Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

กลโกงเลือกตั้ง"ซับซ้อน สู่ สามัญ"

เริ่มโดย สงขลามีเดีย, 16:00 น. วันที่ 20 06 56

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

สงขลามีเดีย

โดย คมชัดลึก www.komchadluek.net

การเอาเปรียบ หรือการโกง แทบจะเกิดมาพร้อมๆ กับการเลือกตั้งในประเทศไทย และมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลง จากง่ายๆ กลายเป็นซับซ้อน และล่าสุดพัฒนาการเริ่มย้อนกลับมาเป็นการโกงแบบพื้นฐานอีกครั้งหนึ่ง

อย่างเรื่องการซื้อเสียง ที่ดูเมือนจะอยู่คู่กับการเลือกตั้งมานาน แต่เอาจริงๆ แล้ว ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ ง่ายๆ ชนิดเดินเอาเงินไปให้และฝากฝังให้เลือกโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือการให้อาจจะไม่ใช่เงินแต่เป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น

ต่อมาพัฒนามาเป็นการสัญญาว่าจะให้ หากได้รับเลือกตั้งก็สัญญาว่าจะกลับเอาผลประโยชน์มาให้ จนเปลี่ยนมาเป็นการให้แบบมัดจำคือให้ครึ่งหนึ่งก่อนแล้วที่เหลือค่อยตามมา มีเรื่องจริงที่เล่ากันเมื่อการเลือกตั้งปี 2544 มีการให้รองเท้าแตะไว้ก่อนหนึ่งข้าง หากได้รับเลือกตั้งค่อยมาเอาอีกข้างที่เหลือ
หรือการพัฒนาการจ่ายแทนที่จะจ่ายเป็นตัวเงินจากหัวคะแนน ถึงมือผู้มีสิทธิโดยตรง ก็เป็นการจ่ายผ่านโรงงาน ผ่านบัญชีเงินเดือนที่ได้รับจากนายจ้าง หรือมาในรูปแบบบัตรเติมเงิน

แต่วันนี้กระบวนการดูเหมือนจะไม่ซับซ้อนเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว เนื่องจากวันนี้มีการเปลี่ยนระบบนับคะแนนจากนับรวมที่สถานที่นับคะแนนกลางกลับไปนับที่หน่วยเลือกตั้ง ทำให้หัวคะแนนสามารถเช็กได้ว่าเงินที่จ่าย กระสุนที่ยิงไปในแต่ละพื้นที่จะเข้าเป้าหรือไม่

เรียกได้ว่าการจ่ายแบบเดิมจะมาพร้อมกับระบบหัวคะแนนที่กลับคืนมาเช่นกัน

และระบบหัวคะแนนต่างๆ นั้นก็เป็นระบบอุปถัมภ์อย่างชัดเจน โดยอุปถัมภ์ระหว่างหัวคะแนนกับผู้มีสิทธิ รวมทั้งระบบอุปถัมภ์ระหว่างหัวคะแนนกับผู้มีอำนาจ
หัวคะแนนย่อมถูกคุ้มครองโดยนักการเมือง และบรรดาข้าราชการในพื้นที่ หากปราศจากขาใดขาหนึ่ง หัวคะแนนย่อมไม่เข้มแข็ง เพราะหากนักการเมืองหนุน แต่ข้าราชการไม่เอาด้วย การกระทำก็ไม่ได้ผล

และนี่เป็นที่มาของกลโกงที่เห็นได้มากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเมื่อนักการเมืองมีอำนาจครอบคลุมทั้ง หัวคะแนนและข้าราชการ การดำเนินการต่างๆ กระทำภายใต้โครงการของรัฐ การเรียกประชุมชาวบ้านและหัวคะแนน ต่างก็เป็นโครงการที่วางแผนมาตั้งแต่ต้นโดยระดับบนของกระทรวง

ที่เหลือก็แค่ให้ นักการเมืองและผู้สมัคร เข้าดำเนินการระหว่างนั้น มีทั้งแบบ ดีกรีอ่อน คือเรียกประชุมชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และให้ผู้สมัครไปแนะนำตัว หรือให้หัวคะแนนไปชักจูง

