Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

ปิดตำนาน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตอุทิศ ชูช่วย

เริ่มโดย สงขลามีเดีย, 14:14 น. วันที่ 07 09 59

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

สงขลามีเดีย

ปิดตำนาน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตอุทิศ ชูช่วย

ค่ำวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555 ข่าวของจังหวัดสงขลาโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อมีมือปืนกลุ่มหนึ่งก่อเหตุอย่างอุกอาจบุกยิ่งนายพิระ ตันติเศรณี นายกเทศมตรีนครสงขลา ที่บริเวณหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ถ.นครใน ใจกลางย่านเมืองเก่านครสงขลา นายกพีระ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนในย่านนั้น

หลังจากนั้นสำนักข่าวต่างๆ ให้ความสนใจลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เจาะประเด็นสาเหตุและความน่าจะเป็นของคดีสะเทือนขวัญในครั้งนี้ และหนึ่งในเป้าหมายที่หลายคนจับตามองนั่นคือ นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลาในยุคนั้นที่มีความขัดแย้งกันในหลายประเด็นกับนายกพีระ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าจากสงขลาไปยังฝั่งหัวแดง อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นโครงการของ อบจ.สงขลา แต่เทศบาลนครสงขลา ของนายกพีระ เดินหน้าตัดค้านโครงการนี้อย่างต่อเนื่องจนโครงการสะดุดและล้มแผนไปในที่สุด

ย้อนรอยตำนานเพื่อรักหักเหลี่ยมโหด ในอดีตสายการเมืองในนามทีมสงขลาพัฒนา ต้องบอกว่ามีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายอุทิศ ชูช่วย และนายพีระ ตันติเศรณี ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเด็กในสมัยเรียนมหาฯ เรียนมหาวิทยาลัย เรียกว่ากินข้าวหม้อเดียวกันมาตลอดก็ว่าได้และมาร่วมกันเป็นหัวเรือหลักของการเมืองกลุ่มนี้ โดยนายนิพนธ์ ดูภาพใหญ่ในฐานะ ส.ส.อุทิศ ดูแลท้องถิ่นในฐานะนายกเทศมนตรีนครสงขลา และมีพีระ เป็นหัวแรงหลักในการหาเสียงและทำงานเบื้องหลังเป็นส่วนใหญ่ โดยเคยเป็นทั้งรองนายกนครสงขลา สมัยนายกอุทิศ และรองนายกอบจ.สมัยนายนวพล (น้องชายนายนิพนธ์)

ปี 2552 เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เมื่อนวพล นายกบจ.สงขลา โดนใบเหลือง ทำให้ทีมสงขลาพัฒนาต้องเฟ้นหาตัวแทนคนใหม่ และนายอุทิศ ชูช่วย ก็ประกาศลงสมัครแทนพร้อมลาออกจากนายกเทศมนตรีนครสงขลาทันที ซึ่งดูเหมือว่าจะไม่มีอะไรหากอุทิศ ไม่ส่งไม้ต่อที่สนามเล็กให้น้องชายนั่นคือนายกิตติ ชูช่วย ประธานสภาเทศบาลมาลงสมัครนายกเล็กแทนตัวเอง จนสร้างความไม่พอใจจากทีมสงขลาพัฒนาเดิมอย่างยิ่งเพราะทางทีมได้วางตัวให้พีระ ลงสนามนี้แต่แล้วอุทิศไม่ถอยทำให้พีระ ต้องตั้งทีมสงขลาใหม่ขึ้นมาแข่งกับทีมสงขลาพัฒนาแทน

ผลการเลือกตั้งในสนามใหญ่คราวนั้น อุทิศ ชูช่วย ประสบความสำเร็จในสนาม อบจ.แต่ในสนามทน.สงขลา กิตติ ชูช่วย กลับพ่ายยับเยินให้กับนายกพีระ จากเพื่อนรักกลับมาเดินคนละเส้นทางโดยที่นิพนธ์ บุญญามณี พี่ใหญ่ของทีมก็ไม่สามารถประสานรอยร้าวของเพื่อนในรอบนี้ได้ แต่กลับทวีความรุนแรงในความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น หลายโครงการในเขตเทศบาลนครสงขลาที่เคยจัดร่วมกับอบจ.ก็เลือนหายไป แทบหาภาพ 2นายกยืนคู่กันยากมาก รวมถึงหลายครั้งที่นายกพีระ มักโพสผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวบ่นถึงเรื่องราวต่างๆ จนทำให้ผู้คนทั่วไปมองเห็นถึงความขัดแย้งของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน

โครงการใหญ่ที่นายกอุทิศ หาเสียงและเดินหน้าทำนั่นคือการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้ามูลค่ากว่า 400 ล้านบาท จากแหลมสนอ่อน ฝั่งนครสงขลา ไปยังเขาแดง อ.สิงหนคร ซึ่งนายกพีระ เดินหน้าค้านอย่างหนักและยืนยันไม่ให้โครงการนี้เกิดขึ้นแน่นอน และวันที่ 7 พ.ย.55 นายกพีระ ก็ต้องปิดตำนานตัวเองลงไปอย่างไม่มีวันกลับ เช่นเดียวกับโครงการกระเช้าลอยฟ้าก็ลอยแพหายไปด้วย โดยการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา ในเดือนสิงหาคม 2556 นายอุทิศ ลงป้องกันแชมป์ฺอีกสมัยแต่พ่ายให้กับนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์แบบขาดลอย   

ส่วนความคืบหน้าของคดีลอบยิงนายกพีระ โดยสรุปมีดังนี้ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสงขลา สั่งฟ้องผู้ต้องหารวม10 คน แต่ในชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา3 คนคือ นายปราโมทย์ แสงอรุณ นายณัฐพร นัคเร นายชยันต์ หนูพันธ์  และระหว่างการพิจารณามีจำเลยถูกยิงเสียชีวิต2 คนคือ นายอธิป ด้วงมาก จำเลยที่2  และนายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว จำเลยที่6 จึงเหลือจำเลยในคดีนี้เพียง 5 คน คือนายอุทิศ ชูช่วย (จำเลยที่ 5) นายไพศาล หนูพันธ์ (จำเลยที่ 1) นายฉ้วน หมวดมี (จำเลยที่ 3) นายกิตติ ชูช่วย (จำเลยที่ 4) ซึ่งเป็นน้องชายของนายอุทิศ และนายสุดขีด จันทร์เขียว (จำเลยที่ 7)

วันที่ 14 สิงหาคม 2557 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องนายอุทิศ ชูช่วย พร้อมพวกรวม 5 คน และโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้น

ต่อมาวันที่ 29 ตุลาคม 2558 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้ให้ประหารชีวิตจำเลย 3 คน คือ นายอุทิศ ชูช่วย (จำเลยที่ 5) พร้อมด้วยนายไพศาล หนูพันธ์ (จำเลยที่ 1) และนายฉ้วน หมวดมี (จำเลยที่ 3) และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายกิตติ ชูช่วย (จำเลยที่ 4) ซึ่งเป็นน้องชายของนายอุทิศ และนายสุดขีด จันทร์เขียว (จำเลยที่ 7) และจำเลยยื่นฎีกาคำตัดสิน

และในวันนี้ 7 กันยายน 2559 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คือ ให้ประหารชีวิตจำเลย 3 คน คือ นายอุทิศ ชูช่วย (จำเลยที่ 5) พร้อมด้วยนายไพศาล หนูพันธ์ (จำเลยที่ 1) และนายฉ้วน หมวดมี (จำเลยที่ 3) และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายกิตติ ชูช่วย (จำเลยที่ 4)  และนายสุดขีด จันทร์เขียว (จำเลยที่ 7)

วันนี้บนถนนสายการเมืองที่ทั้ง 2 คนร่วมสร้างและเดินกันมากว่า 30 ปี ได้ปิดตำนานลงแล้ว โดยต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่าผลงานของนายกอุทิศ ชูช่วย และนายกพีระ ตันติเศรณี ยังอยู่ในใจของชาวสงขลาอีกเป็นจำนวนมากแม้ว่าทั้ง 2คนจะไม่ได้เดินบนถนนการเมืองแล้วก็ตาม นี่คือตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่ปิดลงพร้อมกับคำกล่าวที่ว่า "กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ"

ภาพจากรายการตอบโจทย์ประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ทีมข่าวเฉพาะกิจ www.Gimyong.com รายงาน   
สนับสนุนโดย
- กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ www.chana.egat.co.th/home
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา www.skru.ac.th
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy