Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

กระทู้ล่าสุด

#1
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าวและฉลองซัง โครงการปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านป่าชิง ณ ทุ่งนาบ้านป่าชิง ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา 

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 นายเขมญาติ ยมานันตกุล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  และพนักงานจ้างเหมาเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าวและฉลองซัง โครงการปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านป่าชิง (โรงเรียนนี้มีรัก ปลูกข้าวกินเอง) ณ ทุ่งนาบ้านป่าชิง ตำบลป่าชิง  อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยมีนายนิพนธ์ ชิตมณี  ปลัดอาวุโสอำเภอจะนะ เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งกิจกรรมในวันนี้มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น โรงเรียนในตำบลป่าชิงและใกล้เคียง รวมไปถึงประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ในการเกี่ยวข้าวและสืบสานประเพณีที่มีมานานให้คงอยู่ตลอดไป

ภาพ : จิตวัต/เกตุวลี 
ข่าว : เกตุวลี
#2
โรงไฟฟ้าจะนะร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้  ณ  โรงเรียนวัดบ้านไร่ 

วันที่ 5 มีนาคม 2567 นางธัญนุช พูลสวัสดิ์ วิทยากรระดับ 6  พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลโดยทั่วไปของโรงไฟฟ้าจะนะ ในกิจกรรม "ตลาดนัดวิชาการ ไร่ ป่า ทุ่ง พอเพียง" ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ณ โรงเรียนวัดบ้านไร่ ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยมีคุณอำภา เวรสารศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมนิทรรศการของโรงไฟฟ้าจะนะด้วย

ซึ่งการจัดงานดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนวัดบ้านไร่  โรงเรียนบ้านป่าชิง  และโรงเรียนวัดทุ่งพระ  ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ และการขายอาหารเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการด้านวิชาการและวิชาชีพ  ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เรียนดี มีความสุข จับมือแล้วไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ทางโรงฟ้าจะนะได้นำเจ้าหน้าที่ของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ ไปประชาสัมพันธ์เชิญชวนคุณครู ผู้ปกครอง  และน้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวให้เข้าไปเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ ในช่วงปิดเทอมที่ใกล้จะถึงนี้

ภาพ : จารุพรรณ/กนกวรรณ
ข่าว : ธัญนุช
#3
สงขลา-พัทลุง กับก้าวต่อไปเพื่อไทยลีก2

บทสรุปฟุตบอลไทยลีก3 โซนใต้ปีนี้ เงือกสมิหลา สงขลาเอฟซี โชว์ฟอร์มอย่างสวยงาม แข่ง 22 ชนะ 17 เสมอ 5 แพ้ 0 ยิงได้ถึง 46 เสียแค่ 7 ประตู เก็บถึง 56 คะแนน คว้าแชมป์โซนได้อย่างงดงามตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล ส่วนอีกทีมที่ได้สิทธิ์เพลย์ออฟคือ อีแอ่นเหิรฟ้า พัทลุงเอฟซี แข่ง 22 ชนะ 14 เสมอ 6 แพ้ 2 มี 48 คะแนน ควว้ารองแชมป์โซนใต้ และขอส่งกำลังใจให้ทัพพะยูนพิฆาต ตรังเอฟซี ที่ประกาศปิดตำนานหลังอยู่อันดับสุดท้ายและต้องพักทีม 1 ฤดูกาลแต่ทราบว่าทางบอร์ดบริหารไม่ทำทีมต่อแล้ว

เส้นทางสู่ไทยลีก2 ไม่ใช่งานง่านเพราะ 12 ทีมจาก 6 โซนต้องมาเพลย์ออฟ เพื่อคัดเอาแค่ 3 ทีมดีที่สุดเท่านั้น เงือกสมิหลากับอีแอ่นเหิรฟ้า จะมีดีพอต่อกรกับทีมอื่นๆ เพื่อเป็นตัวแทนภาคใต้ในลีกพระรอง ซึ่งตอนนี้มีนครศรียูไนเต็ด ที่อยู่ในโซนลุ้นเลื่อนชั้น และกระบี่เอฟซี ที่มีโอกาสตกชั้นสูงโลดแล่นอยู่ ส่วนลีกสูงสุดยังไม่มีตัวแทนภาคใต้เลย เอาเป็นว่าขอเชียืสงขลา-พัทลุง ให้ก้าวสู่ไทยลีก2 ให้ได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะสงขลา ปีนี้ต้องห้ามพลามดเด็ดขาดนะครับ

--------------------
บทความน่าสนใจจากเพจไทยลีก 3
สงขลา เอฟซี เงือกสมิหลาผู้ท้าทายคลื่นลม

ขวบปีที่ผ่านมาของ สงขลา เอฟซี อาจจะเป็นขวบปีที่หลายๆ คนอยากลืมเลือน หลังมิอาจเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ได้ ทั้งที่มีการเสริมทัพผู้เล่นดีกรีระดับไทยลีก และโค้ชดีกรีโปรไลเซนส์ มาร่วมงาน โดยทำได้เพียงเป็นแชมป์โซนภาคใต้เท่านั้น

ทำให้ปีนี้ ทีมตัดสินใจลดขนาดทีมลง สตาร์ดังระดับไทยลีก ตบเท้าอำลาทีม สวนทางกับแข้งท้องถิ่นเลือดปักษ์ใต้เดินทางเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม พร้อมกับดึงตัว ไดกิ ฮิกูชิ อดีตแข้งชลบุรี เอฟซี กลับมารับงานกุนซือของทีมอีกคำรบ

แต่เมื่อหันไปดูเจ้าบุญทุ่มโซนใต้ของปีนี้ ทั้ง ปัตตานี เอฟซี และ พัทลุง เอฟซี ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า สงขลา เอฟซี จะมีทิศทางอย่างไรในฤดูกาล 2023/24

แต่เมื่อออกสตาร์ทฤดูกาล สงขลา เอฟซี ค่อยๆ สร้างผลงานและเก็บแต้มต่อเนื่อง โดยหลังจบเลกแรกพวกเขาจบด้วยการ "ไร้พ่าย" โดยเป็นหนึ่งใน 7 ทีมที่ทำได้หลังจบเลกแรก

นอกจากนี้พวกเขายังสร้างผลงานสะเทือนเลือนลั่น โดยเฉพาะในรายการรีโว่ คัพ รอบ 32 ทีม ที่เปิดบ้านล้มยักษ์จากไทยลีก อย่าง โปลิศ เทโร ด้วยสกอร์ 5-2

ซึ่งส่วนหนึ่ง มาจากขุมกำลังท้องถิ่นที่รู้ใจกัน ไม่ว่าจะเป็น จารุเดช หล๊ะหมูด นายทวารจาก อ.สะเดา ที่เก็บไป 6 คลีนชีท จาก 11 เกมที่ลงสนาม, อับดุลฮาฟิส นิบู กองหลังกัปตันทีมที่เป็นหัวใจและผู้นำในเกมรับ รวมไปถึงการได้ วิกเตอร์ คาปินัน กองหลังชาวบราซิล เขามาประสานเกมรับให้เหนียวแน่น รวมไปถึงแนวรุกที่มี อันวา อาลีมามะ และ อิเคเน่ อซิเก้ สองคู่หูที่กดประตูรวมกันกว่า 14 ประตูในเลกแรก

สิ่งที่ต้องติดตามจากนี้ คือการที่พวกเขามีลุ้นถ้วยทุกใบกับขนาดทีมที่ไม่ได้ใหญ่ โค้ชไดกิ และผองเพื่อนเงือกสมิหลา จะสามารถทำผลงานได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะเลกสองที่หลายๆ ทีมเริ่มเดินเครื่องเสริมทัพเพื่อสู้กันต่อ นี่จึงเป็นความท้าทายสำคัญที่ทีมจะต้องพบเจอในครึ่งหลังของฤดูกาลนี้

#ThaiLeague3 #ไทยลีก3 #ฟุตบอลไทย #บอลไทย #ปุ๋ยรุ่งอรุณลีก #ปุ๋ยรุ่งอรุณ #ศึกศักดิ์ศรีแห่งภูมิภาค


#4
สำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จัดโครงการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม และผู้ประกอบการ นิทรรศการนวัตกรรมผู้ประกอบการและส่งเสริมการตลาด ภายใต้โครงการการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมสู่การยกระดับศักยภาพธุรกิจรูปแบบใหม่ ในระหว่างวันที่ 19 - 23 กุมภาพันธ์ 2567  ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดยมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ได้รับเกียรติ ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน รศ.วรพงค์ บุญช่วยแทน ผู้อำนวยการสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กล่าวรายงาน ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ ร่วมกล่าวต้อนรับ และมีคณะผู้บริหาร นักวิจัย วิทยากร ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมมีบรรยายในหัวข้อ การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดย ผศ.พญ. นลินี โกวิทวนาวงษ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และแนวคิดการทำธุรกิจนวัตกรรม โดยคุณวรนล ฐิตินันทกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูเบอร์ จำกัด
สำหรับโครงการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม และผู้ประกอบการ นิทรรศการนวัตกรรมผู้ประกอบการและส่งเสริมการตลาด ภายใต้โครงการการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมสู่การยกระดับศักยภาพธุรกิจรูปแบบใหม่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี  มทร.ศรีวิชัย ได้ดำเนินโครงการภายใต้โปรแกรม 25 (P25) แผนงานย่อยพัฒนาระบบและกลไกสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศ ววน. แผนงานย่อยรายประเด็น "แผนงานพัฒนาระบบ ววน. ในสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพลิกโฉมมหาวิทยาลัย" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถศักยภาพของผู้ประกอบการในการพัฒนายกระดับสถานประกอบการด้วยผลงานวิจัยและนวัตกรรม และเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างนักวิจัย และผู้ประกอบการ ซึ่งทางโครงการได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อนำไป Matching ร่วมกับผู้ประกอบการ และสร้างสรรค์เป็นผลงานในวันนี้ จำนวน 10 ผลงาน อันประกอบด้วย
1. เครื่องคัดขนาดไข่นกกระทาด้วยเทคโนโลยี Image Processing / ห้างหุ้นส่วนจำกัด อคินฟาร์ม
2. ตู้ตากพริกไทยพลังงานทางเลือกในการผลิตพริกไทยพรีเมี่ยม / บริษัท บ้านสวนมรดกพริกไทยตรัง จำกัด
3. Kombucha จากเปลือกและชาดอกกาแฟ / บริษัท อินโนเวทีฟ คอฟฟี่ จำกัด
4. ระบบควบคุมการฟักไข่แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT / บริษัท เอพีเอ็น ไอที โซลูชั่น จำกัด
5. อุปกรณ์แยกชิ้นงานออกจากเครื่องขัดผิว / บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด
6. เครื่องปอกไข่ไก่ต้มด้วยระบบอัตโนมัติ / บริษัท ที เอ็น เซอร์วิส
7. กระถางต้นไม้รักษ์โลก / โรงปูน อุ่นดิน
8. raw organic rice / สวนตาเชยเกษตรฟาร์ม
9. ผลิตภัณฑ์เจลนวดน้ำมันปาล์มแดงกัญชา / บริษัท เคโอซีพี จำกัด
10. ไซเดอร์มังคุดผสมน้ำผึ้งพร้อมดื่ม / ห้างหุ้นส่วนจำกัดวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทยวิถีชุมชน
รศ.วรพงค์ บุญช่วยแทน ผู้อำนวยการสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี  มทร.ศรีวิชัย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า งานในครั้งนี้ยังกิจกรรมนำเสนอ Demo Day เพื่อประกวดนวัตกรรมที่พัฒนาผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และยกย่องเชิดชูผลงานดีเด่น  3 ประเภท ซึ่งมีผลการประกวดมีดังนี้
ประเภทผลิตภัฑ์ต้นแบบ 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ ตู้ตากพริกไทยพลังงานทางเลือกในการผลิตพริกไทยพรีเมี่ยม
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เครื่องปอกไข่ไก่ต้ม
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เครื่องคัดขนาดไข่นกกระทาด้วยเทคโนโลยี Image Processing
- รางวัลชมเชย ระบบควบคุมการฟักไข่แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT
ประเภทผู้ประกอบการต้นแบบ 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ Innovative Coffee
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 บริษัท บ้านสวนมรดกพริกไทยตรัง จำกัด
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงปูนอุ่นดิน
- รางวัลชมเชย สวนตาเชยเกษตรฟาร์ม
ประเภทบุคลากรพัฒนาผู้ประกอบการดีเด่น 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ อาจารย์ณัฐรดา บุญถัด อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐานวิทย์ แนมใส และอาจารย์ธีระวัฒน์ เพชรดี อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ดร.บุญเรือน สรรเพชร และอาจารย์วันทนา สังข์ชุม อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รางวัลชมเชย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สายใจ แก้วอ่อน อาจารย์ประจำคณะอุตสาหกรรม และ ดร.พิมพิศา พรหมมา วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ
"มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่หลากหลาย ในส่วนของโครงการนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างอาจารย์กับผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันส้างผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งด้านนวัตกรรม เพื่อยกระดับให้มีความสารถในการแข่งขันทั้งด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และการตลาด การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อร่วมสร้างให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีความเข้มแข็งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ"
#5
อพท. จับมือ มทร.ศรีวิชัย ร่วมพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา

 (16 กุมภาพันธ์ 2567) ณ โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยมี ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวต้อนรับ นายสมเกียรติ อำนวยสุวรรณ รองผู้จัดการ อพท.ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายรังษี รัตนปราการ นายกภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา ผศ.อุดร นามเสน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นักวิจัย ตลอดจนองค์กรภาครัฐ – เอกชน และภาคีเครือข่ายพี่น้องประชาชนเข้าร่วม

สำหรับโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) เพื่อให้พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามขีดความสามารถในการรองรับ และช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ไม่ถูกทำลาย เกิดเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามแนวทางของเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) และเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยภายในงานมีการนำเสนอผลการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 แหล่ง 3 มาตรการ ได้แก่
- พื้นที่ทะเลน้อย ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ใช้มาตรการลดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ
- พื้นที่เกาะหมาก ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ใช้มาตรการการท่องเที่ยวแผนพัฒนาการท่องเที่ยวตำบลเกาะหมาก จังหวัดพัทลุง
- พื้นที่เมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ใช้มาตรการเปลี่ยนจุดห้ามจอดเป็นจุดเช็คอิน
สำหรับการคัดเลือกมาตรการมาใช้นั้นได้จากผลการศึกษาดำเนินการนำร่องการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมและเป็นแนวปฏิบัติที่ดี

นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า "จังหวัดสงขลา ได้พัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขับเคลื่อนสงขลาสู่การเป็นเมืองมรดกโลก การจัดโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ทรัพยากรธรรมชาติและชุมชนที่มีอยู่ไม่เข้มแข็ง ก็จะเกิดความไม่สมดุลได้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย รวมทั้งท้องถิ่น/ท้องที่ ภาคีเครือข่ายพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันศึกษาเรื่องดังกล่าว ตามเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

รวมทั้งการใช้ทรัพยากรในระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำหรือทางบก ที่จะต้องสมดุลกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องการศึกษาความสามารถในการรองรับ ก็จะเป็นเรื่องสำคัญทั้งการเตรียมการไม่ว่าจะเป็นการผลักดันสงขลาสู่เมืองมรดกโลกหรือการรองรับนักท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าจังหวัดสงขลามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยอะที่สุดติดอันดับของประเทศ เพราะฉะนั้นตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เราจำเป็นต้องส่งเสริมและสนับสนุนบวกกับต้องมีความพร้อมของพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคส่วนของพี่น้องประชาชนด้วย"
       
ด้าน ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวว่า มทร.ศรีวิชัย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณสนับสนุนโครงการจาก อพท. โดยมีหน้าที่ในการศึกษาขีดความสามารถของชุมชนในแต่ละพื้นที่ การลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชุมชน และทำงานร่วมทุกภาคส่วนนื้ที่ โดยภายในงานวันนี้มีการนำเสนอผลการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 แหล่ง 3 มาตรการ และการคัดเลือกมาตรการที่ได้จากผลการศึกษาดำเนินการนำร่องการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมและเป็นแนวปฏิบัติที่ดีและยั่งยืนต่อไป
#6
เสริมแหนบ แต่งโช้ค สำหรับปิคอัพสายบรรทุก ธีระการช่าง...ทำได้

รถกระบะ รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ มีปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการบรรทุกและช่วยการทรงตัวของรถคือ ช่วงล่าง โช้คอัพ แหนบ เพลาลอย ล้วนมีความสำคัญต่อการทรงตัวของรถทั้งสิ้น หากไม่ประกอบด้วยอะไหล่คุณภาพ ช่างผู้ชำนาญงาน อาจส่งผลต่อการทรงตัวของรถได้

ธีระการช่าง เราคือผู้นำด้านโช้คอัพรถยนต์ การเสริมแหนบรถกระบะเพื่อเพิ่มน้ำหนักการบรรทุกให้ได้มากขึ้นนั้น สำหรับการบรรทุกไม่เกิน 3 ตัน สามารถทำได้โดยไม่ต้องใส่เพลาลอย ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้ โดยที่ร้านของเรามีแหนบเสริมสำหรับการบรรทุก มีช่างผู้ชำนาญงานคอยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า

ร้านธีระการช่าง ให้บริการงานซ่อมรถยนต์ โช้คอัพ ช่วงล่าง เบรก คลัชท์ เกียร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ทุกชนิด ด้วยเครื่องมือทันสมัย ทีมช่างมีประสบการณ์ ร้านอยู่เยื้องห้างบิ๊กซีคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดบริการทุกวันจันทร์ – เสาร์ 08.00 – 17.00 น.  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร/ไลน์ 0864910345

ทุกปัญหาเรื่องรถยนต์ คิดอะไรไม่ออกบอกธีระการช่าง 
#ธีระการช่าง #โช้ครถยนต์ไฟฟ้า #โช้คเนต้า #แต่งรถยนต์ #ซ่อมรถยนต์หาดใหญ่ #โช้คอัพภาคใต้
--------------
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแหนบ
แหนบ คือ เหล็กสปริงที่ช่วยในการรับน้ำหนักยืดหยุ่นและทำให้เกิดความนิ่มนวลแก่ผู้ใช้รถวัตถุดิบที่ใช้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นเหล็กพิเศษซึ่งมีสปริงอยู่ในตัว เมื่อกดแล้วจะสปริงคืนตัว แหนบสปริงไม่ใช่เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง ประเทศไทยยังไม่ได้ผลิตเหล็กแหนบสปริง  มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ผลิตเหล็กแหนบสปริงได้

การทำงานของแหนบ
ทำงานโดยอาศัยการโค้งงอหรือแอ่นของแผ่นเหล็กสปริงซึ่งโค้งเป็นรูปวงรี (Semi-Ellipse) โดยติดตามแนวยาวกับตัวรถทั้งสองข้างล้อๆ ละตับ หรือติดขวางกับตัวรถแล้วแต่ผู้ออกแบบ

แหนบตับ (Multileaf Spring)
ประกอบด้วยแหนบหลายแผ่นที่มีขนาดความยาวแตกต่างลดหลั่นกันตามลำดับวางซ้อนกันเป็นตับ  ตรงกลางมีรูโดยการใช้สกรูยึดให้ทุก ๆ แผ่นติดกัน สกรูยึดนี้ เรียกว่าสะดือแหนบ (Center bolt) เมื่อล้อเต้นขึ้นลงหรือตกหลุม ทำให้แหนบเด้งขึ้นลงตาม ส่วนปลายแหนบก็จะอ้าออกจากกัน  เพื่อป้องกันการแยกออกของแผ่นแหนบ จึงจำเป็นต้องมีเหล็กรัดแหนบ (Rebound Cilps) หรือที่เรียกว่า "แหนบตัวรัด" ลักษณะของแหนบตัวที่หนึ่งจะมีลักษณะเป็นตัวยาวที่ปลายทั้งสองข้างม้วนเป็นวงกลมเรียกว่า "ตัวหู" (Spring eyes) เป็นตัวยึดกับโครงรถโดยมีบู๊ชหูแหนบ (Bushings) มีหน้าที่ช่วยป้องกันหูแหนบสึกเร็ว 

ซึ่งบู๊ชส่วนมากทำด้วยยางและทองเหลือง  ส่วนสลักแหนบ (Spring Bolts) เป็นตัวยึดตรึงให้แหนบอยู่กับที่และรับแรงทางด้านต่าง ๆ จากเพลาล้อผ่านแหนบเข้าสู่โครงรถ เช่น แรงจากการเบรก ทำให้แรงจากเบรกล้อผ่านแหนบเข้าสู่โครงรถ เป็นต้น ส่วนปลายแหนบอีกด้านหนึ่งจะมีโตงเตงหูแหนบ (Spring shackle) เป็นตัวแขวนแหนบเข้ากับเต้าโตงเตงหูแหนบ (Shackle Bracket) ซึ่งยึดแน่นกับโครงรถ โตงเตงหูแหนบสามารถโยกแกว่งไปมาบนเต้าโตงเตง หรือที่เรียกว่า ตุ๊กตา ทำให้แหนบสามารถยืดเข้าออกได้ เพราะขณะรับน้ำหนักภาระต่าง ๆ แหนบจะแอ่นตัวและความยาวเพิ่มขึ้น ขณะที่ล้อลงหลุม แหนบจะฟรีไม่รับน้ำหนัก ความยาวของแหนบจะลดลง เพราะความโค้งของแหนบที่ได้รับการออกแบบไว้

แหนบบางตับจะเพิ่มความแข็งแรงให้กับหูแหนบโดยการม้วนปลายทั้งสองข้างของแผ่นที่สองให้รัดครอบ หูแหนบของแผ่นแรกเรียกว่า 2 งอ และถ้าจะให้แข็งแรงมากขึ้นก็ควรเสริมตัวตรงอีก 1 ตัว (สำหรับรถใช้บรรทุกหนัก) 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.yongkee.com
#7
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานฯ ณ โรงเรียนวัดช่องเขา 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567  ผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  และพนักงานจ้างเหมาเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเพื่อสร้างความตระหนักรู้สู่สังคม โดยร่วมกันทำความสะอาด กวาดขยะ ตัดหญ้า ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ  ณ โรงเรียนวัดช่องเขา หมู่ที่ 4 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

ภาพ : สุธิพร/นิธิวดี
ข่าว : ธัญนุช
#8
ข่าวสงขลา / กฟผ. ออกบูธนิทรรศการในงาน SITE...
กระทู้ล่าสุด โดย สงขลามีเดีย - 09:29 น. วันที่ 14 02 67
กฟผ.ออกบูธนิทรรศการในงาน SITE 2024 มหกรรมด้านการวิจัยและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้

เมื่อวันที่ 1 – 4 กุมภาพันธ์ 2567 กฟผ. ร่วมออกบูธนิทรรศการในงาน Southern Innovation and Technology Expo 2024 (SITE 2024) ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ซึ่งในงานได้รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้านพลังงาน ดิจิทัล อาหารและการเกษตร และสุขภาพ เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมเส้นทางสู่ความสำเร็จสำหรับนักลงทุน SMEs และนักวิจัยผ่านการออกบูธและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

โดยภายในงานเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน (ชยย.) ได้กล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "EGAT's Mission to Sustainability : ไฟฟ้ามั่นคง เพื่อสังคมที่ยั่งยืน" และเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ได้รับเกียรติจากนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบเกียรติบัตรเพื่อแสดงความขอบคุณในการสนับสนุนการจัดงาน และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของ กฟผ.

ทั้งนี้ กฟผ. ได้จัดแสดงนิทรรศการ "EGAT's Mission to Sustainability" เป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (EGAT Carbon Neutrality) ผ่านกลยุทธ์ Triple "S" พร้อมนำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า Elex by Egat, Smart Energy Solutions นวัตกรรมจัดการพลังงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมธุรกิจสีเขียว รวมถึงเชิญชวนหน่วยงานและผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ สมัครเข้าร่วมโครงการที่ปรึกษาพลังงาน และโรงแรมเบอร์ 5 เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน

ภาพ : จิตวัต/เกตุวลี/ดนยา
ข่าว : จิตวัต
#9
ทอสเท็ม ตะลุยแดนใต้ เดินหน้าต่อเนื่อง โครงการ TOSTEM Knowledge Sharing จับมือคณะสถาปัตยฯ ม.อ.วิทยาเขตตรัง เสริมทักษะความรู้การออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม
 
TOSTEM Knowledge Sharing โครงการส่งเสริมทักษะ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ที่จัดดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องให้กับนักศึกษามหาวิทยาชั้นนำของไทย ล่าสุด ทอสเท็ม พาตะลุยแดนใต้จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของระบบประตูหน้าต่าง วัสุดที่ใช้ในการผลิต ประเภทของประตู-หน้าต่าง รวมทั้งด้านงานดีไซน์การออกแบบ มาตรฐานของประสิทธิภาพขั้นพื้นฐาน ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เพิ่มพูนทักษะผ่านโปรแกรมการอบรมภาคปฎิบัติกับผู้เชี่ยวชาญ และร่วมทำเวิร์กช็อปแลกเปลี่ยนความรู้
 
นายวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) เปิดเผยว่า สำหรับโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing เป็นโครงการที่มุ่งหวังในการส่งเสริมทักษะ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูปให้กับนักศึกษามหาวิทยาชั้นนำของไทย ซึ่งได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ทาง TOSTEM ได้มาเยือนถิ่นแดนใต้ จัดกิจกรรมให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง โดยจัดให้มีการบรรยายพิเศษในวิชาวัสดุและการก่อสร้างประยุกต์ (Applied Construction Materials) พร้อมจัดกิจกรรม เวิร์กช็อป ในกิจกรรม TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในหัวข้อเรื่อง "ระบบวัสดุประเภทประตูหน้าต่าง และการออกแบบวัสดุประเภทอะลูมิเนียม" โดยเนื้อหาที่ทาง TOSTEM เตรียมมาให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประกอบไปด้วย 1. ประวัติ และความเป็นมาของระบบประตู-หน้าต่าง 2. ประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานของประตู-หน้าต่าง 3. วัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตประตู-หน้าต่าง 4. ประเภทและการใช้งานของประตู-หน้าต่าง 5. ประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานและมาตรฐานของประตู-หน้าต่าง 6. ดีไซน์ และการออกแบบ พร้อมกิจกรรม Product Assembling Workshop ให้นักศึกษาได้ทดลองประกอบชิ้นงานผลิตภัณฑ์จริง
 