หรือดีกรีกลางๆ อย่าง เพิ่มเบี้ยประชุม ค่าน้ำมูกน้ำมันอย่างไม่มีสาเหตุ และดีกรีจัดอย่างให้หัวคะแนน หรือบางแห่งผู้สมัครเองเข้าไปในพื้นที่การประชุมและแจกเงินกันดื้อๆ อย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม

ซึ่งคนที่ทำอย่างหลังได้คือพวกที่มั่นใจสุดๆ ว่า สามารถบล็อกทุกอย่างไม่ให้เล็ดลอดเข้าหูเข้าตาฝั่งตรงข้าม หรือผู้ที่จ้องจับผิด ซึ่งวิธีการแบบนี้กระจายไปเกือบทั่วทุกพื้นที่เหนือและอีสาน

ส่วนเรื่องการซื้อเสียงในแบบอื่นๆ นั้นจนถึงปัจจุบันยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก ข้อมูลจาก กกต. ระบุว่า หากจะเคลื่อนไหวจริงๆ ก็น่าจะเป็นช่วงโค้งสุดท้าย หลังจากที่เห็นแล้วว่ากระแสไม่ขึ้น ไม่ได้แน่ๆ เมื่อนั้นเงินจะเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ

ทั้งนี้ในเขตโรงงานอุตสาหกรรมก็เริ่มจะเห็นการโอนเงิน การเปิดบัญชีแปลกๆ บ้างแล้ว รอเพียงนกหวีดสั่งเดินหน้าเท่านั้น

สิ่งที่ชี้ให้เห็นง่ายๆ คือในพื้นที่ที่ไม่ใช่ตัวเมือง เราจะพบเห็นป้ายหาเสียงได้น้อยมาก เพราะยุทธวิธีที่จะใช้ในพื้นที่นั้นๆ จะไม่ใช่การประชาสัมพันธ์ให้รู้จัก

นอกจากกระบวนการซื้อสิทธิขายเสียง ที่ กกต. ค่อนข้างเป็นกังวล อีกประการที่ต้องจับตาคือกลโกงแบบโบราณ เช่น การเวียนเทียน ซึ่งวิธีนี้หากทำอย่างมีประสิทธิภาพบัตรใบเดียวก็ได้ทั้งหน่วย

การนำบัตรออกจากระบบแม้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปนักหากมีเจ้าหน้าที่หลับตาและรู้เห็นเป็นใจ

แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ มีกระบวนการที่ทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และทิ้งหลักฐานเอาไว้ หากชนะหลักฐานก็จะถูกเก็บไว้ แต่หากแพ้ หลักฐานก็จะถูกพบและนำมาร้อง ซึ่งวิธีนี้กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่การเลือกตั้งใกล้กรุงครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้นเป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เราอาจจะเห็นบัตรเลือกตั้ง หรือ หีบบัตรถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ และนำมาร้องเรียนเพื่อหวังเลือกตั้งใหม่ในหลายๆ เขต
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง เราจะยิ่งเห็นกลโกงต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งวิธีโบราณ ทันสมัย  ซับซ้อน หรือพื้นฐาน ถูกงัดออกมาใช้เพื่อชัยชนะ เฉพาะอย่างยิ่งเขตที่มีการแข่งขันสูงและทำท่าว่าจะแพ้

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และความแตกแยกของสังคมที่ร้างลึก การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเท่านั้นที่จะเป็นทางออกเล็กๆ ที่พอจะลอดออกไปจากวิกฤติได้
ปัญหาคือ นักการเมืองหลายคนที่เป็นตัวต้นตอของปัญหา กลับเลือกวิธีการที่จะปิดช่องทางออกด้วยมายาคติที่คับแคบของตนเอง และหวังเพียงจะก้าวเข้าสู่อำนาจ หรือไม่ก็ขัดขาไม่ให้ขั้วตรงข้ามขึ้นสู่อำนาจก็เท่านั้น

อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ
สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy