิจกรรมพิเศษต่างๆ ในพื้นที่ ก็จะสานต่อ และขยายความร่วมมือไปทั้งมนและต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
#67
"ดร.เอ้-มาดามเดียร์" ลุยเมืองชาวหาดใหญ่ อ้อนชาวเขต 2 เลือกนิพัฒน์ เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

16 เมษายน 2566 ดร.เอ้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาดามเดียร์ นางสาววทันยา บุนนาค ร่วมลงพื้นที่เดินหาเสียงช่วยนายนิพัฒน์ อุดมอักษร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ โดยได้เดินพบปะแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวย่านกลางเมืองหาดใหญ่ในตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยง

สำหรับบรรยากาศการเดินหาเสียงมีประชาชนให้การต้อนรับและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก พร้อมมีการทำป้ายเชียร์ไว้รอต้อนรับกันด้วย โดยดร.เอ้ กล่าวว่าวันนี้อุ่นใจมากเพราะได้รับการตอบรับอย่างดีทำให้มั่นใจพี่น้องประชาชนชาวสงขลาจะต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจเรื่องนโยบาย มั่นใจในพรรค มั่นใจในตัวผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่มาดูแลพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นเป้าหมายทั้ง 9 เขต พร้อมที่จะยกระดับสงขลาให้เป็นจังหวัดทันสมัยต้นแบบของอาเซียน ที่ผ่านมาผู้บริหารของพรรคทุกคนลงพื้นที่สงขลามาตลอด เพราะหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่สงขลาและเชื่อว่าจะได้รับโอกาสเข้าไปทำงานเพื่อชาวหาดใหญ่แน่นอน

ด้านมาดาเดียร์ ได้กล่าวกับชาวตลาดกิมหยงว่าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมมาดูแลชาวหาดใหญ่ขอบอกกับคนหาดใหญ่คนสงขลาและภาคใต้คือลมหายใจของพรรคประชาธิปัตย์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเขตนี้เราไม่มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคไม่เคยทิ้งชาวหาดใหญ่ ไม่ทิ้งชาวกิมหยง พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาทวงคืนศักดิ์ศรีขอให้เลือกผู้สมัครส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอรื 26 เพื่อให้ตนเอง ดร.เอ้ รวมทั้งนายชวน หัวหน้าจุรินทร์ ได้เข้าไปทำงานผลักดันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นจริง

ส่วนของผู้สมัครส.ส.เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้พี่น้องชาวเขต 2 สงขลา ชาวหาดใหญ่ คลองอู๋ตะเภา เลือกนายนิพัฒน์ เบอร์ 4 เพราะตนเกิดและเติบโตที่หาดใหญ่ผ่านการทำงานทั้งด้านสังคม ด้านการเมือง มีความรู้ ประสบการณ์ และมีความตั้งใจสูงสุดที่จะเข้าไปเพื่อพัฒนา เพื่อฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ของเราให้มีความคึกคัก มีการเติบโต อย่างมีทิศทางและยั่งยืน และช่วยกันเลือกเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 เพื่อจะได้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาช่วยพัฒนาเมืองหาดใหญ่ ทั้งดร.เอ้ มาดามเดียร์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาและช่วยผลักดันการพัฒนาหาดใหญ่ไปกับผมอย่างแน่นอน

#68
ดร.ไพร พัฒโน พร้อมเป็นผู้แทนคนเขต 3 ชูจุดเด่นคนพื้นที่ มีประสบการณ์ ทำงานเป็น

การเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 สงขลา ประกอบด้วย 3 อำเภอ 12 ตำบล หาดใหญ่ (เฉพาะต.ทุ่งใหญ่ ท่าข้าม น้ำน้อย คอหงส์ บ้านพรุ พะตง) นาหม่อมทั้งอำเภอ และจะนะ (เฉพาะต.จะโหนง คลองเปียะ) ถือว่าเป็นเขตที่มีพื้นที่กว้างและเพิ่งแบ่งประกาศเขตอย่างเป็นทางการก่อนเลือกตั้งเพียง 2 เดือนเท่านั้น ทำให้ผู้สมัครเขตนี้ต้องเดินพื้นที่อย่างหนัก สำหรับผู้สมัครที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ของเขตนี้คือเบอร์ 1 ดร.ไพร พัฒโน พรรคภูมิใจไทย
ไพร พัฒโน อดีตส.ส.2 สมัย นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ 3 สมัย ประสบการณ์ทางการเมืองนั้นหายห่วง การหวนหลับมาลงสนามการเมืองใหญ่ในสี่เสื้อพรรคภูมิใจไทย ที่กระแสดีในภาคใต้บวกผู้สมัครมีญาติพี่น้อง เป็นที่รู้จักของชาวบ้านอย่างกว้างขวางในพื้นที่นี่จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน แต่ดร.ไพร พัฒโน ไม่ประมาททำงานเชิงรุกอย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวกับพรรคมามีการลงพื้นที่แทบทุกวันไม่มีวันหยุด

ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นตั้งแต่รุ่นพ่อไสว พัฒโน อดีตส.ส.และรมต.ที่ผู้ใหญ่ในพื้นที่รู้จักและจดจำผลได้ ความเป็นลูกหลานเขต 3 พ่อเกิดคอหงส์ แม่เกิดบ้านพรุ ในพื้นที่นี้สามารถบอกเป็นภาษาบ้านเราได้ว่า "สืบโยดสาวย่านกันถึงหมด" การเดินพื้นที่จึงทำได้ง่ายกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เที่ยวนี้ลงกันถึง 12 คน และมีคู่แข่งที่คาดว่าจะมีคะแนนสูสีในกลุ่มเต็งนำอยู่ 2-3 คน นอกจากการไปร่วมงานต่างๆ การเดินตลาด จัดเวทีปราศรัยย่อยแล้ว ดร.ไพร พัฒโน ยังใช้การเดินเท้าถือโทรโข่งเข้าหาชาวบ้านแทบทุกตรอกซอกซอยกันเลย เรียกว่าใช้เวลาในแต่ละวันให้คุ้มค่ามากที่สุด

ดร.ไพร กล่าวว่าบทบาทที่แท้จริงของส.ส.ไม่เกี่ยวของกับการพัฒนาพื้นที่โดยตรง ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณได้ แต่สามารถนำความเดือดร้อนของชาวบ้านไปอภิปรายในสภาได้ ตนเองมีประสบการณ์เป็นอย่างดี เชื่อว่าหากได้รับโอกาสจะสามารถทำได้ดี ทำได้ทันทีเหมือนสโลแกนพรรคภูมิใจไทยที่ว่า "พูดแล้วทำ" วันนี้กระแสพรรคในพื้นที่ก็ดี ตัวผู้สมัครก็มีคุณสมบัติพร้อมที่สุด เชื่อว่าจะสามารถเป็นผู้แทนที่ชาวเขต 3 ไว้วางใจได้แน่นอน 14 พฤษภาคม 2566 อำนาจทางการเมืองกลับมาเป็นของประชาชนอีกครั้ง พี่น้องชาวเขต 3 สงขลา โปรดเลือก "ไพร พัฒโน" เบอร์ 1 เลือกพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7  ขอบคุณครับ
#69
มรภ.สงขลา สุดปลื้ม  "ผศ.ดร.ภัทรพร ภักดีฉนวน" อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร เข้ารับเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2565 เจ้าตัวเผยความภูมิใจตลอดการทำงาน 25 ปี ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดครั้งหนึ่งของชีวิต พร้อมมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์องค์กรและประเทศชาติ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ผศ.ดร.ภัทรพร ภักดีฉนวน อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เข้ารับเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2565 จาก ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ณ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน (วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี)
ผศ.ดร.ภัทรพร กล่าวถึงความรู้สึกต่อรางวัลที่ได้รับว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดครั้งหนึ่งของชีวิต ซึ่งเกียรติยศของการเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นศักดิ์ศรีต่อตนเองและวงศ์ตระกูล และพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตนต่อไปเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีด้วยจิตใจที่มั่นคงในความสุจริต และมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบให้บรรลุผลสำเร็จเพื่อประโยชน์ขององค์กรและประเทศชาติ
ตลอด 25 ปีของชีวิตราชการตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุ่มเท เสียสละ อดทน และพยายามพัฒนาตนเองโดยเพิ่มเติมความรู้และทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดหรือบทบาทหน้าที่ใด เพื่อให้งานในความรับผิดชอบประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ด้วยการเป็นครูอาจารย์มีหน้าที่หลักในการเป็นที่พึ่งของนักศึกษา จึงรับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะ ส่งเสริมสนับสนุนคุณธรรมจริยธรรม สร้างสิ่งที่ดีและถูกต้องเหมาะสม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่นักศึกษา 
นอกจากนั้น ด้วยภารกิจของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จึงได้บูรณาการการเรียนการสอน งานวิจัย ร่วมกับบริการวิชาการสู่ชุมชนภาคการเกษตร ด้วยบทบาทนี้ซึ่งต้องเป็นที่พึ่งของเกษตรกร จึงปฏิบัติงานด้วยสติปัญญา ใช้ทักษะและประสบการณ์อย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อมีปัญหาอุปสรรค ต้องพยายามหาทางแก้ไขอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ทั้งนี้ ความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานบริการวิชาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามี 3 ประการสำคัญ ดังนี้ 1. ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษามีจิตสาธารณะ ประยุกต์ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ และที่สำคัญเห็นคุณค่าของชีวิตที่เสียสละต่อส่วนรวม 2. ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีเพื่อการพึ่งพาตนเองของเกษตรกร และ 3. ได้เก็บรวบรวมพันธุ์ข้าวพื้นเมืองภาคใต้ที่ปลูกในแปลงเกษตรกรในอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสงขลา จำนวน 30 สายพันธุ์ ส่งมอบให้ธนาคารพันธุกรรมพืชขององค์กรภาครัฐเพื่ออนุรักษ์พันธุกรรมข้าวพื้นเมืองแบบระยะยาว นับเป็นการดำรงไว้ซึ่งทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย
#70
คณะครุศาสตร์ มรภ.สงขลา เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับ ป.โท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้-20 เมษายน 66
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) รับสมัครนักศึกษาใหม่เข้าเรียนในปีการศึกษา 2566 ระดับปริญญาโท สำหรับผู้มีใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ - 20 เมษายน 2566 ในสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาคปกติแบบ By research (ทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว) และภาคพิเศษ ศึกษารายวิชาและทำวิทยานิพนธ์ เข้าเรียนในวิชาเอก
1. การประถมศึกษา
2. การสอนภาษาอังกฤษ
3. การสอนภาษาไทย
ในส่วนของรอบที่ 2 จะเปิดรับสมัครในเดือนพฤษภาคม 2566 สำหรับผู้ที่ประสงค์จะรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในวิชาเอกต่างๆ ดังนี้
1. หลักสูตร การสอน และการเรียนรู้
2. การประถมศึกษา
3. การสอนภาษาอังกฤษ
4. การสอนภาษาไทย
โดยรับภาคปกติ จำนวน 15 คน และภาคพิเศษ จำนวน 20 คน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-8981650
#71
70 พรรคส่งว่าที่ส.ส.รวม 6,679 ราย เสนอชื่อนายกฯ 63 คน
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยแพร่ข่าวเลขที่ 106/2566 วันที่ 8 เมษายน 2566  สรุปผลการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ โดยมีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต 70 พรรค 4,781 คน ส่งแบบบัญชีรายชื่อ 63 พรรค 1,898 คน และมี 43 พรรคเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี 63 รายชื่อ ใครจะได้เป็น 500 ส.ส. 14 พฤษภาคม 2566 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ คือผู้ให้คำตอบ และนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียวสภาจะให้คำตอบกันต่อไป 
#72
มรภ.สงขลา จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัย ร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (วันที่ 2 เมษายน) จัดโดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.สงขลา
#73
"ม. Malaysia Kelantan" เยือน มรภ.สงขลา หารือแนวทางความร่วมมือทางวิชาการ
มรภ.สงขลา เปิดบ้านต้อนรับมหาวิทยาลัย Malaysia Kelantan ประเทศมาเลเซีย หารือทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านแลกเปลี่ยนนักศึกษาและคณาจารย์ ด้านการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตรร่วมกันและการวิจัย คาดลงนาม MOU ภายในปี 2566 นี้
วันที่ 27 มีนาคม 2566 รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัย Malaysia Kelantan (Universiti Malaysia Kelantan : UMK) ประเทศมาเลเซีย ณ ห้องประชุมอรัญ ธรรมโน ชั้น 8 อาคารสำนักงานอธิการบดี มรภ.สงขลา ในโอกาสเดินทางมาร่วมหารือแนวทางการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง มรภ.สงขลา กับ มหาวิทยาลัย Malaysia Kelantan ในด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและคณาจารย์ด้านการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตรร่วมกันและการวิจัย ซึ่งคาดการณ์ว่าทั้งสองฝ่ายจะลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันภายในปี พ.ศ.2566 นี้

#74
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เสวนาในกิจกรรม Facts Story Festival@Songkhla ร่วมปลุกสังคม รู้เท่าทันข้อมูลลวง และสร้างพลังของข้อมูลที่เป็นจริง

(28 มี.ค.66) ที่โรงแรมคริสตัล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ จัดโครงการ Facts Story Festival@Songkhla "ร่วมปลุกสังคม รู้เท่าทันข้อมูลลวง" โดยมีนายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการเปิดงาน ดร.ศรัญญ์ทิตา ชนะชัยภูวพัฒน์ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวรายงาน ซึ่งงานในครั้งนี้ ได้เชิญผู้แทนองค์กรวิชาชีพสื่ออาวุโส สื่อมวลชนในภูมิภาค ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมกิจเสวนา Facts Story Festival@Songkhla "ร่วมปลุกสังคม รู้เท่าทันข้อมูลลวง"

ดร.ศรัญญ์ทิตา ชนะชัยภูวพัฒน์ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่าโครงกานี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม  เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีวิจารณญาณ รู้เท่าทันข่าวสาร ข้อมูลสารสนเทศจากสื่อต่างๆ ให้สื่อมวลชนทุกแขนงประกอบวิชาชีพอย่างมีจรรยาบรรณ สื่อสารข้อมูลข่าวสารใดๆ ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และร่วมรณรงค์กำกับดูแลแก้ไขปัญหาข้อมูลลวง โดยโครงการมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย
1.ทำโครงการวิจัย รวม 4 โครงการที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งสื่อมวลชนและประชาชนผูรับสารทั่วประเทศ
2.จัดระดมความคิดเห็นจากตัวแทนบุคลากรในสายงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ นักกฎหมาย นักวิชาการ และประชาชน ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 10 จังหวัด
3.จัดทำคู่มือ "รู้เท่าทันข่าวลวง" สำหรับภาคสื่อมวลชนและภาคประชาชน 
4. ผลิตภาพยนตร์โฆษณารณรงค์รู้เท่าทันข้อมูลลวง เผยแพร่ผ่านโทรทัศน์ และ สื่อออนไลน์
5. จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจด้านการรู้เท่าทันข้อมูลลวง สำหรับสื่อมวลชนและประชาชน 10 จังหวัดทั่วประเทศไทย

สำหรับโครงการรณรงค์สร้างความรู้เพื่อยับยั้งและรู้เท่าทันข่าวปลอม (Stop Fake, Spread Facts) โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนมีวิจารณญาณ รู้เท่าทันข่าวสาร ข้อมูลสารสนเทศจากสื่อต่างๆ และมีภูมิคุ้มกันไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้สื่อมวลชนทุกแขนง สื่อสาร ข้อมูลข่าวสารด้วยความปลอดภัยและสร้างสรรค์ รับผิดชอบต่อสังคม ร่วมหาแนวทางกํากับดูแลปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และมีภูมิคุ้มกันไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โดยโครงการดังกล่าวเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีในประเด็นด้านการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันทางสังคม และส่งเสริมสถาบันสื่อสารมวลชนให้เป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการใช้คำว่า "ข้อมูลลวง" แทน คำว่า "ข่าวปลอม" เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของประเภทสื่อและสารสนเทศที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนของคำว่า "ข่าว" ที่ต้องยึดโยงกับความถูกต้องและจริยธรรมเป็นหลักสำคัญด้วย
#75
วันที่ 9 มีนาคม 2566 โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้การต้อนรับคณาจารย์ และนักศึกษาจากคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โดยมีนายชานนท์  นัครัตน์ หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาไฟฟ้า เป็นวิทยากรในการบรรยาย หลังจากนั้นทางคณะได้เข้าเยี่ยมชมภายในตัวโรงไฟฟ้าจะนะเป็นลำดับต่อไป