Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - loveparcel

#1
6 ขั้นตอนที่ทำให้แบรนด์มีมิติและเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า

ขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มสร้างแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่การสร้างโลโก้และสโลแกนบนแพ็กเกจสินค้าเท่านั้น  "แต่จะมีอยู่ถึง 5 ขั้นตอนพื้นฐาน" ที่จะทำให้แบรนด์ของเรามีมิติและเข้าไปอยู่ในใจผู้คนได้ดังต่อไปนี้


1.กำหนดลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน
เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า สินค้านี้ขายใครก็ได้ ขายไม่จำกัดว่าเป็นใคร น่าจะทำให้ขายได้เยอะ แต่จริงๆแล้ว อันดับแรกของการสร้างแบรนด์ที่ดี (ที่จะนำมาซึ่งยอดขายที่ดี)

2.กำหนดคุณค่าของแบรนด์ ที่ธุรกิจจะสร้างให้กับลูกค้าเป้าหมาย
วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเขียนมันออกมานั่นเอง ซึ่งไม่ใช่การเขียนเล่นๆให้ดูเท่ หรือให้คนจำได้แบบสโลแกนนะคะ แต่เป็นการสรุปพันธกิจของแบรนด์ออกมาเป็นข้อความสั้นๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเราเอง หุ้นส่วน พนักงาน และลูกค้าของเราให้เข้าใจถึงตัวแบรนด์อย่างชัดเจน

3. ศึกษาแบรนด์คู่แข่งในตลาด
แนวทางการสื่อสารกับผู้คน แนวทางให้เราเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจประเภทนนี้มากขึ้น ช่วยให้เราสร้างแบรนด์ที่มีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นจุดขายเฉพาะตัวของแบรนด์เราค่ะ

4.สร้างการจดจำเพื่อตอกย้ำผ่านโลโก้และสโลแกนของสินค้า
คราวนี้ก็มาถึงสิ่งที่จับต้องได้กันบ้าง ซึ่งจะมองว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆส่วนนึงของการทำแบรนด์เลยก็ได้ นั่นคือภาพโลโก้ที่จะติดตาคุณไปในทุกๆที่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

5. กำหนดวิธีการสื่อสารของแบรนด์
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกประกันภัย แบรนด์ต่างๆจะเน้นความเป็นมืออาชีพ เพราะรูปแบบธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือ มั่นคง แต่เค้าก็จะมีจุดยืน และวิธีการสื่อสารไปยังลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป

6. กล่องไปรษณีย์ออกแบบ กล่องไปรษณีย์พิมพ์ลายและกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
การใช้กล่องไปรษณีย์ให้มีรูปแบบและลักษณะจำเพาะสำหรับร้านค้าของเรา ช่วยให้เกิดการจดจำและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของเราได้อย่างมากและเป็นการทำให้เกิดความพึงพอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นกล่องไปรษณีย์ก่อนที่จะเปิดดูสินค้าภายในกล่อง

เลือกชมกล่องไปรษณีย์ออกแบบเองได้ทาง >> กล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
เข้าชมหน้าเว็บกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์ >> www.loveparcel.net
#2
6 ขั้นตอนที่ทำให้แบรนด์มีมิติและเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า

ขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มสร้างแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่การสร้างโลโก้และสโลแกนบนแพ็กเกจสินค้าเท่านั้น  "แต่จะมีอยู่ถึง 5 ขั้นตอนพื้นฐาน" ที่จะทำให้แบรนด์ของเรามีมิติและเข้าไปอยู่ในใจผู้คนได้ดังต่อไปนี้


1.กำหนดลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน
เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า สินค้านี้ขายใครก็ได้ ขายไม่จำกัดว่าเป็นใคร น่าจะทำให้ขายได้เยอะ แต่จริงๆแล้ว อันดับแรกของการสร้างแบรนด์ที่ดี (ที่จะนำมาซึ่งยอดขายที่ดี)

2.กำหนดคุณค่าของแบรนด์ ที่ธุรกิจจะสร้างให้กับลูกค้าเป้าหมาย
วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเขียนมันออกมานั่นเอง ซึ่งไม่ใช่การเขียนเล่นๆให้ดูเท่ หรือให้คนจำได้แบบสโลแกนนะคะ แต่เป็นการสรุปพันธกิจของแบรนด์ออกมาเป็นข้อความสั้นๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเราเอง หุ้นส่วน พนักงาน และลูกค้าของเราให้เข้าใจถึงตัวแบรนด์อย่างชัดเจน

