Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สงขลามีเดีย

#61
มรภ.สงขลา เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทาน รางวัลที่ 2 รางวัลความถูกต้องเรียบร้อย/การอ่านจังหวะสม่ำเสมอ ในการแข่งขันเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้

มรภ.สงขลา เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทาน รางวัลที่ 2 รางวัลความถูกต้องเรียบร้อย/การอ่านจังหวะสม่ำเสมอ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ในการแข่งขันการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถ้วยรางวัลพระราชทานในการแข่งขันการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ในการนี้ รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) พร้อมด้วย อาจารย์จิรภา คงเขียว รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ผู้ติดตาม เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทาน รางวัลที่ 2 รางวัลความถูกต้องเรียบร้อย / การอ่านจังหวะสม่ำเสมอ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ซึ่งได้จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2565 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
#62
มรภ.สงขลา ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร มรภ.สงขลา ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
#63
"เกษตร" มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือ "บ.กฤษฎิ์สมัย-นิรวาณ คาเฟ่" จัดการศึกษาเชิงบูรณาการ ฝึกปฏิบัติงานจริงตามวิชาชีพ

คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา เดินหน้าลงนามความร่วมมือสถานประกอบการ ผนึกกำลังบริษัท กฤษฎิ์สมัยฯ และ ร้านนิรวาณ คาเฟ่ จัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการตามสาขาวิชาชีพ ควบคู่จัดการเรียนการสอนด้านสหกิจศึกษา ปูทางสู่การผลิตกำลังคนสอดคล้องความต้องการภาคธุรกิจเกษตร

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) นำโดย อาจารย์ ดร.มงคล เทพรัตน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร และ ผศ.ดร.ศุภัครชา อภิรติกร ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงานในสถานประกอบการ (Memorandum of Understanding : MOU) ร่วมกับ บริษัท กฤษฎิ์สมัย จำกัด นำโดย นายดิเรกฤทธิ์ พลายด้วง ผู้จัดการบริษัทฯ นายพิศิษฐ์ ประจักษ์บุญเจษฎา ผู้ช่วยผู้จัดการ และ ร้านนิรวาณ คาเฟ่ นำโดย นายศุภชัย รักขา เจ้าของกิจการ ณ ห้องประชุมสำนักงานคณบดี ชั้น 2 อาคารคณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา ซึ่งทางคณะฯ และสถานประกอบการมีเจตจำนงร่วมกันในการพัฒนาการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงานในสถานประกอบการ และความร่วมมือทางวิชาการ งานวิจัย ตลอดจนงานบริการวิชาการ

การลงนามความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้ มีสาระสำคัญและขอบข่ายการปฏิบัติที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน ดังนี้ 1. เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ในสถานศึกษากับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการตามสาขาวิชาชีพ การจัดการเรียนการสอนด้านสหกิจศึกษา และการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE) 2. เพื่อผลิตกำลังคน พัฒนาศักยภาพทางทักษะวิชาชีพ และเสริมสร้างประสบการณ์วิชาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจเกษตร 3. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัยงานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมและการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม และการบริการวิชาการแก่สังคม เป็นต้น ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร
#64
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา ลงพื้นที่ชุมชนบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว หนุนทำประมงเชิงอนุรักษ์ พัฒนาต้นแบบธนาคารปูม้าในรูปแบบคอนโดปู เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจฐานราก เสริมความมั่นคงทางทรัพยากร

วันที่ 17-18 พฤษภาคม 2566 ดร.กันตภณ มะหาหมัด คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา นำคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา จัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ให้กับชุมชนฐานราก ให้แก่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ชุมชนบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ในกิจกรรม "ชุมชนต้นแบบการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ชุมชนเกาะแต้ว ปีที่ 4" และกิจกรรม "การอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาธนาคารปูม้าโดยการมีส่วนร่วมของชาวประมงพื้นบ้าน" เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการสร้างธนาคารปูสู่การอนุรักษ์พันธ์ปูม้า ในการคัดเลือกแม่พันธุ์ การรวบรวมไข่ และการอนุบาลลูกปู วิทยากรโดย นายชำนาญ มานิล ผู้จัดการศูนย์เรียนรู้เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขา การฝึกปฏิบัติการการจัดการคุณภาพแหล่งน้ำเพื่อการเจริญของปู โดย ผศ.คุลยา ศรีโยม รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์ต้นทุน การจัดเก็บข้อมูลรายได้ เสริมสมรรถนะนวัตกรชุมชน โดย ดร.ผจงจิต พิจิตบรรจง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และ ผศ.ดร.วนิดา เพ็ชร์ลมุล อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ โดยมีผู้นำชุมชน รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว ชาวประมงในพื้นที่ และนักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรม

ดร.กันตภณ มะหาหมัด คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จึงน้อมนำหลักการทรงงานของพระองค์ท่านมาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับรายได้ของประชาชน แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่กำหนดเป้าหมายการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย และยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ 20 ปี (2560-2579) ที่มุ่งเน้นให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประชาชน

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา มีเป้าหมายเพื่อให้คนในชุมชนสามารถดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกับการส่งเสริมการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจฐานรากบนฐานทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างรายได้ นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน ทั้งนี้ ทางคณะฯ ได้จัดทำโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้บุคลากร นักวิชาการที่มีศักยภาพในแต่ละศาสตร์สาขาไปร่วมให้บริการวิชาการแก่ชุมชน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก และหน่วยงานในพื้นที่ชุมชนสู่การเป็นชุมชนต้นแบบ ซึ่งชุมชนต้นแบบที่ทางคณะฯ ได้ให้บริการวิชาการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 คือ ชุมชนเกาะแต้ว โดยในปี พ.ศ.2566 ได้ขยายพื้นที่บริการวิชาการยกระดับคุณภาพชีวิตสู่การเป็นชุมชนต้นแบบไปยังบ้านบ่ออิฐ หมู่ 8 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา

ด้าน ผศ.คุลยา ศรีโยม รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการทำประมงเชิงอนุรักษ์โดยการสร้างต้นแบบธนาคารปูม้าในรูปแบบคอนโด รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการทำประมงเชิงอนุรักษ์ ซึ่งบ้านบ่ออิฐเป็นชุมชนที่ทำประมงพื้นบ้าน คนในชุมชนบริโภคอาหารที่ได้จากการประมง และถนอมอาหารไว้รับประทานหรือเพื่อขาย เช่น ทำปลาเค็ม ปลาตากแห้ง มีวิถีชีวิตที่เน้นการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสร้างห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วม จากการให้ข้อมูลของกลุ่มชาวประมงในพื้นที่พบว่า กลุ่มประมงบ้านบ่ออิฐจำนวนไม่น้อยกว่า 15 ครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยจากการจำหน่ายปูม้าลดลงจาก 500 บาทเหลือเพียง 300 บาทต่อวัน อันเนื่องมาจากปริมาณปูในพื้นที่ลดลงเป็นอย่างมาก

ดังนั้น นอกจากการรณรงค์ให้หลีกเลี่ยงวิธีการจับสัตว์น้ำแบบผิดวิธี ไม่จับในช่วงวางไข่ หรือไม่ใช้เครื่องมือต้องห้ามแล้ว ควรสร้างจิตสำนึกในการทำประมงเชิงอนุรักษ์ จัดสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน และการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในพื้นที่เขตอนุรักษ์ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำตามแนวชายฝั่งทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นายยุดี หมัดเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 มุ่งหวังให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ชาวประมงพื้นบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดความมั่นคงทางอาหารให้แก่ชุมชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงด้วย จากข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นจุดกำเนิดให้คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการจัดโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมที่ยังคงคำนึงถึงผลลัพธ์ด้านความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น โดยสนับสนุนด้านวิชาการและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและองค์กรท้องถิ่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสู่การเป็นชุมชนต้นแบบที่มีความอย่างยั่งยืนบนฐานทรัพยากรที่มี  จึงนำมาสู่การจัดกิจกรรมในครั้งนี้
#65
มรภ.สงขลา สัมมนาจัดทำหลักสูตรและชุดวิชาการจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม เดินหน้าศูนย์อัจฉริยะเพื่อพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ปั้น นศ. สู่ผู้ประกอบการ

มรภ.สงขลา  นำอาจารย์-เจ้าหน้าที่สัมมนาจัดทำหลักสูตรและชุดวิชาการจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม พร้อมศึกษาดูงานเกาะสมุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิคบริหารจัดการธุรกิจ ภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ขับเคลื่อนนโยบายปั้นนักศึกษามีศักยภาพสู่ผู้ประกอบการท้องถิ่น

                สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) จัดโครงการสัมมนาจัดทำหลักสูตรและชุดวิชาการจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม ภายใต้หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต และศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประกอบการและบริหารจัดการธุรกิจสุขภาพ สปาและความงาม (กิจกรรมที่ 1) ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.นาถนเรศ อาคาสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพการศึกษา มรภ.สงขลา กล่าวเปิดโครงการ และ อาจารย์วันฉัตร จารุวรรณโน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน กล่าวรายงานโครงการ โดยมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการสัมมนารวม 34 คน

                ผศ.นาถนเรศ กล่าวว่า การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) เป็นโครงการที่เริ่มต้นการปฏิรูประบบการศึกษา โดยการกําหนดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ เป็นการกําหนดเป้าหมาย และผลลัพธ์การดําเนินงานตามจุดเน้นเชิงยุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีขึ้นไป เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ยกระดับสถาบันอุดมศึกษาให้มีศักยภาพในการตอบโจทย์และขับเคลื่อนทุกภาคส่วนจนถึงการพลิกโฉมประเทศ โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

                ทั้งนี้ มรภ.สงขลา มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จัดอยู่ในกลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น ร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นจำนวน 41 แห่ง โดย มรภ.สงขลา เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ 5 แห่ง ที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการจัดสรรเงินอุดหนุนและการส่งมอบผลการดำเนินงาน ภายใต้โปรแกรม 16 โครงการปฏิรูประบบ อววน. แผนงานย่อย "การพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาและการผลิตกำลังคนขั้นสูง" โครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช กับ มรภ.สงขลา เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนานักศึกษาของมหาวิทยาลัยให้มีศักยภาพเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

                มหาวิทยาลัยจึงได้จัดตั้งศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ด้านพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อการผลิตบัณฑิตเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ตลอดจนการจัดทำชุดวิชาสาขาการจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม ภายใต้หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต พร้อมยกร่างระเบียบข้อบังคับว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานระบบธนาคารหน่วยกิตในการผลิตหลักสูตรร่วมของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ในส่วนของ มรภ.สงขลา

                ด้าน อาจารย์วันฉัตร กล่าวว่า การพัฒนาประเทศตามเป้าหมายวิสัยทัศน์เชิงนโยบายของประเทศที่มุ่งเน้นเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมให้เป็นแบบใหม่ เพื่อให้ประเทศได้มีโอกาสพัฒนาเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งโมเดลนี้จะสำเร็จได้ต้องใช้แนวทางสานพลัง โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชนประชาชน สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน สถาบันอุดมศึกษาจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากำลังคนที่มีศักยภาพ และความสามารถระดับสูงในสายวิชาการระดับมันสมองและวิชาชีพด้านต่าง ๆ

จากความสำคัญดังกล่าวสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนจึงได้จัดโครงการในครั้งนี้ขึ้น โดยมีการสัมมนาในหัวข้อ "การจัดทำหลักสูตรแบบ SANDBOX การจัดการศึกษาที่แตกต่างไปจากเกณฑ์มาตรฐานการอุดมศึกษา" โดยวิทยากร ดร.พรเพ็ญ แซ่อึ้ง ผู้เชี่ยวชาญนโยบาย และ นางสาวณัฐฐินันท์ ละลอกแก้ว นักพัฒนานโยบาย จากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กิจกรรมวิพากษ์ร่างชุดวิชาการจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม โดยวิทยากร ดร.นิศารัตน์ ไทยทอง อาจารย์ศันสนีย์ วงศ์สวัสดิ์ และ อาจารย์ศักดิ์อรุณ แก้วเถื่อน อาจารย์สาขาวิชาการจัดการโรงแรม โครงการจัดตั้งสถาบันพัฒนาการท่องเที่ยวและสหวิทยาการสมุย วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ร่วมวิพากษ์และให้ข้อมูลการพัฒนาแปรับปรุงชุดวิชาเพื่อสอดคล้องและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน สถานประกอบการ และชุมชนพื้นที่

              นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับสถานประกอบการและสถาบันการศึกษาในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้เข้าศึกษาดูงานด้านการบริการสุขภาพ Wellness สปาและความงาม ณ โรงแรม Absolute Sanctuary และศึกษาดูงานโครงการจัดตั้งสถาบันพัฒนาการท่องเที่ยวและสหวิทยาการสมุย ศูนย์การเรียนรู้การบริหารโรงแรมและท่องเที่ยวมุกสมุย วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นทางวิชาการด้านการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา และการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ CWIE ด้านบริหารธุรกิจ การจัดการ และการท่องเที่ยว 
#66
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าจัดกิจกรรมจิตอาสาทาสีอาคารและรั้ว ณ ตาดีกา บ้านควนหัวช้าง

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566  ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานและพนักงานจ้างเหมาโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมจิตอาสาทาสีอาคารและรั้ว ณ ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) อิสลามธัญศึกษา บ้านควนหัวช้าง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงบริเวณอาคาร ให้สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีความพร้อมและมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน
#67
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกับ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ (อสค.) และ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี ได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพน้ำขาเข้าและขาออกจากโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา รวมไปถึงตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินและนิเวศวิทยาทางน้ำในคลองนาทับ ตามที่ได้กำหนดไว้ในมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจะนะ





#68
มรภ.สงขลา เปิดลงทะเบียนบัณฑิตเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566

มรภ.สงขลา เปิดให้บัณฑิตและมหาบัณฑิตที่สภาอนุมัติจบเดือนกรกฎาคม 2563 - ธันวาคม 2565 ลงทะเบียนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ขอให้บัณฑิตและมหาบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2563-2564 ซึ่งสภาอนุมัติจบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 - ธันวาคม 2565 (และบัณฑิตที่เลื่อนรับ บัณฑิตที่รายงานผล ATK) ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ตั้งแต่บัดนี้-31 พฤษภาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://std.skru.ac.th/e-graduate

ทั้งนี้ มรภ.สงขลา จะดำเนินการฝึกซ้อมย่อยระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2566 และฝึกซ้อมใหญ่ในวันที่ 26 กันยายน 2566 ณ มรภ.สงขลา พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 วันที่ 28 กันยายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

สามารถติดตามประกาศต่าง ๆ เกี่ยวกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ทางเพจกองพัฒนานักศึกษา หรือเพจ มรภ.สงขลา
#69
"เกษตร" มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ เสริมประสบการณ์วิชาชีพ นศ. รองรับความต้องการภาคธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์-อาหาร

คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ ผลิตกำลังคน เสริมสร้างประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษา รองรับความต้องการภาคธุรกิจเกษตร ปศุสัตว์ และอาหาร พร้อมสนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรม

หลักสูตร วท.บ. สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) นำโดย ดร.มงคล เทพรัตน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงานในสถานประกอบการ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร ๙ เดินตามพ่อ นำโดย ร.ต.ต.อำพล แก้วมุสิก ประธานกลุ่มฯ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณบดี ชั้น 2 อาคาร 62 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา วัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ในสถานศึกษากับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการตามสาขาวิชาชีพ การจัดการเรียนการสอนด้านสหกิจศึกษา และการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE)

นอกจากนั้น ยังมีจุดมุ่งหมายในการผลิตกำลังคน พัฒนาศักยภาพทางทักษะวิชาชีพ เสริมสร้างประสบการณ์วิชาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจเกษตร ปศุสัตว์ และอาหาร รวมทั้งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัยงานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม และการบริการวิชาการแก่สังคม เป็นต้น ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

สำหรับบทบาทของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา ประกอบด้วย 1. จัดให้คณาจารย์ นักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการ เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเอง เพื่อ Reskill/Upskill/New Skill ตามแผนการดำเนินกิจกรรมที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน 2. จัดให้มีผู้ประสานงานความร่วมมือกับสถานประกอบการทำหน้าที่เป็นคณะทำงาน ภายใต้ความร่วมมือโดยร่วมกันพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม พัฒนาสื่อการเรียนการสอนหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามพันธกิจให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ 3. ร่วมเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ และจัดกิจกรรมอื่น ๆ ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนากำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ และให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงความร่วมมือ 4. ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย งานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม เป็นต้น เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. ส่งเสริมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ สถานที่ และอำนวยความสะดวกในการเข้าปฏิบัติงานของบุคลากรจากสถานประกอบการ             

ในส่วนบทบาทของสถานประกอบการ มีดังนี้ 1. ส่งเสริมสนับสนุนด้านวิชาการ โดยจัดให้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความสามารถร่วมกันพัฒนานักศึกษา พัฒนาสื่อการเรียนการสอน การฝึกอบรม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ร่วมกับมหาวิทยาลัย 2. ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ กำหนดระเบียบ ปรับปรุงหลักสูตร พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน ประเมินผล การประกันคุณภาพการศึกษาและอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนากำลังคน และเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ 3. ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย งานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ เช่น การฝึกอบรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม เป็นต้น เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. ส่งเสริมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ สถานที่ และอำนวยความสะดวกในการเข้าฝึกปฏิบัติงาน ฝึกอบรม และเข้าศึกษาดูงานของอาจารย์และนักศึกษา
#70
กองเชียร์ล้นเวที สรรเพชญ เบอร์ 4 ดร.เอ้-มาดามเดียร์ ของแรงเชียร์คนรุ่นใหม่พัฒนาสงขลา

