[ฅนสองเล]

ที่สวนเกษตร PS ของ นายชัยโรจน์ และ นางเตือนใจ เป่าสุขกรี 2 สามีภรรยา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านนารังนก ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และทำการเกษตรแบบสวนผสมตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

โดยหนึ่งพืชที่ทั้งคู่นำปลูก และน่าสนใจมาก คือ ดอกขจร ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และยังมีการปลูกกันน้อยมากในพื้นที่ภาคใต้ และพูดได้ว่าที่สวนแห่งนี้เป็นแห่งแรกใน จ.สงขลา ที่นำดอกดอกขจรมาปลูก แต่หากได้รู้ถึงราคาหลายคนอาจจะพากันอึ้ง เพราะ ขายกันถึงกิโลกรัมละ 200-250 บาท เลยทีเดียว เนื่องจากผลผลิตยังมีน้อยมาก และเป็นที่ต้องการของตลาด

นายชัยโรจน์ บอกว่า ได้แบ่งพื้นที่สวนปลูกดอกขจร 1 ไร่ จำนวน 350 ต้น รวม 20 แถว โดยวิธีการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ลงต้นกล้าแต่ละต้นให้ห่างกันประมาณเมตรครึ่ง และระหว่างแถวห่างกัน 2 เมตร แต่ต้องทำค้างไม้ เพราะ ต้นขจรเป็นไม้เลื้อย และต้องยกร่องหรือใช้พลาสติกคลุมร่องไม่ให้น้ำขัง เนื่องจากดอกขจรไม่ชอบน้ำ ส่วนการดูแลรักษาก็ทำตามปรกติ ทั้งการให้ปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี และต้องคอยแต่งยอดให้เลื้อยอยู่บนค้างไม้ไม่ให้ห้อยลงดิน และที่สำคัญดอกขจรแทบจะไม่มีปัญหาโรค หรือแมลงศัตรูพืชรบกวนแต่อย่างใด

โดยใช้เวลาปลูก 3 เดือน ก็จะเริ่มออกดอกเก็บขายได้ และมีอายุยืนยาวสามารถเก็บดอกขายได้ต่อเนื่องนานถึง 10 ปี ระยะห่างในการเก็บ 3 วัน ต่อครั้ง หรือตามที่ลูกค้าสั่งซื้อมา โดยดอกขจรที่ปลูกไว้ 1 ไร่ สามารถเก็บดอกขายได้เต็มที่ครั้งละ 20 กิโลกรัม ซึ่งจะส่งขายในตลาดหาดใหญ่ และร้านอาหารในราคากิโลกรัมละ 200-250 บาท และราคาไม่เคยต่ำกว่านี้

นายชัยโรจน์ กล่าวว่า ดอกขจรสามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทั้งนำไปผัด แกงส้ม ยำ หรือสารพัดเมนู และยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย ขณะที่ระหว่างร่องของการปลูกดอกขจรก็ยังสามารถปลูกพืชอื่นๆแซมได้ด้วย เช่น พริก และ มะเขือ ซึ่งจะมีรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับเกษตรกร หรือผู้ที่สนใจปลูกดอกขจร หรือสอบถามวิธีการปลูกให้ได้ผล สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายชัยโรจน์ โทร. 099-401-7967