อาจารย์วรวุฒิ มัธยันต์ รักษาการแทน Liรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ ในโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับนักศึกษาที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ เนื่องจากได้มีโอกาสเรียนรู้ เสริมทักษะ ความเข้าใจต่างๆ ในเรื่องของกรอบประตู-หน้าต่าง จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงอย่าง TOSTEM ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำงานจริง ทั้งในเชิงวิชาการที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ประเภทของวัสดุที่เลือกใช้ และเรื่องของมาตรฐานต่างๆ ในส่วนภาคปฏิบัติก็ได้มีโอกาสในการทดสอบกับตัวผลิตภัณฑ์จริง ได้สัมผัสวัสดุจริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวนักศึกษา และสามารถนำไปต่อยอดในการเรียน และไปประยุกต์ใช้ในชีวิตการทำงานจริงต่อไป
 
นางสาววารินทร์ ศรีหะรัญ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมบรรยายพิเศษ ในโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์กับนักศึกษามากๆ สามารถนำความรู้ และทักษะ ที่ได้จากกิจกรรมในครั้งนี้มาปรับใช้ในวิชาเรียนที่ตน และเพื่อนๆ กำลังศึกษาอยู่ และรู้สึกประทับใจกับช่วงกิจกรรม Workshop ที่ได้ลงมือทำ ได้ลองประกอบสินค้าจริง และยังได้เรียนรู้ในเรื่องงานกรอบประตู-หน้าต่าง ทั้งในเรื่องประวัติความเป็นมาของประตู-หน้าต่างในแต่ละยุค ประเภทของวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ในการผลิต ประเภทของประตู-หน้าต่างในปัจจุบันมีกี่ประเภทบ้าง และความสำคัญของประสิทธิภาพ และมาตรฐานในการตรวจสอบที่ใช้ในการผลิต รวมไปถึงเรื่องของการดีไซน์ การออกแบบ ซึ่งต้องขอขอบคุณทางอาจารย์ และทาง TOSTEM ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ และอยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีก เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มาทดลอง ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ
 
โครงการ TOSTEM Knowledge Sharing ตั้งเป้าที่จะดำเนินการจัดกิจกรรมให้กับมหาวิทยาลัย หรือ สถาบันการศึกษาที่สนใจทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยยกระดับการทำงานของนักออกแบบ และสถาปนิก รุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะต่างๆ และเทคโนโลยี ของ TOSTEM ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ให้กับนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย  เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานต่อไปในอนาคต เป็นการยกระดับการทำงาน เพิ่มพูนองค์ความรู้ ทักษะ รวมถึงเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในท้องตลาด ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอในชีวิตการทำงานจริงในสายอาชีพของ นักออกแบบ หรือสถาปนิก
 
TOSTEM Knowledge Sharing พร้อมเปิดโอกาสให้กับน้องๆ นักศึกษา และสถาปนิกรุ่นใหม่ที่สนใจ เรียนรู้ เสริมทักษะเรื่องกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณธารารัตน์ เงินชารี ฝ่ายการตลาด TOSTEM เบอร์โทร 02-901-4455 ต่อ 4221, 098-991-4692
#10
โรงไฟฟ้าจะนะ เป็นตัวแทน กฟผ. ร่วมงานประชุม The 49th International Congress on Science, Technology and Technology-based Innovation (STT49)
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 นายชนาธิป  ชิตพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ และนายนพรัตน์ เดิมคลัง หัวหน้ากองเดินเครื่อง เป็นตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าร่วมงานประชุม The 49th International Congress on Science, Technology and Technology-based Innovation (STT49)  ภายใต้หัวข้อ "SDGs FOR THE BENEFIT OF MANKIND" ซึ่งจัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
นอกจากนี้ยังมีการเชิญ อาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั้งภายในและต่างประเทศ นำเสนอผลงานวิจัย และเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลใหม่ๆ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชาวไทยและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 23 – 25 มกราคม 2567 ณ คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่ และ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี จังหวัดสงขลา

ภาพ/ข่าว : ธัญนุช