สุดยิ่งใหญ่ งานปราศรัย DEM 4 YOU ประชาธิปัตย์เพื่อประชาชน พบกับผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา สรรเพชญ บุญญามณี กองหนุนแน่น DNA ประชาธิปัตย์ ยึด 3 ยุทธศาสตร์หลัก สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ
   สรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร สส. เขต 1 สงขลา เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก เน้นรุ่นใหม่ ทันสมัย ทำงานไว ทำได้จริง เริ่มเปิดเวทีเวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีผู้ร่วมปราศรัยเบอร์ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค และเมธี อรุณ ปิดท้ายเวทีอย่างคึกคักด้วยผู้สมัครตัวเต็งของสงขลาเขต 1 ขณะนี้ นายสรรเพชญ บุญญามณี DNA รุ่นใหม่ไฟแรงของพรรคประชาธิปัตย์
   "Leadership หรือภาวะผู้นำ นับเป็น Soft Skill อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญ และอยู่ในตัวของผู้นำ สำหรับผมสรรเพชญ เป็นว่าที่ผู้แทนคนหนึ่ง ที่มีทักษะในการสื่อสารดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สรรเพชญมีความสามารถในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ไม่กลับไปกลับมา จนนำไปสู่ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน" หนึ่งในสี่เหตุผลของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) แสดงถึงความเชื่อมั่นว่าวันนี้ชาวสงขลาพร้อมเลือกสรรเพชญ บุญญามณีเป็นผู้แทน
   ในขณะที่ วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) เสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า "คุณสรรเพชญ เป็น เลือดใหม่ DNA ประชาธิปัตย์ เพราะ เดียร์ เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีชีวิต ในขณะที่เลือดเก่าไหลออกก็ยังคงมีเลือดใหม่คนรุ่นใหม่ มืออาชีพอย่างคุณสรรเพชญ บุญญามณี  เข้ามาเป็นผู้สมัครที่มีความพร้อมในเรื่องความรู้ ความสามารถ มีความเหมาะสมจะมาเป็นผู้แทนที่เป็นหน้าเป็นตา สมศักดิ์ศรีชาวจังหวัดสงขลา"
   ในการปราศรัยครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าทำหน้าที่นักการเมืองเพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับและพัฒนาพรรคให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมผ่านการสร้างพื้นที่ให้ DNA รุ่นใหม่   อย่างสรรเพชญ บุญญามณี เข้าชิงตำแหน่ง สส. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมกันนั้นยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคที่ว่า ประชาธิปัตย์ = ประชาชน   
   "ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ก่อกำเนิดเกิดโดยเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะพรรคแรกที่ผู้ก่อตั้งรวบรวมพี่น้องประชาชนขึ้นเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารตั้งแต่ยุคแรก ๆ (ราวปี 2489) มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างสมดุลทางการเมืองและยังช่วยผลักดันคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปบริหารประเทศ นี่คือปณิธานของพรรคประชาธิปัตย์" เมธี อรุณ อดีตนักร้องนำวงลาบานูน ขึ้นกล่าวปราศรัยเล่าถึงอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองเลือกลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2566 นี้ด้วย
   พร้อมกันนั้น นักการเมืองรุ่นใหญ่ อย่างนิพนธ์ บุญญามณี ที่เสียงตอบรับไม่เคยตก ขวัญใจนักการเมืองของชาวสงขลา ได้งัดข้อมูลชุดสำคัญที่ทำให้พรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุราว 77 ปีอย่าง พรรคประชาธิปัตย์เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน
   "77 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ยืนหยัดเพื่อประชาชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2489 เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุ ยืนยาวที่สุดในประเทศไทย นับแต่วันก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบันมีหัวหน้าพรรคมาแล้วรวม 8 คน จุรินทร์ ลักษณวิศิฏฐ์ เป็นคนปัจจุบัน ในจำนวนนี้ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยมาแล้วกว่า 4 คน"
   "พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองของคนทุกวัย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานหลักการอุดมการณ์ทันสมัย วันนี้พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เพราะ 3 สร้างนี้จะผสานเกลียวกันนำไปสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืนของประเทศไทยได้ในอนาคต" นิพนธ์ บุญญามณีกล่าว
   ปิดท้ายการปราศรัยด้วยสรรเพชญ บุญญามณี ไฮไลท์สำคัญของการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ที่ชาวสงขลาตั้งตารอฟังวิสัยทัศน์และอุดมการณ์ของว่าที่ผู้แทนในอนาคต
   "สิ่งที่นักการเมืองต่างจากนักเลือกตั้ง เรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือการทำการบ้าน ลงพื้นที่ พบปะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  ผมเชื่อว่าหากเป็นนักการเมืองแล้วไม่เข้าใจเรื่องการทำการบ้าน ก็จะไม่สามารถทำงานตามที่ชาวบ้านต้องการได้ การทำการบ้านของผม 4 ปี 1,400 กว่าวันที่ผ่านมา ผมทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจและทำมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขอโอกาสพี่น้องในการให้ผมได้เข้าไปเป็นผู้แทน ทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ" สรรเพชญ บุญญามณี
   ความสม่ำเสมอในการช่วยเหลือประชนชนของสรรเพชญ บุญญามณี ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็น บทพิสูจน์สำคัญให้กับชาวสงขลาที่ต่างต้องพิจารณาอย่างตั้งใจ ว่าพร้อมมอบโอกาสให้ สรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา ได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ กับบทบาทผู้แทนฯ ของประชาชนหรือไม่
   14 พฤษภาคม 2566 สงขลา เขต 1 เลือกคนกาเบอร์ 4 เลือกพรรคเบอร์ 26
#71
"พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เปิดเวทีหาเสียงเขต 2 หวังดันรองรักษ์ขึ้นแท่นสส.ใหม่

(16 เม.ย.66) ที่ลานตลาดนัดยรรยยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคคภูมิใจไทย นำโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เปิดเปิดเวทปราศรัยใหญ่ขึ้นในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ในเขต ต.หาดใหญ่ และ ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ ส่งนายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือรองรักษ์ เบอร์ 9 สู้ศึกเลือกตั้งชูผลงานเด่นสานต่อการพัฒนาท่องเที่ยวเมืองหาดใหญ่ 

โดยมีผู้ร่วมปราศรัยนำทีมโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะกรรมการ และแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือ รองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 รวมทั้งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งอื่นๆของ จ.สงขลา และทีมงานพรรค เข้าร่วม และมีปะชาชนในพื้นที่เดินทางมารับฟังกันแน่นพื้นที่มากกว่า 3,500 คน สำหรับในช่วงแรกได้มีการปราศรัยจากบบรรดาผู้สมัคร สส. ในแต่ละเขตที่เดนทางมาร่วมเวทีในครั้งนี้ รวมทั้งได้กล่าวถึงความสำเร็จของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ร่วมรัฐบาล และมีผลผงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะใน 3 กระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการจัดสรรวัคซีนวิด 19 ที่ จ.สงขลา มีผู้ได้รับวัคซีนเกินกว่าร้อยละ 70 เป็นกลุ่มจังหวัดแรกๆของประเทศ รวมทั้งผลงานของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือรองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 เบอร์ 9 เผยว่า ทุกวันนี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาทำงานหนักมาก เพื่อพัฒนา อ.หาดใหญ่ รวมทั้ง จ.สงขลา ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน อีกทั้ง สส. ในพื้นที่ที่จะคอยช่วยงาน หรือรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ไม่มี ตนจึงอยากขอโอกาสพี่น้องชาวหาดใหญ่ในการเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ ซึ่งจากการเดินทางพื้นที่มาระยะหนึ่งพบว่าหลายนโยบายของพรรคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างตรงจุด และยังสามารถช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้จากนโยบายที่มีส่วนในการช่วยเหลือค่าครองชีพ และเงินทุนที่เข้าถึงได้

โดยเฉพาะนโนยาบายกองทุนประกันชีวิตสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับกรมธรรพ์คนละ 100,000 บาท เมื่อเสียชีวิตทายาทจะได้รับ อีกทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังสามารถใช้กรมธรรพ์นี้กู้เงินได้อีก 20,000 บาท เพื่อเอาไปใช้จ่ายดำรงชีพ หรือเป็นเงินฉุกเฉิน เงินหมุนเวียนได้  นอกจากนี้นโยบายเกี่ยวกับเรื่องสนับสนุนโซล่าเซลล์ในครัวเรือนก็ยังได้รับความสนใจจากประชาชนมากเช่นเดียวกัน ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ตรงความต้องในช่วงพลังงานแพงแบบนี้ ส่วนนโยบายอื่นๆที่เน้นหนักทั้งเศรษฐกิจ และการค้า การท่องเที่ยว ของเมืองหาดใหญ่ ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาเหมือนเดิม

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะกรรมการและแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในภาคใต้พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัคร สส. รวม 59 เขต ขาดเพียงเขตเดียวที่ไม่ส่งคือ เขต 6 จ.สงขลา เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติ จึงไม่ได้ส่ง
โดยกระแสพรรคใน 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดินทางลงพื้นที่หลายจุดพบว่า ได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 62 ซึ่งในครั้งในได้ สส.เขต 8 คน และปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน โดยในปีนี้ตั้งเป้าคาดว่า น่าจะสามารถเบียดแย่งเก้าอี้ สส.เขต ได้เพิ่มเป็น 20 เขต ส่วนใน จ.สงขลา ส่งผู้สมัคร สส.เขต 8 จาก 9 เขต ซึ่งมีความมั่นใจ และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน และตนก็เป็นคนสงขลาเหมือนกัน

นอกจากนั้นพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตนก็มีแนวคิดที่จะพัฒนาให้กลับมาเป็นหาดใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีต โดยมีแนวคิดที่จะทำให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในย่านตลาดกิมหยง และตลาดสันติสุข กลางเมืองหาดใหญ่ จะผลักดันให้เป็นพื้นที่ขายสินค้าปลอดภาษี ราคาถูก เหมือนแต่ก่อน และจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของการผ่อนปรน และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายกันได้อย่างถูกต้อง และสบายใจ  รวมทั้งจะมีการดึงห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใหญ่ๆ มาขายสินค้าแบรนด์แนม และสินค้าคุณภาพสูง ลักษณะคล้ายกับการซื้อของในดิวตี้ฟรีสนามบินชั้นนำ ซึ่งจะคลอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม และทำให้หาดใหญ่กลับมาเป็นศูนย์กลางการค้าขายเหมือนในอดีต ส่วนด้านการท่องเที่ยว และกิจกรรมพิเศษต่างๆ ในพื้นที่ ก็จะสานต่อ และขยายความร่วมมือไปทั้งมนและต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
#72
"ดร.เอ้-มาดามเดียร์" ลุยเมืองชาวหาดใหญ่ อ้อนชาวเขต 2 เลือกนิพัฒน์ เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

16 เมษายน 2566 ดร.เอ้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาดามเดียร์ นางสาววทันยา บุนนาค ร่วมลงพื้นที่เดินหาเสียงช่วยนายนิพัฒน์ อุดมอักษร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ โดยได้เดินพบปะแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวย่านกลางเมืองหาดใหญ่ในตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยง

สำหรับบรรยากาศการเดินหาเสียงมีประชาชนให้การต้อนรับและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก พร้อมมีการทำป้ายเชียร์ไว้รอต้อนรับกันด้วย โดยดร.เอ้ กล่าวว่าวันนี้อุ่นใจมากเพราะได้รับการตอบรับอย่างดีทำให้มั่นใจพี่น้องประชาชนชาวสงขลาจะต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจเรื่องนโยบาย มั่นใจในพรรค มั่นใจในตัวผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่มาดูแลพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นเป้าหมายทั้ง 9 เขต พร้อมที่จะยกระดับสงขลาให้เป็นจังหวัดทันสมัยต้นแบบของอาเซียน ที่ผ่านมาผู้บริหารของพรรคทุกคนลงพื้นที่สงขลามาตลอด เพราะหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่สงขลาและเชื่อว่าจะได้รับโอกาสเข้าไปทำงานเพื่อชาวหาดใหญ่แน่นอน

ด้านมาดาเดียร์ ได้กล่าวกับชาวตลาดกิมหยงว่าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมมาดูแลชาวหาดใหญ่ขอบอกกับคนหาดใหญ่คนสงขลาและภาคใต้คือลมหายใจของพรรคประชาธิปัตย์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเขตนี้เราไม่มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคไม่เคยทิ้งชาวหาดใหญ่ ไม่ทิ้งชาวกิมหยง พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาทวงคืนศักดิ์ศรีขอให้เลือกผู้สมัครส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอรื 26 เพื่อให้ตนเอง ดร.เอ้ รวมทั้งนายชวน หัวหน้าจุรินทร์ ได้เข้าไปทำงานผลักดันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นจริง

ส่วนของผู้สมัครส.ส.เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้พี่น้องชาวเขต 2 สงขลา ชาวหาดใหญ่ คลองอู๋ตะเภา เลือกนายนิพัฒน์ เบอร์ 4 เพราะตนเกิดและเติบโตที่หาดใหญ่ผ่านการทำงานทั้งด้านสังคม ด้านการเมือง มีความรู้ ประสบการณ์ และมีความตั้งใจสูงสุดที่จะเข้าไปเพื่อพัฒนา เพื่อฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ของเราให้มีความคึกคัก มีการเติบโต อย่างมีทิศทางและยั่งยืน และช่วยกันเลือกเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 เพื่อจะได้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาช่วยพัฒนาเมืองหาดใหญ่ ทั้งดร.เอ้ มาดามเดียร์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาและช่วยผลักดันการพัฒนาหาดใหญ่ไปกับผมอย่างแน่นอน

#73
ดร.ไพร พัฒโน พร้อมเป็นผู้แทนคนเขต 3 ชูจุดเด่นคนพื้นที่ มีประสบการณ์ ทำงานเป็น

การเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 สงขลา ประกอบด้วย 3 อำเภอ 12 ตำบล หาดใหญ่ (เฉพาะต.ทุ่งใหญ่ ท่าข้าม น้ำน้อย คอหงส์ บ้านพรุ พะตง) นาหม่อมทั้งอำเภอ และจะนะ (เฉพาะต.จะโหนง คลองเปียะ) ถือว่าเป็นเขตที่มีพื้นที่กว้างและเพิ่งแบ่งประกาศเขตอย่างเป็นทางการก่อนเลือกตั้งเพียง 2 เดือนเท่านั้น ทำให้ผู้สมัครเขตนี้ต้องเดินพื้นที่อย่างหนัก สำหรับผู้สมัครที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ของเขตนี้คือเบอร์ 1 ดร.ไพร พัฒโน พรรคภูมิใจไทย
ไพร พัฒโน อดีตส.ส.2 สมัย นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ 3 สมัย ประสบการณ์ทางการเมืองนั้นหายห่วง การหวนหลับมาลงสนามการเมืองใหญ่ในสี่เสื้อพรรคภูมิใจไทย ที่กระแสดีในภาคใต้บวกผู้สมัครมีญาติพี่น้อง เป็นที่รู้จักของชาวบ้านอย่างกว้างขวางในพื้นที่นี่จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน แต่ดร.ไพร พัฒโน ไม่ประมาททำงานเชิงรุกอย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวกับพรรคมามีการลงพื้นที่แทบทุกวันไม่มีวันหยุด

ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นตั้งแต่รุ่นพ่อไสว พัฒโน อดีตส.ส.และรมต.ที่ผู้ใหญ่ในพื้นที่รู้จักและจดจำผลได้ ความเป็นลูกหลานเขต 3 พ่อเกิดคอหงส์ แม่เกิดบ้านพรุ ในพื้นที่นี้สามารถบอกเป็นภาษาบ้านเราได้ว่า "สืบโยดสาวย่านกันถึงหมด" การเดินพื้นที่จึงทำได้ง่ายกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เที่ยวนี้ลงกันถึง 12 คน และมีคู่แข่งที่คาดว่าจะมีคะแนนสูสีในกลุ่มเต็งนำอยู่ 2-3 คน นอกจากการไปร่วมงานต่างๆ การเดินตลาด จัดเวทีปราศรัยย่อยแล้ว ดร.ไพร พัฒโน ยังใช้การเดินเท้าถือโทรโข่งเข้าหาชาวบ้านแทบทุกตรอกซอกซอยกันเลย เรียกว่าใช้เวลาในแต่ละวันให้คุ้มค่ามากที่สุด