3. ศึกษาแบรนด์คู่แข่งในตลาด
แนวทางการสื่อสารกับผู้คน แนวทางให้เราเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจประเภทนนี้มากขึ้น ช่วยให้เราสร้างแบรนด์ที่มีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นจุดขายเฉพาะตัวของแบรนด์เราค่ะ

4.สร้างการจดจำเพื่อตอกย้ำผ่านโลโก้และสโลแกนของสินค้า
คราวนี้ก็มาถึงสิ่งที่จับต้องได้กันบ้าง ซึ่งจะมองว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆส่วนนึงของการทำแบรนด์เลยก็ได้ นั่นคือภาพโลโก้ที่จะติดตาคุณไปในทุกๆที่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

5. กำหนดวิธีการสื่อสารของแบรนด์
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกประกันภัย แบรนด์ต่างๆจะเน้นความเป็นมืออาชีพ เพราะรูปแบบธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือ มั่นคง แต่เค้าก็จะมีจุดยืน และวิธีการสื่อสารไปยังลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป

6. กล่องไปรษณีย์ออกแบบ กล่องไปรษณีย์พิมพ์ลายและกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
การใช้กล่องไปรษณีย์ให้มีรูปแบบและลักษณะจำเพาะสำหรับร้านค้าของเรา ช่วยให้เกิดการจดจำและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของเราได้อย่างมากและเป็นการทำให้เกิดความพึงพอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นกล่องไปรษณีย์ก่อนที่จะเปิดดูสินค้าภายในกล่อง

เลือกชมกล่องไปรษณีย์ออกแบบเองได้ทาง >> กล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
เข้าชมหน้าเว็บกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์ >> www.loveparcel.net
#3
6 ขั้นตอนที่ทำให้แบรนด์มีมิติและเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า

ขั้นตอนเบื้องต้นในการเริ่มสร้างแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่การสร้างโลโก้และสโลแกนบนแพ็กเกจสินค้าเท่านั้น  "แต่จะมีอยู่ถึง 5 ขั้นตอนพื้นฐาน" ที่จะทำให้แบรนด์ของเรามีมิติและเข้าไปอยู่ในใจผู้คนได้ดังต่อไปนี้


1.กำหนดลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน
เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า สินค้านี้ขายใครก็ได้ ขายไม่จำกัดว่าเป็นใคร น่าจะทำให้ขายได้เยอะ แต่จริงๆแล้ว อันดับแรกของการสร้างแบรนด์ที่ดี (ที่จะนำมาซึ่งยอดขายที่ดี)

2.กำหนดคุณค่าของแบรนด์ ที่ธุรกิจจะสร้างให้กับลูกค้าเป้าหมาย
วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเขียนมันออกมานั่นเอง ซึ่งไม่ใช่การเขียนเล่นๆให้ดูเท่ หรือให้คนจำได้แบบสโลแกนนะคะ แต่เป็นการสรุปพันธกิจของแบรนด์ออกมาเป็นข้อความสั้นๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเราเอง หุ้นส่วน พนักงาน และลูกค้าของเราให้เข้าใจถึงตัวแบรนด์อย่างชัดเจน

3. ศึกษาแบรนด์คู่แข่งในตลาด
แนวทางการสื่อสารกับผู้คน แนวทางให้เราเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจประเภทนนี้มากขึ้น ช่วยให้เราสร้างแบรนด์ที่มีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นจุดขายเฉพาะตัวของแบรนด์เราค่ะ

4.สร้างการจดจำเพื่อตอกย้ำผ่านโลโก้และสโลแกนของสินค้า
คราวนี้ก็มาถึงสิ่งที่จับต้องได้กันบ้าง ซึ่งจะมองว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆส่วนนึงของการทำแบรนด์เลยก็ได้ นั่นคือภาพโลโก้ที่จะติดตาคุณไปในทุกๆที่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

5. กำหนดวิธีการสื่อสารของแบรนด์
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกประกันภัย แบรนด์ต่างๆจะเน้นความเป็นมืออาชีพ เพราะรูปแบบธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือ มั่นคง แต่เค้าก็จะมีจุดยืน และวิธีการสื่อสารไปยังลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป

6. กล่องไปรษณีย์ออกแบบ กล่องไปรษณีย์พิมพ์ลายและกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
การใช้กล่องไปรษณีย์ให้มีรูปแบบและลักษณะจำเพาะสำหรับร้านค้าของเรา ช่วยให้เกิดการจดจำและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของเราได้อย่างมากและเป็นการทำให้เกิดความพึงพอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นกล่องไปรษณีย์ก่อนที่จะเปิดดูสินค้าภายในกล่อง

เลือกชมกล่องไปรษณีย์ออกแบบเองได้ทาง >> กล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์
เข้าชมหน้าเว็บกล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์ >> www.loveparcel.net
#4
ทำอย่างไรจึงประสบความสําเร็จในธุรกิจ !!

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจในปัจจุบันล้วนมีเทคนิคและวิธีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันไป วันนี้ loveparcel ขอเสนอแนวคิดและกลยุทธ์ เพื่อให้ผู้ที่เริ่มต้นการทำธุรกิจและผู้ที่กำลังดำเนินธุรกิจของตนเองอยู่ ได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเพื่อช่วยให้ธุรกิจนั้นสามารถพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น


ทำในสิ่งที่แปลกออกไปเพื่อให้ประสบความสําเร็จในธุรกิจ
หลายคนเลือกทำในสิ่งเดิมๆ ไม่สร้างสรรค์ ไม่ยอมที่จะเริ่มกระทำสิ่งแปลกใหม่ จึงทำให้ธุรกิจของพวกเขาไม่สามารถที่จะพัฒนาและก้าวต่อไปได้ หากต้องการให้ธุรกิจเกิดการพัฒนาขึ้น คุณต้องกล้าที่จะเริ่มทำในสิ่งแปลกออกไป ซึ่งจะทำให้คุณมีมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น และยังสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการทำสิ่งใหม่ๆมาใช้กับธุรกิจเพื่อปรับปรุงให้ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อไปได้

รับผิดชอบต่อธุรกิจที่คุณทำ
หากคุณได้ทำอะไรบางอย่างกับธุรกิจของคุณ คุณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม

มีใจที่พร้อมจะดำเนินธุรกิจ
คุณจำเป็นต้องมีใจที่พร้อมจะทำธุรกิจเสมอเพราะหากคุณไม่มีข้อนี้ คุณจะไม่มีความสุขกับการทำงาน คุณต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดของคุณไปในการทำธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่มีเวลาว่างทำในสิ่งที่คุณชอบได้เลย

ทำธุรกิจให้สอดคล้องกับชีวิตของคุณ
คุณต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไรในชีวิตของคุณ จากนั้นดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับชีวิตของคุณ เพราะหากสองสิ่งนี้ไม่สอดคล้องกันคุณจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้เท่าที่ควร

เป้าหมายธุรกิจของคุณคืออะไร
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและสร้างวิสัยทัศน์ในธุรกิจ เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เป็นเสาหลักในการดำเนินธุรกิจของคุณเมื่อคุณต้องการพัฒนาธุรกิจคุณจำเป็นต้องดูว่าสิ่งที่ทำนั้นยังอยู่ในเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของธุรกิจหรือไม่

มีทัศนคติที่ดีต่อผลลัพธ์ในธุรกิจ
ไม่ว่าผลลัพธ์ธุรกิจของคุณจะออกมาอย่างไรคุณต้องยินยอมรับมันให้ได้ หากผลลัพธ์นั้นออกมาไม่ดีคุณต้องหาจุดผิดพลาด วิเคราะห์ และแก้ไขมัน หากผลลัพธ์ของธุรกิจออกมาดีคุณต้องพัฒนามันดีขึ้นอีกในครั้งหน้า

รักในธุรกิจ
หากคุณไม่ชื่นชอบในสิ่งที่คุณทำนั่นจะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่รักในสิ่งที่พวกเขาทำ

คิดให้ไกล
ผู้ประสบความสำเร็จไม่น้อยที่เริ่มจากการคิดให้ไกลว่าธุรกิจของพวกเขาจะต้องเป็นแบบไหนและดำเนินไปในทิศทางใด นั่นแปลว่าคุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้โดยการคิดวางแผนธุรกิจของคุณให้มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และเริ่มลงมือทำ

อย่ากลัวที่จะเสี่ยง
ในการทำธุรกิจทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงหากคุณมีความกลัวมากเกินไปอาจทำให้คุณไม่สามารถเติบโตได้นั่นเพราะถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องกล้าเสี่ยง ซึ่งในการเสี่ยงจะต้องมีความเป็นไปได้ด้วยว่าธุรกิจของคุณจะเติบโต

กำหนดเป้าหมายอย่างชาญฉลาด
การให้ความสำคัญในการกำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าคุณเลือกเป้าหมายในธุรกิจได้ไม่ดีพอ อาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อธุรกิจของคุณ

สร้างแรงบันดาลใจ
แรงจูงใจคุณต้องสร้างมันด้วยตัวของคุณเองอย่ารอให้มันเกิดขึ้นเอง มองหาสิ่งที่คุณต้องการและเริ่มลงมือทำมัน ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เริ่มจากการทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและสร้างแรงจูงใจของพวกเขาด้วยตัวของพวกเขาเอง

เรียนรู้
เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ มองพวกเขาให้ออกว่าพวกเขาทำอย่างไรถึงทำให้ธุรกิจของพวกเขาก้าวหน้า แยกส่วนพวกเขาออกมา วิเคราะห์สิ่งที่พวกเขาทำและหาเหตุผลว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงจึงประสบความสำเร็จ

พยายามเป็นผู้เชี่ยวชาญ
การพยายามผู้เชี่ยวชาญจะสามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณได้ เพราะเมื่อต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นหมายถึงคุณต้องหาความรู้และหาประสบการณ์ให้มากกว่าเดิม

มุ่งมั่นในการทำ
หากคุณไม่มีความมุ่งมั่นในการทำงานผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น คุณควรมุ่งมั่นกับทุกขั้นตอนที่คุณทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของคุณ

อย่ายอมแพ้
ในการทำธุรกิจต้องมีบางครั้งที่ล้มเหลวคุณต้องยอมรับและอย่ายอมแพ้กล้าที่จะลุกขึ้นและลงมือแก้ไขความล้มเหลวนั้นและพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

เลือกชมกล่องพัสดุออกแบบเองได้ www.loveparcel.net
#5
ทำอย่างไรจึงประสบความสําเร็จในธุรกิจ !!

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจในปัจจุบันล้วนมีเทคนิคและวิธีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันไป วันนี้ loveparcel ขอเสนอแนวคิดและกลยุทธ์ เพื่อให้ผู้ที่เริ่มต้นการทำธุรกิจและผู้ที่กำลังดำเนินธุรกิจของตนเองอยู่ ได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเพื่อช่วยให้ธุรกิจนั้นสามารถพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น


ทำในสิ่งที่แปลกออกไปเพื่อให้ประสบความสําเร็จในธุรกิจ
หลายคนเลือกทำในสิ่งเดิมๆ ไม่สร้างสรรค์ ไม่ยอมที่จะเริ่มกระทำสิ่งแปลกใหม่ จึงทำให้ธุรกิจของพวกเขาไม่สามารถที่จะพัฒนาและก้าวต่อไปได้ หากต้องการให้ธุรกิจเกิดการพัฒนาขึ้น คุณต้องกล้าที่จะเริ่มทำในสิ่งแปลกออกไป ซึ่งจะทำให้คุณมีมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น และยังสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการทำสิ่งใหม่ๆมาใช้กับธุรกิจเพื่อปรับปรุงให้ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อไปได้

รับผิดชอบต่อธุรกิจที่คุณทำ
หากคุณได้ทำอะไรบางอย่างกับธุรกิจของคุณ คุณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม

มีใจที่พร้อมจะดำเนินธุรกิจ
คุณจำเป็นต้องมีใจที่พร้อมจะทำธุรกิจเสมอเพราะหากคุณไม่มีข้อนี้ คุณจะไม่มีความสุขกับการทำงาน คุณต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดของคุณไปในการทำธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่มีเวลาว่างทำในสิ่งที่คุณชอบได้เลย

ทำธุรกิจให้สอดคล้องกับชีวิตของคุณ
คุณต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไรในชีวิตของคุณ จากนั้นดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับชีวิตของคุณ เพราะหากสองสิ่งนี้ไม่สอดคล้องกันคุณจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้เท่าที่ควร

เป้าหมายธุรกิจของคุณคืออะไร
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและสร้างวิสัยทัศน์ในธุรกิจ เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เป็นเสาหลักในการดำเนินธุรกิจของคุณเมื่อคุณต้องการพัฒนาธุรกิจคุณจำเป็นต้องดูว่าสิ่งที่ทำนั้นยังอยู่ในเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของธุรกิจหรือไม่

มีทัศนคติที่ดีต่อผลลัพธ์ในธุรกิจ
ไม่ว่าผลลัพธ์ธุรกิจของคุณจะออกมาอย่างไรคุณต้องยินยอมรับมันให้ได้ หากผลลัพธ์นั้นออกมาไม่ดีคุณต้องหาจุดผิดพลาด วิเคราะห์ และแก้ไขมัน หากผลลัพธ์ของธุรกิจออกมาดีคุณต้องพัฒนามันดีขึ้นอีกในครั้งหน้า

รักในธุรกิจ
หากคุณไม่ชื่นชอบในสิ่งที่คุณทำนั่นจะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่รักในสิ่งที่พวกเขาทำ

คิดให้ไกล
ผู้ประสบความสำเร็จไม่น้อยที่เริ่มจากการคิดให้ไกลว่าธุรกิจของพวกเขาจะต้องเป็นแบบไหนและดำเนินไปในทิศทางใด นั่นแปลว่าคุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้โดยการคิดวางแผนธุรกิจของคุณให้มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และเริ่มลงมือทำ

อย่ากลัวที่จะเสี่ยง
ในการทำธุรกิจทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงหากคุณมีความกลัวมากเกินไปอาจทำให้คุณไม่สามารถเติบโตได้นั่นเพราะถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องกล้าเสี่ยง ซึ่งในการเสี่ยงจะต้องมีความเป็นไปได้ด้วยว่าธุรกิจของคุณจะเติบโต

กำหนดเป้าหมายอย่างชาญฉลาด
การให้ความสำคัญในการกำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าคุณเลือกเป้าหมายในธุรกิจได้ไม่ดีพอ อาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อธุรกิจของคุณ

สร้างแรงบันดาลใจ
แรงจูงใจคุณต้องสร้างมันด้วยตัวของคุณเองอย่ารอให้มันเกิดขึ้นเอง มองหาสิ่งที่คุณต้องการและเริ่มลงมือทำมัน ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เริ่มจากการทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและสร้างแรงจูงใจของพวกเขาด้วยตัวของพวกเขาเอง

เรียนรู้
เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ มองพวกเขาให้ออกว่าพวกเขาทำอย่างไรถึงทำให้ธุรกิจของพวกเขาก้าวหน้า แยกส่วนพวกเขาออกมา วิเคราะห์สิ่งที่พวกเขาทำและหาเหตุผลว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงจึงประสบความสำเร็จ

พยายามเป็นผู้เชี่ยวชาญ
การพยายามผู้เชี่ยวชาญจะสามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณได้ เพราะเมื่อต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นหมายถึงคุณต้องหาความรู้และหาประสบการณ์ให้มากกว่าเดิม

มุ่งมั่นในการทำ
หากคุณไม่มีความมุ่งมั่นในการทำงานผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น คุณควรมุ่งมั่นกับทุกขั้นตอนที่คุณทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของคุณ

อย่ายอมแพ้
ในการทำธุรกิจต้องมีบางครั้งที่ล้มเหลวคุณต้องยอมรับและอย่ายอมแพ้กล้าที่จะลุกขึ้นและลงมือแก้ไขความล้มเหลวนั้นและพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

เลือกชมกล่องพัสดุออกแบบเองได้ www.loveparcel.net
#6
5 เทคนิคการแพ็คสินค้าแบบแม่ค้ามืออาชีพ

หลายๆท่านอาจจะกังวลเรื่องการส่งพัสดุแล้วเกิดความเสียหาย เพราะเราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดส่งสินค้าได้ การแพ็คพัสดุให้ดี ดูเหมือนจะเป็นหนทางที่ช่วยเซฟให้พัสดุนั้นปลอดภัยได้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพัสดุที่ส่งนั้นจะถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัย


1. เลือกกล่องที่มีขนาดเหมาะสมกับพัสดุที่ต้องการจะส่ง
ขนาดกล่องพัสดุ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย  ถ้าเราใส่ขนาดเล็กไปในกล่องพัสดุขนาดใหญ่โดยไม่ใส่แผ่นรองกระแทก พอถึงเวลาที่ต้องขนย้าย ของภายในกล่องนั้นย่อมขยับไปมาแน่นอน  ในขณะเดียวกัน หากคุณเลือกกล่องที่พอเหมาะสมกับพัสดุ การกระแทกไปมานั้นก็จะลดน้อยลง ยิ่งถ้าใช้แผ่นรองกระแทกช่วย สิ่งของภายในของคุณจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และนี่ คือเหตุผลว่า ทำไมต้องเลือกขนาดของกล่อง ให้พอดีกับขนาดของพัสดุ

2. ห่อพัสดุด้วยพลาสติกกันกระแทก ป้องกันความเสียหาย
พลาสติกกันกระแทกหรือบับเบิ้ล นั้น จะช่วยดูดซับแรงกระแทกเมื่อสิ่งของภายในกล่องเกิดการกระแทกไปมา และยังน้ำหนักเบา ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเงินค่าส่งไปรษณีย์เพิ่มอีกด้วย

3. จัดช่องว่างในกล่องพัสดุให้ดี
โดยใส่พัสดุลงในกล่องให้อยู่ตรงกลาง หากมีช่องว่างด้านข้างๆ ให้ยัดวัสดุกันกระแทกให้เต็ม เพื่อไม่ให้ของเคลื่อนที่ได้ เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ แกนกระดาษทิชชู่ หรือกระดาษลูกฟูก

4. ปิดฝากล่องให้แน่นหนา
เราอาจจะละเลยในการปิดฝากล่องเพราะอาจจะทำให้กล่องพัสดุเปิดและสินค้าในนั้นล่วงออกมา โดยการปิดฝากล่องแล้วผนึกด้วยเทปกาวทั้ง 3 ด้าน

5. เขียนชื่อและที่อยู่ให้ถูกต้อง
การที่จะส่งพัสดุ เรานั้นอย่าลืมกรอกชื่อ-นามสกุลที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งพัสดุ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ให้ถูกต้องและครบถ้วน แล้วมัดเชือกรอบกล่องให้เรียบร้อย

สนใจเลือกชมกล่องพัสดุที่ทันสมัยและตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าได้ทาง loveparce
#7
5 เทคนิคการแพ็คสินค้าแบบแม่ค้ามืออาชีพ

หลายๆท่านอาจจะกังวลเรื่องการส่งพัสดุแล้วเกิดความเสียหาย เพราะเราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดส่งสินค้าได้ การแพ็คพัสดุให้ดี ดูเหมือนจะเป็นหนทางที่ช่วยเซฟให้พัสดุนั้นปลอดภัยได้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพัสดุที่ส่งนั้นจะถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัย


1. เลือกกล่องที่มีขนาดเหมาะสมกับพัสดุที่ต้องการจะส่ง
ขนาดกล่องพัสดุ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย  ถ้าเราใส่ขนาดเล็กไปในกล่องพัสดุขนาดใหญ่โดยไม่ใส่แผ่นรองกระแทก พอถึงเวลาที่ต้องขนย้าย ของภายในกล่องนั้นย่อมขยับไปมาแน่นอน  ในขณะเดียวกัน หากคุณเลือกกล่องที่พอเหมาะสมกับพัสดุ การกระแทกไปมานั้นก็จะลดน้อยลง ยิ่งถ้าใช้แผ่นรองกระแทกช่วย สิ่งของภายในของคุณจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และนี่ คือเหตุผลว่า ทำไมต้องเลือกขนาดของกล่อง ให้พอดีกับขนาดของพัสดุ

2. ห่อพัสดุด้วยพลาสติกกันกระแทก ป้องกันความเสียหาย
พลาสติกกันกระแทกหรือบับเบิ้ล นั้น จะช่วยดูดซับแรงกระแทกเมื่อสิ่งของภายในกล่องเกิดการกระแทกไปมา และยังน้ำหนักเบา ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเงินค่าส่งไปรษณีย์เพิ่มอีกด้วย

3. จัดช่องว่างในกล่องพัสดุให้ดี
โดยใส่พัสดุลงในกล่องให้อยู่ตรงกลาง หากมีช่องว่างด้านข้างๆ ให้ยัดวัสดุกันกระแทกให้เต็ม เพื่อไม่ให้ของเคลื่อนที่ได้ เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ แกนกระดาษทิชชู่ หรือกระดาษลูกฟูก

4. ปิดฝากล่องให้แน่นหนา
เราอาจจะละเลยในการปิดฝากล่องเพราะอาจจะทำให้กล่องพัสดุเปิดและสินค้าในนั้นล่วงออกมา โดยการปิดฝากล่องแล้วผนึกด้วยเทปกาวทั้ง 3 ด้าน

5. เขียนชื่อและที่อยู่ให้ถูกต้อง
การที่จะส่งพัสดุ เรานั้นอย่าลืมกรอกชื่อ-นามสกุลที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งพัสดุ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ให้ถูกต้องและครบถ้วน แล้วมัดเชือกรอบกล่องให้เรียบร้อย

สนใจเลือกชมกล่องพัสดุที่ทันสมัยและตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าได้ทาง loveparce
#8
5 กลยุทธ์ รับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่จะทำให้คุณได้เปรียบอย่างมาก !!

วันนี้ loveparcel ของเราจะมานำเสนอ 5 กลยุทธ์ รับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่จะทำให้คุณได้เปรียบอย่างมาก การแข่งขันทางธุรกิจ ถือเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และส่วนมากจะเกิดขึ้นกับสินค้าที่ขายดีและเป้นความต้องการของตลาดอย่างมาก นอกจากรูปแบบสินค้าจะเหมือนกันแล้วการบรรจุหีบห่อ การใช้บรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้กล่องกระดาษ กล่องกระดาษลูกฟูก หรือกล่องกระดาษพิมพ์ลายยังไม่แตกต่างกัน ดังนั้น 5 กลยุทธ์ต่อไปนี้ คือสิ่งที่ช่วยรับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการต้องรู้


1.ติดตามข้อมูลข่าวสาร
การติดตามข้อมูลข่าวสาร เพื่อชิงความได้เปรียบด้านการตลาด การรับรู้ข้อมูลได้รวดเร็วสามารถบริหารงานเชิงรุกได้ เพราะในขณะที่คู่แข่งยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เราก็สามารถช่วงชิงพื้นเพื่อทำการตลาดออกหน้าไปได้ไกลแล้ว

2.ลดต้นทุนการผลิต
บางครั้งการแข่งขันด้านการตลาด ผู้ประกอบการต้องยอมแลกเพื่อให้ได้สิ่งใหม่ๆเข้ามา เช่น บริหารธุรกิจโดยเน้นลดต้นทุนการผลิต เช่น การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วยการเลือกใช้กล่องกระดาษ หรือกล่องกระดาษลูกฟูก แทน บรรจุภัณฑ์พลาสติก หรืออื่นๆ ที่มีราคาแพงกว่าเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือคู่แข่ง ด้วยการปรับลดราคา หรือจัดโปรโมชั่น คืนกำไรให้ลูกค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์ ซึ่งนอกจากวิธีนี้จะสามารถรับมือกับคู่แข่งอย่างได้ผลแล้ว ยังสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอีกด้วย

3.สร้างความกดดัน
คำว่า ลงมือก่อนได้เปรียบ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากวางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว สร้างความแตกต่างด้วยวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ เช่น ออกแบบกล่องกระดาษสำหรับบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ การใช้สื่อโฆษณาที่สะดุดตา ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าได้อย่างรวดเร็ว

4.เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความใหม่และนำหน้าคู่แข่งเสมอ
การบริหารธุรกิจให้เป็นผู้นำด้านการตลาด ด้วยการผลิตสินค้าที่เป็นเทรนใหม่ๆ หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยนำวัสดุจากธรรมชาติที่มีการค้นหว้าวิจัยใหม่ๆ มาออกแบบทำเป็นบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ เพราะการมีสินค้าใหม่ๆเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้า และยังสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เพราะเป็นการบ่งบอกถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง

5.สินค้าและกล่องบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องใส่ใจต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำหรือมีการจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องกระดาษ หรือกล่องกระดาษพิมพ์ลาย กล่องกระดาษลูกฟูก แทนบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ยาก หรือไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

ทั้ง 5 ข้อ คือกลยุทธ์ด้านการตลาด ที่นอกจากช่วยให้ผู้ประกอบการรับมือกับคู่แข่งด้านการตลาดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน มองเห็นภาพแล้วอย่างลืมนำไปประยุกต์ใช้เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภท

เลือกชมสินค้ากล่องบรรจุภัณฑ์จากทางเราได้ทาง - กล่องบรรจุภัณฑ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line id : loveparcel
#9
5 กลยุทธ์ รับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่จะทำให้คุณได้เปรียบอย่างมาก !!

