Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - สงขลามีเดีย

#1
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าวและฉลองซัง โครงการปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านป่าชิง ณ ทุ่งนาบ้านป่าชิง ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา 

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 นายเขมญาติ ยมานันตกุล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  และพนักงานจ้างเหมาเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าวและฉลองซัง โครงการปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านป่าชิง (โรงเรียนนี้มีรัก ปลูกข้าวกินเอง) ณ ทุ่งนาบ้านป่าชิง ตำบลป่าชิง  อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยมีนายนิพนธ์ ชิตมณี  ปลัดอาวุโสอำเภอจะนะ เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งกิจกรรมในวันนี้มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น โรงเรียนในตำบลป่าชิงและใกล้เคียง รวมไปถึงประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ในการเกี่ยวข้าวและสืบสานประเพณีที่มีมานานให้คงอยู่ตลอดไป

ภาพ : จิตวัต/เกตุวลี 
ข่าว : เกตุวลี
#2
โรงไฟฟ้าจะนะร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้  ณ  โรงเรียนวัดบ้านไร่ 

วันที่ 5 มีนาคม 2567 นางธัญนุช พูลสวัสดิ์ วิทยากรระดับ 6  พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลโดยทั่วไปของโรงไฟฟ้าจะนะ ในกิจกรรม "ตลาดนัดวิชาการ ไร่ ป่า ทุ่ง พอเพียง" ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ณ โรงเรียนวัดบ้านไร่ ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยมีคุณอำภา เวรสารศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมนิทรรศการของโรงไฟฟ้าจะนะด้วย

ซึ่งการจัดงานดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนวัดบ้านไร่  โรงเรียนบ้านป่าชิง  และโรงเรียนวัดทุ่งพระ  ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ และการขายอาหารเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการด้านวิชาการและวิชาชีพ  ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เรียนดี มีความสุข จับมือแล้วไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ทางโรงฟ้าจะนะได้นำเจ้าหน้าที่ของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ ไปประชาสัมพันธ์เชิญชวนคุณครู ผู้ปกครอง  และน้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวให้เข้าไปเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ ในช่วงปิดเทอมที่ใกล้จะถึงนี้

ภาพ : จารุพรรณ/กนกวรรณ
ข่าว : ธัญนุช
#3
สงขลา-พัทลุง กับก้าวต่อไปเพื่อไทยลีก2

บทสรุปฟุตบอลไทยลีก3 โซนใต้ปีนี้ เงือกสมิหลา สงขลาเอฟซี โชว์ฟอร์มอย่างสวยงาม แข่ง 22 ชนะ 17 เสมอ 5 แพ้ 0 ยิงได้ถึง 46 เสียแค่ 7 ประตู เก็บถึง 56 คะแนน คว้าแชมป์โซนได้อย่างงดงามตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล ส่วนอีกทีมที่ได้สิทธิ์เพลย์ออฟคือ อีแอ่นเหิรฟ้า พัทลุงเอฟซี แข่ง 22 ชนะ 14 เสมอ 6 แพ้ 2 มี 48 คะแนน ควว้ารองแชมป์โซนใต้ และขอส่งกำลังใจให้ทัพพะยูนพิฆาต ตรังเอฟซี ที่ประกาศปิดตำนานหลังอยู่อันดับสุดท้ายและต้องพักทีม 1 ฤดูกาลแต่ทราบว่าทางบอร์ดบริหารไม่ทำทีมต่อแล้ว

เส้นทางสู่ไทยลีก2 ไม่ใช่งานง่านเพราะ 12 ทีมจาก 6 โซนต้องมาเพลย์ออฟ เพื่อคัดเอาแค่ 3 ทีมดีที่สุดเท่านั้น เงือกสมิหลากับอีแอ่นเหิรฟ้า จะมีดีพอต่อกรกับทีมอื่นๆ เพื่อเป็นตัวแทนภาคใต้ในลีกพระรอง ซึ่งตอนนี้มีนครศรียูไนเต็ด ที่อยู่ในโซนลุ้นเลื่อนชั้น และกระบี่เอฟซี ที่มีโอกาสตกชั้นสูงโลดแล่นอยู่ ส่วนลีกสูงสุดยังไม่มีตัวแทนภาคใต้เลย เอาเป็นว่าขอเชียืสงขลา-พัทลุง ให้ก้าวสู่ไทยลีก2 ให้ได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะสงขลา ปีนี้ต้องห้ามพลามดเด็ดขาดนะครับ

--------------------
บทความน่าสนใจจากเพจไทยลีก 3
สงขลา เอฟซี เงือกสมิหลาผู้ท้าทายคลื่นลม

ขวบปีที่ผ่านมาของ สงขลา เอฟซี อาจจะเป็นขวบปีที่หลายๆ คนอยากลืมเลือน หลังมิอาจเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ได้ ทั้งที่มีการเสริมทัพผู้เล่นดีกรีระดับไทยลีก และโค้ชดีกรีโปรไลเซนส์ มาร่วมงาน โดยทำได้เพียงเป็นแชมป์โซนภาคใต้เท่านั้น

ทำให้ปีนี้ ทีมตัดสินใจลดขนาดทีมลง สตาร์ดังระดับไทยลีก ตบเท้าอำลาทีม สวนทางกับแข้งท้องถิ่นเลือดปักษ์ใต้เดินทางเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม พร้อมกับดึงตัว ไดกิ ฮิกูชิ อดีตแข้งชลบุรี เอฟซี กลับมารับงานกุนซือของทีมอีกคำรบ