ดร.ไพร กล่าวว่าบทบาทที่แท้จริงของส.ส.ไม่เกี่ยวของกับการพัฒนาพื้นที่โดยตรง ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณได้ แต่สามารถนำความเดือดร้อนของชาวบ้านไปอภิปรายในสภาได้ ตนเองมีประสบการณ์เป็นอย่างดี เชื่อว่าหากได้รับโอกาสจะสามารถทำได้ดี ทำได้ทันทีเหมือนสโลแกนพรรคภูมิใจไทยที่ว่า "พูดแล้วทำ" วันนี้กระแสพรรคในพื้นที่ก็ดี ตัวผู้สมัครก็มีคุณสมบัติพร้อมที่สุด เชื่อว่าจะสามารถเป็นผู้แทนที่ชาวเขต 3 ไว้วางใจได้แน่นอน 14 พฤษภาคม 2566 อำนาจทางการเมืองกลับมาเป็นของประชาชนอีกครั้ง พี่น้องชาวเขต 3 สงขลา โปรดเลือก "ไพร พัฒโน" เบอร์ 1 เลือกพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7  ขอบคุณครับ
#74
มรภ.สงขลา สุดปลื้ม  "ผศ.ดร.ภัทรพร ภักดีฉนวน" อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร เข้ารับเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2565 เจ้าตัวเผยความภูมิใจตลอดการทำงาน 25 ปี ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดครั้งหนึ่งของชีวิต พร้อมมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์องค์กรและประเทศชาติ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ผศ.ดร.ภัทรพร ภักดีฉนวน อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เข้ารับเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2565 จาก ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ณ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน (วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี)
ผศ.ดร.ภัทรพร กล่าวถึงความรู้สึกต่อรางวัลที่ได้รับว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดครั้งหนึ่งของชีวิต ซึ่งเกียรติยศของการเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นศักดิ์ศรีต่อตนเองและวงศ์ตระกูล และพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตนต่อไปเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีด้วยจิตใจที่มั่นคงในความสุจริต และมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบให้บรรลุผลสำเร็จเพื่อประโยชน์ขององค์กรและประเทศชาติ
ตลอด 25 ปีของชีวิตราชการตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุ่มเท เสียสละ อดทน และพยายามพัฒนาตนเองโดยเพิ่มเติมความรู้และทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดหรือบทบาทหน้าที่ใด เพื่อให้งานในความรับผิดชอบประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ด้วยการเป็นครูอาจารย์มีหน้าที่หลักในการเป็นที่พึ่งของนักศึกษา จึงรับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะ ส่งเสริมสนับสนุนคุณธรรมจริยธรรม สร้างสิ่งที่ดีและถูกต้องเหมาะสม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่นักศึกษา 
นอกจากนั้น ด้วยภารกิจของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จึงได้บูรณาการการเรียนการสอน งานวิจัย ร่วมกับบริการวิชาการสู่ชุมชนภาคการเกษตร ด้วยบทบาทนี้ซึ่งต้องเป็นที่พึ่งของเกษตรกร จึงปฏิบัติงานด้วยสติปัญญา ใช้ทักษะและประสบการณ์อย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อมีปัญหาอุปสรรค ต้องพยายามหาทางแก้ไขอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ทั้งนี้ ความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานบริการวิชาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามี 3 ประการสำคัญ ดังนี้ 1. ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษามีจิตสาธารณะ ประยุกต์ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ และที่สำคัญเห็นคุณค่าของชีวิตที่เสียสละต่อส่วนรวม 2. ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีเพื่อการพึ่งพาตนเองของเกษตรกร และ 3. ได้เก็บรวบรวมพันธุ์ข้าวพื้นเมืองภาคใต้ที่ปลูกในแปลงเกษตรกรในอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสงขลา จำนวน 30 สายพันธุ์ ส่งมอบให้ธนาคารพันธุกรรมพืชขององค์กรภาครัฐเพื่ออนุรักษ์พันธุกรรมข้าวพื้นเมืองแบบระยะยาว นับเป็นการดำรงไว้ซึ่งทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย
#75
คณะครุศาสตร์ มรภ.สงขลา เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับ ป.โท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้-20 เมษายน 66
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) รับสมัครนักศึกษาใหม่เข้าเรียนในปีการศึกษา 2566 ระดับปริญญาโท สำหรับผู้มีใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ - 20 เมษายน 2566 ในสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาคปกติแบบ By research (ทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว) และภาคพิเศษ ศึกษารายวิชาและทำวิทยานิพนธ์ เข้าเรียนในวิชาเอก
1. การประถมศึกษา
2. การสอนภาษาอังกฤษ
3. การสอนภาษาไทย
ในส่วนของรอบที่ 2 จะเปิดรับสมัครในเดือนพฤษภาคม 2566 สำหรับผู้ที่ประสงค์จะรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในวิชาเอกต่างๆ ดังนี้
1. หลักสูตร การสอน และการเรียนรู้
2. การประถมศึกษา
3. การสอนภาษาอังกฤษ
4. การสอนภาษาไทย
โดยรับภาคปกติ จำนวน 15 คน และภาคพิเศษ จำนวน 20 คน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-8981650