แต่เมื่อหันไปดูเจ้าบุญทุ่มโซนใต้ของปีนี้ ทั้ง ปัตตานี เอฟซี และ พัทลุง เอฟซี ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า สงขลา เอฟซี จะมีทิศทางอย่างไรในฤดูกาล 2023/24

แต่เมื่อออกสตาร์ทฤดูกาล สงขลา เอฟซี ค่อยๆ สร้างผลงานและเก็บแต้มต่อเนื่อง โดยหลังจบเลกแรกพวกเขาจบด้วยการ "ไร้พ่าย" โดยเป็นหนึ่งใน 7 ทีมที่ทำได้หลังจบเลกแรก

นอกจากนี้พวกเขายังสร้างผลงานสะเทือนเลือนลั่น โดยเฉพาะในรายการรีโว่ คัพ รอบ 32 ทีม ที่เปิดบ้านล้มยักษ์จากไทยลีก อย่าง โปลิศ เทโร ด้วยสกอร์ 5-2

ซึ่งส่วนหนึ่ง มาจากขุมกำลังท้องถิ่นที่รู้ใจกัน ไม่ว่าจะเป็น จารุเดช หล๊ะหมูด นายทวารจาก อ.สะเดา ที่เก็บไป 6 คลีนชีท จาก 11 เกมที่ลงสนาม, อับดุลฮาฟิส นิบู กองหลังกัปตันทีมที่เป็นหัวใจและผู้นำในเกมรับ รวมไปถึงการได้ วิกเตอร์ คาปินัน กองหลังชาวบราซิล เขามาประสานเกมรับให้เหนียวแน่น รวมไปถึงแนวรุกที่มี อันวา อาลีมามะ และ อิเคเน่ อซิเก้ สองคู่หูที่กดประตูรวมกันกว่า 14 ประตูในเลกแรก

สิ่งที่ต้องติดตามจากนี้ คือการที่พวกเขามีลุ้นถ้วยทุกใบกับขนาดทีมที่ไม่ได้ใหญ่ โค้ชไดกิ และผองเพื่อนเงือกสมิหลา จะสามารถทำผลงานได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะเลกสองที่หลายๆ ทีมเริ่มเดินเครื่องเสริมทัพเพื่อสู้กันต่อ นี่จึงเป็นความท้าทายสำคัญที่ทีมจะต้องพบเจอในครึ่งหลังของฤดูกาลนี้

#ThaiLeague3 #ไทยลีก3 #ฟุตบอลไทย #บอลไทย #ปุ๋ยรุ่งอรุณลีก #ปุ๋ยรุ่งอรุณ #ศึกศักดิ์ศรีแห่งภูมิภาค


#4
สำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จัดโครงการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม และผู้ประกอบการ นิทรรศการนวัตกรรมผู้ประกอบการและส่งเสริมการตลาด ภายใต้โครงการการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมสู่การยกระดับศักยภาพธุรกิจรูปแบบใหม่ ในระหว่างวันที่ 19 - 23 กุมภาพันธ์ 2567  ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดยมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ได้รับเกียรติ ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน รศ.วรพงค์ บุญช่วยแทน ผู้อำนวยการสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กล่าวรายงาน ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ ร่วมกล่าวต้อนรับ และมีคณะผู้บริหาร นักวิจัย วิทยากร ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมมีบรรยายในหัวข้อ การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดย ผศ.พญ. นลินี โกวิทวนาวงษ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และแนวคิดการทำธุรกิจนวัตกรรม โดยคุณวรนล ฐิตินันทกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูเบอร์ จำกัด
สำหรับโครงการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม และผู้ประกอบการ นิทรรศการนวัตกรรมผู้ประกอบการและส่งเสริมการตลาด ภายใต้โครงการการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมสู่การยกระดับศักยภาพธุรกิจรูปแบบใหม่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี  มทร.ศรีวิชัย ได้ดำเนินโครงการภายใต้โปรแกรม 25 (P25) แผนงานย่อยพัฒนาระบบและกลไกสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศ ววน. แผนงานย่อยรายประเด็น "แผนงานพัฒนาระบบ ววน. ในสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพลิกโฉมมหาวิทยาลัย" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถศักยภาพของผู้ประกอบการในการพัฒนายกระดับสถานประกอบการด้วยผลงานวิจัยและนวัตกรรม และเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างนักวิจัย และผู้ประกอบการ ซึ่งทางโครงการได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อนำไป Matching ร่วมกับผู้ประกอบการ และสร้างสรรค์เป็นผลงานในวันนี้ จำนวน 10 ผลงาน อันประกอบด้วย
1. เครื่องคัดขนาดไข่นกกระทาด้วยเทคโนโลยี Image Processing / ห้างหุ้นส่วนจำกัด อคินฟาร์ม
2. ตู้ตากพริกไทยพลังงานทางเลือกในการผลิตพริกไทยพรีเมี่ยม / บริษัท บ้านสวนมรดกพริกไทยตรัง จำกัด
3. Kombucha จากเปลือกและชาดอกกาแฟ / บริษัท อินโนเวทีฟ คอฟฟี่ จำกัด
4. ระบบควบคุมการฟักไข่แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT / บริษัท เอพีเอ็น ไอที โซลูชั่น จำกัด
5. อุปกรณ์แยกชิ้นงานออกจากเครื่องขัดผิว / บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด
6. เครื่องปอกไข่ไก่ต้มด้วยระบบอัตโนมัติ / บริษัท ที เอ็น เซอร์วิส
7. กระถางต้นไม้รักษ์โลก / โรงปูน อุ่นดิน
8. raw organic rice / สวนตาเชยเกษตรฟาร์ม
9. ผลิตภัณฑ์เจลนวดน้ำมันปาล์มแดงกัญชา / บริษัท เคโอซีพี จำกัด
10. ไซเดอร์มังคุดผสมน้ำผึ้งพร้อมดื่ม / ห้างหุ้นส่วนจำกัดวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทยวิถีชุมชน
รศ.วรพงค์ บุญช่วยแทน ผู้อำนวยการสำนักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี  มทร.ศรีวิชัย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า งานในครั้งนี้ยังกิจกรรมนำเสนอ Demo Day เพื่อประกวดนวัตกรรมที่พัฒนาผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และยกย่องเชิดชูผลงานดีเด่น  3 ประเภท ซึ่งมีผลการประกวดมีดังนี้
ประเภทผลิตภัฑ์ต้นแบบ 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ ตู้ตากพริกไทยพลังงานทางเลือกในการผลิตพริกไทยพรีเมี่ยม
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เครื่องปอกไข่ไก่ต้ม
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เครื่องคัดขนาดไข่นกกระทาด้วยเทคโนโลยี Image Processing
- รางวัลชมเชย ระบบควบคุมการฟักไข่แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT
ประเภทผู้ประกอบการต้นแบบ 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ Innovative Coffee
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 บริษัท บ้านสวนมรดกพริกไทยตรัง จำกัด
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงปูนอุ่นดิน
- รางวัลชมเชย สวนตาเชยเกษตรฟาร์ม
ประเภทบุคลากรพัฒนาผู้ประกอบการดีเด่น 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ อาจารย์ณัฐรดา บุญถัด อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐานวิทย์ แนมใส และอาจารย์ธีระวัฒน์ เพชรดี อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ดร.บุญเรือน สรรเพชร และอาจารย์วันทนา สังข์ชุม อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- รางวัลชมเชย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สายใจ แก้วอ่อน อาจารย์ประจำคณะอุตสาหกรรม และ ดร.พิมพิศา พรหมมา วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ
"มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่หลากหลาย ในส่วนของโครงการนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างอาจารย์กับผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันส้างผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งด้านนวัตกรรม เพื่อยกระดับให้มีความสารถในการแข่งขันทั้งด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และการตลาด การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อร่วมสร้างให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีความเข้มแข็งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ"
#5
อพท. จับมือ มทร.ศรีวิชัย ร่วมพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา

 (16 กุมภาพันธ์ 2567) ณ โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยมี ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวต้อนรับ นายสมเกียรติ อำนวยสุวรรณ รองผู้จัดการ อพท.ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายรังษี รัตนปราการ นายกภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา ผศ.อุดร นามเสน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นักวิจัย ตลอดจนองค์กรภาครัฐ – เอกชน และภาคีเครือข่ายพี่น้องประชาชนเข้าร่วม

สำหรับโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) เพื่อให้พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามขีดความสามารถในการรองรับ และช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ไม่ถูกทำลาย เกิดเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามแนวทางของเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) และเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยภายในงานมีการนำเสนอผลการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 แหล่ง 3 มาตรการ ได้แก่
- พื้นที่ทะเลน้อย ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ใช้มาตรการลดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ
- พื้นที่เกาะหมาก ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ใช้มาตรการการท่องเที่ยวแผนพัฒนาการท่องเที่ยวตำบลเกาะหมาก จังหวัดพัทลุง
- พื้นที่เมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ใช้มาตรการเปลี่ยนจุดห้ามจอดเป็นจุดเช็คอิน
สำหรับการคัดเลือกมาตรการมาใช้นั้นได้จากผลการศึกษาดำเนินการนำร่องการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมและเป็นแนวปฏิบัติที่ดี

นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า "จังหวัดสงขลา ได้พัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขับเคลื่อนสงขลาสู่การเป็นเมืองมรดกโลก การจัดโครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ทรัพยากรธรรมชาติและชุมชนที่มีอยู่ไม่เข้มแข็ง ก็จะเกิดความไม่สมดุลได้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย รวมทั้งท้องถิ่น/ท้องที่ ภาคีเครือข่ายพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันศึกษาเรื่องดังกล่าว ตามเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

รวมทั้งการใช้ทรัพยากรในระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำหรือทางบก ที่จะต้องสมดุลกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องการศึกษาความสามารถในการรองรับ ก็จะเป็นเรื่องสำคัญทั้งการเตรียมการไม่ว่าจะเป็นการผลักดันสงขลาสู่เมืองมรดกโลกหรือการรองรับนักท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าจังหวัดสงขลามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยอะที่สุดติดอันดับของประเทศ เพราะฉะนั้นตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เราจำเป็นต้องส่งเสริมและสนับสนุนบวกกับต้องมีความพร้อมของพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคส่วนของพี่น้องประชาชนด้วย"
       
ด้าน ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวว่า มทร.ศรีวิชัย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณสนับสนุนโครงการจาก อพท. โดยมีหน้าที่ในการศึกษาขีดความสามารถของชุมชนในแต่ละพื้นที่ การลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชุมชน และทำงานร่วมทุกภาคส่วนนื้ที่ โดยภายในงานวันนี้มีการนำเสนอผลการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 แหล่ง 3 มาตรการ และการคัดเลือกมาตรการที่ได้จากผลการศึกษาดำเนินการนำร่องการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมและเป็นแนวปฏิบัติที่ดีและยั่งยืนต่อไป
#6
โรงไฟฟ้าจะนะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานฯ ณ โรงเรียนวัดช่องเขา 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567  ผู้ปฏิบัติงานโรงไฟฟ้าจะนะ  และพนักงานจ้างเหมาเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเพื่อสร้างความตระหนักรู้สู่สังคม โดยร่วมกันทำความสะอาด กวาดขยะ ตัดหญ้า ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ  ณ โรงเรียนวัดช่องเขา หมู่ที่ 4 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

ภาพ : สุธิพร/นิธิวดี
ข่าว : ธัญนุช
#7
กฟผ.ออกบูธนิทรรศการในงาน SITE 2024 มหกรรมด้านการวิจัยและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้

เมื่อวันที่ 1 – 4 กุมภาพันธ์ 2567 กฟผ. ร่วมออกบูธนิทรรศการในงาน Southern Innovation and Technology Expo 2024 (SITE 2024) ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ซึ่งในงานได้รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้านพลังงาน ดิจิทัล อาหารและการเกษตร และสุขภาพ เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมเส้นทางสู่ความสำเร็จสำหรับนักลงทุน SMEs และนักวิจัยผ่านการออกบูธและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

โดยภายในงานเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน (ชยย.) ได้กล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "EGAT's Mission to Sustainability : ไฟฟ้ามั่นคง เพื่อสังคมที่ยั่งยืน" และเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ได้รับเกียรติจากนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบเกียรติบัตรเพื่อแสดงความขอบคุณในการสนับสนุนการจัดงาน และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของ กฟผ.

ทั้งนี้ กฟผ. ได้จัดแสดงนิทรรศการ "EGAT's Mission to Sustainability" เป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (EGAT Carbon Neutrality) ผ่านกลยุทธ์ Triple "S" พร้อมนำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า Elex by Egat, Smart Energy Solutions นวัตกรรมจัดการพลังงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมธุรกิจสีเขียว รวมถึงเชิญชวนหน่วยงานและผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ สมัครเข้าร่วมโครงการที่ปรึกษาพลังงาน และโรงแรมเบอร์ 5 เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน

ภาพ : จิตวัต/เกตุวลี/ดนยา
ข่าว : จิตวัต
#8
ทอสเท็ม ตะลุยแดนใต้ เดินหน้าต่อเนื่อง โครงการ TOSTEM Knowledge Sharing จับมือคณะสถาปัตยฯ ม.อ.วิทยาเขตตรัง เสริมทักษะความรู้การออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม
 
TOSTEM Knowledge Sharing โครงการส่งเสริมทักษะ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ที่จัดดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องให้กับนักศึกษามหาวิทยาชั้นนำของไทย ล่าสุด ทอสเท็ม พาตะลุยแดนใต้จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของระบบประตูหน้าต่าง วัสุดที่ใช้ในการผลิต ประเภทของประตู-หน้าต่าง รวมทั้งด้านงานดีไซน์การออกแบบ มาตรฐานของประสิทธิภาพขั้นพื้นฐาน ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เพิ่มพูนทักษะผ่านโปรแกรมการอบรมภาคปฎิบัติกับผู้เชี่ยวชาญ และร่วมทำเวิร์กช็อปแลกเปลี่ยนความรู้
 
นายวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) เปิดเผยว่า สำหรับโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing เป็นโครงการที่มุ่งหวังในการส่งเสริมทักษะ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูปให้กับนักศึกษามหาวิทยาชั้นนำของไทย ซึ่งได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ทาง TOSTEM ได้มาเยือนถิ่นแดนใต้ จัดกิจกรรมให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง โดยจัดให้มีการบรรยายพิเศษในวิชาวัสดุและการก่อสร้างประยุกต์ (Applied Construction Materials) พร้อมจัดกิจกรรม เวิร์กช็อป ในกิจกรรม TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในหัวข้อเรื่อง "ระบบวัสดุประเภทประตูหน้าต่าง และการออกแบบวัสดุประเภทอะลูมิเนียม" โดยเนื้อหาที่ทาง TOSTEM เตรียมมาให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประกอบไปด้วย 1. ประวัติ และความเป็นมาของระบบประตู-หน้าต่าง 2. ประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานของประตู-หน้าต่าง 3. วัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตประตู-หน้าต่าง 4. ประเภทและการใช้งานของประตู-หน้าต่าง 5. ประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานและมาตรฐานของประตู-หน้าต่าง 6. ดีไซน์ และการออกแบบ พร้อมกิจกรรม Product Assembling Workshop ให้นักศึกษาได้ทดลองประกอบชิ้นงานผลิตภัณฑ์จริง
 
อาจารย์วรวุฒิ มัธยันต์ รักษาการแทน Liรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ ในโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับนักศึกษาที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ เนื่องจากได้มีโอกาสเรียนรู้ เสริมทักษะ ความเข้าใจต่างๆ ในเรื่องของกรอบประตู-หน้าต่าง จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงอย่าง TOSTEM ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำงานจริง ทั้งในเชิงวิชาการที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ประเภทของวัสดุที่เลือกใช้ และเรื่องของมาตรฐานต่างๆ ในส่วนภาคปฏิบัติก็ได้มีโอกาสในการทดสอบกับตัวผลิตภัณฑ์จริง ได้สัมผัสวัสดุจริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวนักศึกษา และสามารถนำไปต่อยอดในการเรียน และไปประยุกต์ใช้ในชีวิตการทำงานจริงต่อไป
 
นางสาววารินทร์ ศรีหะรัญ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมบรรยายพิเศษ ในโครงการ TOSTEM Knowledge Sharing at PSU ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์กับนักศึกษามากๆ สามารถนำความรู้ และทักษะ ที่ได้จากกิจกรรมในครั้งนี้มาปรับใช้ในวิชาเรียนที่ตน และเพื่อนๆ กำลังศึกษาอยู่ และรู้สึกประทับใจกับช่วงกิจกรรม Workshop ที่ได้ลงมือทำ ได้ลองประกอบสินค้าจริง และยังได้เรียนรู้ในเรื่องงานกรอบประตู-หน้าต่าง ทั้งในเรื่องประวัติความเป็นมาของประตู-หน้าต่างในแต่ละยุค ประเภทของวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ในการผลิต ประเภทของประตู-หน้าต่างในปัจจุบันมีกี่ประเภทบ้าง และความสำคัญของประสิทธิภาพ และมาตรฐานในการตรวจสอบที่ใช้ในการผลิต รวมไปถึงเรื่องของการดีไซน์ การออกแบบ ซึ่งต้องขอขอบคุณทางอาจารย์ และทาง TOSTEM ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ และอยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีก เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มาทดลอง ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ
 
โครงการ TOSTEM Knowledge Sharing ตั้งเป้าที่จะดำเนินการจัดกิจกรรมให้กับมหาวิทยาลัย หรือ สถาบันการศึกษาที่สนใจทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยยกระดับการทำงานของนักออกแบบ และสถาปนิก รุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะต่างๆ และเทคโนโลยี ของ TOSTEM ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ให้กับนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย  เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานต่อไปในอนาคต เป็นการยกระดับการทำงาน เพิ่มพูนองค์ความรู้ ทักษะ รวมถึงเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในท้องตลาด ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอในชีวิตการทำงานจริงในสายอาชีพของ นักออกแบบ หรือสถาปนิก
 
TOSTEM Knowledge Sharing พร้อมเปิดโอกาสให้กับน้องๆ นักศึกษา และสถาปนิกรุ่นใหม่ที่สนใจ เรียนรู้ เสริมทักษะเรื่องกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณธารารัตน์ เงินชารี ฝ่ายการตลาด TOSTEM เบอร์โทร 02-901-4455 ต่อ 4221, 098-991-4692
#9
โรงไฟฟ้าจะนะ เป็นตัวแทน กฟผ. ร่วมงานประชุม The 49th International Congress on Science, Technology and Technology-based Innovation (STT49)
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 นายชนาธิป  ชิตพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าจะนะ และนายนพรัตน์ เดิมคลัง หัวหน้ากองเดินเครื่อง เป็นตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าร่วมงานประชุม The 49th International Congress on Science, Technology and Technology-based Innovation (STT49)  ภายใต้หัวข้อ "SDGs FOR THE BENEFIT OF MANKIND" ซึ่งจัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
นอกจากนี้ยังมีการเชิญ อาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั้งภายในและต่างประเทศ นำเสนอผลงานวิจัย และเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลใหม่ๆ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชาวไทยและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 23 – 25 มกราคม 2567 ณ คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่ และ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี จังหวัดสงขลา

ภาพ/ข่าว : ธัญนุช
#10
NAT  ล่องใต้เดินหน้าให้ข้อมูลนักลงทุนโชว์ศักยภาพธุรกิจ โอกาสเติบโตสูง
            วันพุธที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 18.30 – 20.30 น. ณ โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา    บริษัท แนท แอบโชลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผนึก APM – FSS เดินสายโรดโซว์นำเสนอข้อมูลธุรกิจ และ ข้อมูลทางการเงิน แก่นักลงทุน 10 จังหวัดทั่วประเทศ วันที่ 15 – 26 ม.ค. 2567 ที่ปรึกษาการเงิน มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง นักลงทุนให้ความสนใจ ก่อนเตรียมขายไอพีโอ 92 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai
             นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเขท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส จำกัด (มหาชน) หรือ NAT เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน หรือ โรดโชว์ เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 92 ล้านหุ้น โดยมีกำหนดการเดินทางทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ ซลบุรี นครปฐม ราชบุรี พิษณุโลก นครสวรรค์  นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา และ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15 มกราคม – 26 มกราคม 2567
             นางสาวมธุรส สาราณียะธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM)     ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะ NAT ถือเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เนื่องจากมูลค่าตลาดของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ในระดับองค์กรที่มีอัตราการเติบโตสูง ขณะที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นฐานลูกค้าของ NAT ต่างมีแผนปรับปรุงระบบเพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสของบริษัทที่จะนำเสนอสินค้า บริการ และ โซลูชันทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างมูลค่าการเติบโตได้อีกมาก
     ปัจจุบันบริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT มีทุนจดทะเบียน 164 ล้านบาท มูลคำที่ตราไว้ (พาร์ หุ้นละ 0.50 บาท และ มีทุนที่เรียกชำระแล้ว 118 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (PO) จำนวน 92 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท และ จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
            นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech มุ่งเน้นการประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษา ออกแบบจัดหา จำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และ รับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology System Integration) ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก และให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น บริการเจ้าหน้าที่ไอที (IT Outsourcing) บริการเดินสายระบบเน็ตเวิร์ค (Cabling System) บริการงานด้านระบบภายในอาคาร(Mechanical and Electric : M&E) และ บริการให้เช่าอุปกรณ์ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับใช้ภายในสำนักงาน
            ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทที่เป็นหน่วยงานภาครัฐโดยมีสัดส่วนประมาณ 85% ที่มีแผนการลงทุนด้าน โครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโต และมีความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
        ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลังช่วงปี 2563 – 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 492.64 ล้านบาท 451.36 ล้านบาท และ 1,093.23 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 56.78 ล้านบาท 26.68 ล้านบาท และ 100.62 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทมีรายได้เติบโตเป็นไปตามแผนจากการเข้ารับงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,232.7 1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 97.50 ล้านบาท"หลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะสามารถขยายธุรกิจและให้บริการ เพิ่มศักยภาพการแข่งชันและ การเข้ารับงานโครงการต่าง ๆ กับกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้บริษัทมีความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจในธุรกิจและการเติบโตของบริษัท รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และ ความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้เป็นอย่างดี" นายสุรี กล่าว
#11
โรงไฟฟ้าจะนะให้ความอนุเคราะห์ห้องประชุมแก่เครือข่ายชมรมครูผู้ดูแลเด็กอำเภอจะนะ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 โรงไฟฟ้าจะนะให้ความอนุเคราะห์ห้องประชุมแก่เครือข่ายชมรมครูผู้ดูแลเด็กอำเภอจะนะ ในการจัดกิจกรรมวันครูแห่งชาติ ประจำปี 2567 ให้กับครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอำเภอจะนะ เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดให้วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เป็นวันครูแห่งชาติ และให้ครูได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน พร้อมทั้งมอบประกาศเกียรติคุณให้กับครูดีเด่นที่อุทิศตนให้กับการจัดการเรียนการสอนด้วย โดยมีนายนายวิญญู  สิงห์เสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี
#12
อุตสาหกรรมสงขลาร่วมกับท้องถิ่น-เอกชน จัดปล่อยปลาและปลูกต้นทองอุไรที่คลองแงะ สะเดา

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567  ณ บริเวณฝาย 935 ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา "สส.น้ำหอม" นางสาวสุภาพร กำเนิดผล  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เขต 6  พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมปล่อยปลาและปลูกต้นทองอุไร โดยมีนางจันทร์จิรา บางเสน อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กล่าวรายงาน นายสุวัฒ เลิศจิตต์ธรรม  นายกเทศมนตรีตำบลคลองแงะ กล่าวต้อนรับ
พร้อมกันนี้ยังมี นายเจริญ โอมณี  ประมงจังหวัดสงขลา ผู้แทนนายอำเภอสะเดา ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพังลา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปริก กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ ตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนบ้านคลองแงะ โรงเรียนกอบกุลวิทยาคม โรงเรียนวงศ์วิทย์ ผู้ประกอบการในพื้นที่ แขกผู้มีเกียรติ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหลายภาคส่วน
สส.น้ำหอม กล่าวว่า "ตามที่อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการผลักดันนโยบาย MIND ใช้ "หัว" และ "ใจ" ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ผ่านกิจกรรม "อุตสาหกรรมรวมใจ : ดูแลสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน" ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในฐานะผู้แทนราษฎร มีความตระหนักในเรื่องนี้ และเห็นว่านโยบายดังกล่าว สอดคล้องกับแนวความคิดของนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต่อสู้เรื่องสิ่งแวดล้อม โดยชูนโยบายการปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับต้นๆ มาตลอด
วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี ทีเห็นความร่วมมือร่วมใจของภาคอุตสาหกรรมในอำเภอสะเดา ในการร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เหมือนกับที่เราเน้นย้ำมาตลอดว่า "ผู้ประกอบการอยู่ได้พี่น้องประชาชนก็ต้องอยู่ได้" และเชื่อมั่นว่าพันธุ์ปลาที่ถูกปล่อยลงสู่คลอง ต้นทองอุไรที่ปลูกลงสู่ดิน จะสร้างคุณประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้"
โดยในวันนี้ผู้ร่วมงานได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาที่ได้รับการสนับสนุนจากประประมงจังหวัดสงขลา และการปลูกต้นทองอุไร จากผู้ประกอบการโณงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ร่วมสนับสนุน โดยเทศบาลตำบลคลองแงะ จะเป็นผู้ดูแลสานต่อการดูแลต้นไม้และสายน้ำต่อไป
#13
ททท.ปีนัง จัดกิจกรรม Famtrip นำผู้ประกอบการฯพร้อมสื่อมวลชนสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่

การท่องเที่ยวปีนัง จัดกิจกรรม Famtrip นำสื่อมวลชน สำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โปรโมทและชวนคนไทยเที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทัวร์ทั้งสองประเทศ พบปะแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านธุรกิจนำเที่ยว

การท่องเที่ยวปีนัง Penang Global Tourism จัดโครงการนำสื่อมวลชน อินฟูเรนเซอร์ และผู้ประกอบการท่องเที่ยว เดินทางไปยังรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 -17 ธันวาคม 2566 เพื่อร่วมสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตและสถานที่ใหม่ๆ ของรัฐปีนัง โดยมี YB Wong Hon Wai – Penang พร้อมด้วย นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง และคณะท่องเที่ยวปีนังให้การต้อนรับ

นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้ปริมาณคนไทยมาเที่ยวมาเลเซียประมาณ 2 ล้านคน ขณะที่คนมาเลเซียเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไทยประมาณ 4.3 ล้านคน จะเห็นว่าค่อนข้างต่างกัน ดังนั้นการท่องเที่ยวปีนัง มีความต้องการดึงดูดคนไทยให้เข้ามาท่องเที่ยวปีนังมากขึ้น จึงมีแนวคิดต้องการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทยที่ว่า การท่องเที่ยวต้องมีความยั่งยืนนั่นคือการพึ่งพาอาศัยกัน

จึงจัดกิจกรรมในรูปแบบ Famtrip พาสื่อมวลชน อินฟูเรนเซอร์ และผู้ประกอบการมาท่องเที่ยว สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย และนำภาพบรรยากาศเหล่านี้กลับไปประชาสัมพันธ์และเชิญชวนคนไทยมาเที่ยวให้มากขึ้น ขณะเดียวกันได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งฝั่งไทย และปีนัง พบปะพูดคุย วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกัน/ที่สำคัญรัฐบาลไทยเองก็มุ่งเน้นเรื่องของการส่งเสริมด้านความสัมพันธ์ในภาพรวม โดยเฉพาะระหว่างประชาชนกับประชาชน เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวจะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง

สำหรับการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในรัฐปีนัง สื่อมวลชน อินฟูเรนเซอร์ และผู้ประกอบการ ได้เยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจ อาทิ

- Dark Mansion - 3D Glow In The Dark Museum
พิพิธภัณฑ์เรืองแสงในที่มืดแบบ 3 มิติแห่งเดียวในมาเลเซีย ศิลปะร่วมสมัยแห่งนี้ผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับศิลปะ โดยมีเอฟเฟกต์เรืองแสงในที่มืดบนภาพวาด ซึ่งล้ำหน้ากว่าเทคนิคการวาดภาพ 3 มิติที่เปลี่ยนภาพวาดสองมิติเป็นภาพสามมิติ มีมุมให้โพสท่าสำหรับภาพถ่ายที่สร้างสรรค์

- Tropical Spice Garde
สวนป่าเขตร้อน มีพืชพันธุ์กว่า 500 ชนิด ข้างในมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิเช่น ทำอาหาร โยคะ เป็นต้น

- The Pinang Peranakan Mansion
พิพิธภัณฑ์ เพอรานากัน 2 วัฒนธรรม จีนและตะวันตก คฤหาสน์สีเขียวสุดโดดเด่น โอ่อ่า อลังการ รวบรวมสถาปัตยกรรมพร้อมสมบัติมีค่าข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของมหาเศรษฐีชาวจีนโพ้นทะเลที่มาตั้งถิ่นฐานบนเกาะนี้ ซึ่งบ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยทศวรรษที่ 1890

- Entopia by Penang Butterfly Farm
หนึ่งในสวนผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งมีผีเสื้อบินอิสระมากกว่า 15,000 ตัวสำรวจห้องเรียนและศูนย์กลางการค้นพบที่ใหญ่ที่สุด

- De'8000 Mini Golf Cafe
คาเฟ่มินิกอล์ฟ ที่มีมุมถ่ายมากมาย มีร้านอาหารและกิจกรรมตีกลอ์ฟมากกว่า 10 แบบ

- Ghost Museum
เป็นตึกแถว 2- 3 ห้อง มี 3 ชั้น มีการจัดแสดงผี  และสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอื่นๆ จากหลากหลายวัฒนธรรม ชวนสยองขวัญ ทุกห้องจะมีเสื้อผ้าวิกและพร็อพต่างๆ ให้ถ่ายเป็นผีไปด้วย แม้กระทั่งส้วมยังทำซะหลอน

- The Habitat Penang Hil
เส้นทางสำรวจธรรมชาติ บนปีนังฮิลล์ ที่เอาใจสายชิล ชอบเดินที่มีความน่าสนใจ และมุมถ่ายรูปสวยๆ โดยเฉพาะที่ Skywalk วงกลมที่มองเห็นเมืองปีนังได้แบบ 360 องศา

- Hin Bus Depot
สถานีรถบัสเก่าที่ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดนิทรรศการศิลปะในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงมีคาเฟ่และตลาดนัดขายของแฮนเมด

- Bertam Souk & Water Park
สวนน้ำกลางแจ้ง ที่มีทั้งห้องพัก และกิจกรรมต่างๆ ข้างในมากมาย

- Kampung Agong
โฮมสเตย์กัมปุงอากงที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดีย เป็นสถานที่สวยงาม มีที่พัก มุมถ่ายภาพ ร้านค้า คาเฟ่ ขี่ม้า ปั่นจักรยาน และพื้นที่มีความก้วางขวาง เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพักผ่อน มีกิจกรรมมากมายที่น่าสนใจ

คนมาเลเที่ยวไทยแล้ว คนไทยเที่ยวมาเลบ้าง เที่ยวต่างประเทศที่คนสงขลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงต้องเที่ยว...ปีนัง มาเลเซีย โดยสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือติดต่อผ่านผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ของท่านได้เลย
#14
นายกชาย นำทีมมอบทุนการศึกษาโครงการ"ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
มูลนิธิ "วรวิทย์ ขาวทอง" โครงการ  "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" นำโดย นายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง สส.เขต 5 สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สส.น้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล สส.เขต 6 สงขลา สส.สิงโต ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.เขต 9 สงขลา สจ.เสือ วงศ์วชิระ ขาวทอง ส.อบจ.สงขลา เขต 1 อ.รัตภูมิ ร่วมกับ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ผู้สนับสนุนโครงการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัด สงขลา
16 ธันวาคม 2566 ณ สำนักงาน สส.เดชอิศม์ ขาวทอง (นายกชาย) อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มีการจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน ของมูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง ในโครงการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จำนวน 330 ทุน ทุนละ 3,000 บาท แก่นักเรียนในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอรัตภูมิ ควนเนียง สิงหนคร บางกล่ำ หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และสะเดา จังหวัดสงขลา
ตามที่มูลนิธิวรวิทย์ ขาวทอง ได้จัดกิจกรรมระดมทุนโครงการ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับเงินสนับสนุนรวมมากกว่า 4.5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีความขาดแคลนให้สามารถอยู่ในระบบการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ และทางคณะกรรมการมูลนิธิฯ ให้ทางโรงเรียนร่วมกับผู้นำท้องที่เป็นผู้คัดเลือกนักเรียนที่สมควรได้รับทุน ครั้งที่ 1 จำนวน 330 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 990,00 บาท
นายกชาย นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับการมอบทุนการศึกษา ครั้งที่ 1 สามารถมอบทุนแก่นักเรียนในบางอำเภอก่อน พร้อมระดมทุนเพิ่มเพื่อจะขยายให้ครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา  โดยจะมีการจัดโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การมอบทุนครอบคลุมและให้ถึงมือครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ให้ได้มากที่สุด
สำหรับผู้สนับสนุนงบประมาณในโครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อาทิ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 1 ล้านบาท คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี  1 ล้านบาท ครอบครัวขาวทอง 1 ล้านบาท และผู้ร่วมสนับสนุนรวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 4.5 ล้านบาท โดยทางคณะกรรมการจะมีการใช้จ่ายเงินให้ได้ตามวัตถุประสงค์โครงการต่อไป
#15
"เรนิตา เนอสเซอรี่" จากความรักของแม่สู่การดูแลเด็กที่เอาใจใส่ดั่งคนในครอบครัว

ศูนย์ดูแลเด็กเล็กหรือเนอสเซอรี่ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนกังวลใจเวลาที่ต้องฝากลูกให้อยู่กับสถานที่เหล่านี้ เช่นเดียวกับคุณ...ที่บอกว่าตัวเองมีลูกค่อนข้างยากและเมื่อมีแล้วก็เป็นห่วงลูกมาก เลยต้องวางแผนชีวิตนับตั้งแต่มีลูกว่าต้องเปลี่ยนจากการทำงานประจำมาดูแลลูกด้วยตัวเอง และเล็งเห็นว่าธุรกิจที่สามารถดูแลลูกควบคู่กับการทำงานไปด้วยคือ เนอสเซอรี่

นี่คือจุดเริ่มต้นของ "เรนิตา เนอสเซอรี่" คุณ...บอกว่าเมื่อตัดสินใจจะเปิดเนอสเซอรี่ ก็มีคนแนะนำสถานที่แห่งนี้ให้ซึ่งเมื่อมาดูก็ถูกใจเพราะสถานที่กว้าง ไม่ไกลจากถนนสายหลักแต่เงียบสงบ ถนนด้านหน้ากว้างเข้าออกได้หลายทางไม่แออัด เมื่อเข้ามาดูก็ถูกใจกับสถานที่โดยยังไม่ทราบข่าวเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ว่าเคยเป็นที่ตั้งของเนอสเซอรี่ ที่มีปัญหาในการดูแลเด็กและถูกสั่งปิดพร้อมดำเนินการทางกฎหมายแล้ว เมื่อทราบข่าวและทราบว่ามีครูพี่เลี้ยงเก่าถูกลอยแพตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว ก็เลยรับคนเหล่านี้ซึ่งมีประสบการณ์มาร่วมทำงานกับเรา โดยเราไม่รู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เช่าสถานที่แห่งนี้ชุดเก่าเลยแม้แต่น้อย

"ที่เลือกตรงนี้เพราะทำเลสวยและความของอาคารสถานที่ดีมากๆ ที่สำคัญเราตั้งใจทำตรงนี้เพื่อดูแลลูกตัวเองด้วยจึงมีการลงทุนด้านความปลอดภัยเยอะมากๆ ห้องเด็กเล็กต้องมีพื้นและฝาผนังกันกระแทก ห้องเด็กโตฝาผนังกะนกระแทกทั้งหมด ทุกห้องทุกโซนมีกล้องวงจรปิดให้ผู้ปกครองสามารถดูบุตรหลานผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา พี่เลี้ยงทุกคนมีการตรวจสอบประวัติ สัมภาษณ์ ดูพฤติกรรมอย่างละเอียด เพราะเขาไม่ใช่แค่ต้องดูแลเด็กคนอื่นแต่ยังต้องดูแลลูกของเราด้วย"

การเลี้ยงลูกด้วยตัวเองคือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนปรารถนามากที่สุด แต่ด้วยภาระหน้าที่ของคนเรามีไม่เท่ากันการมีสถานที่ที่ไว้วางใจได้ อุ่นใจแม้ไม่ได้ดูแลด้วยตัวเองแต่สามารถเห็นพัฒนาการของลูกได้ทุกเวลา "เรนิตา เนอสเซอรี่" พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ด้วยการรับเลี้ยงรับดูแลเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน - 4 ขวบ ดูแล ใส่ใจ ห่วงใย เสมือนคนในครอบครัว สามารถเข้ามาเยี่ยมชม สอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจที่

เรนิตา เนอสเซอรี่ เลขที่ 1 ถนนทักษิณเมืองทอง 4 (หลัง 7-11 ตรงข้ามเทคนิคหาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทร 093-7495656 ,093-5462445 หรือติดต่อออนไลน์ได้ทางเฟสบุ๊ค เรนิตา เนอสเซอรี่