วันนี้ loveparcel ของเราจะมานำเสนอ 5 กลยุทธ์ รับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่จะทำให้คุณได้เปรียบอย่างมาก การแข่งขันทางธุรกิจ ถือเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และส่วนมากจะเกิดขึ้นกับสินค้าที่ขายดีและเป้นความต้องการของตลาดอย่างมาก นอกจากรูปแบบสินค้าจะเหมือนกันแล้วการบรรจุหีบห่อ การใช้บรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้กล่องกระดาษ กล่องกระดาษลูกฟูก หรือกล่องกระดาษพิมพ์ลายยังไม่แตกต่างกัน ดังนั้น 5 กลยุทธ์ต่อไปนี้ คือสิ่งที่ช่วยรับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการต้องรู้


1.ติดตามข้อมูลข่าวสาร
การติดตามข้อมูลข่าวสาร เพื่อชิงความได้เปรียบด้านการตลาด การรับรู้ข้อมูลได้รวดเร็วสามารถบริหารงานเชิงรุกได้ เพราะในขณะที่คู่แข่งยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เราก็สามารถช่วงชิงพื้นเพื่อทำการตลาดออกหน้าไปได้ไกลแล้ว

2.ลดต้นทุนการผลิต
บางครั้งการแข่งขันด้านการตลาด ผู้ประกอบการต้องยอมแลกเพื่อให้ได้สิ่งใหม่ๆเข้ามา เช่น บริหารธุรกิจโดยเน้นลดต้นทุนการผลิต เช่น การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วยการเลือกใช้กล่องกระดาษ หรือกล่องกระดาษลูกฟูก แทน บรรจุภัณฑ์พลาสติก หรืออื่นๆ ที่มีราคาแพงกว่าเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือคู่แข่ง ด้วยการปรับลดราคา หรือจัดโปรโมชั่น คืนกำไรให้ลูกค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์ ซึ่งนอกจากวิธีนี้จะสามารถรับมือกับคู่แข่งอย่างได้ผลแล้ว ยังสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอีกด้วย

3.สร้างความกดดัน
คำว่า ลงมือก่อนได้เปรียบ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากวางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว สร้างความแตกต่างด้วยวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ เช่น ออกแบบกล่องกระดาษสำหรับบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ การใช้สื่อโฆษณาที่สะดุดตา ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าได้อย่างรวดเร็ว

4.เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความใหม่และนำหน้าคู่แข่งเสมอ
การบริหารธุรกิจให้เป็นผู้นำด้านการตลาด ด้วยการผลิตสินค้าที่เป็นเทรนใหม่ๆ หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยนำวัสดุจากธรรมชาติที่มีการค้นหว้าวิจัยใหม่ๆ มาออกแบบทำเป็นบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ เพราะการมีสินค้าใหม่ๆเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้า และยังสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เพราะเป็นการบ่งบอกถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง

5.สินค้าและกล่องบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับคู่แข่งทางธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องใส่ใจต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำหรือมีการจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องกระดาษ หรือกล่องกระดาษพิมพ์ลาย กล่องกระดาษลูกฟูก แทนบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ยาก หรือไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

ทั้ง 5 ข้อ คือกลยุทธ์ด้านการตลาด ที่นอกจากช่วยให้ผู้ประกอบการรับมือกับคู่แข่งด้านการตลาดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน มองเห็นภาพแล้วอย่างลืมนำไปประยุกต์ใช้เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภท

เลือกชมสินค้ากล่องบรรจุภัณฑ์จากทางเราได้ทาง - กล่องบรรจุภัณฑ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line id : loveparcel
#10
ทริคการส่งพัสดุแบบมือโปร สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์

พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่ปฏิเสธการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แทบไม่ได้เลย เพราะเป้นช่องทางที่จะทำให้เราเข้าถึงคนมากกว่าการวางขายแค่เพียงหน้าร้านเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งของที่เราจะส่งไปถึงมือของลูกค้านั้นก็ไม่พ้นการส่งพัสดุผ่านทางบริการต่างๆ เราจึงได้รวบรวมทริคเคล็ดลับการส่งพัสดุอย่างไรให้ได้มาตรฐานและเป็นมือโปรอย่างมากที่สุด มาถึงจุดนี้แล้วเพื่อนๆก็คงอยากจากทราบกันแล้วว่าทำอย่างไร


ใช้บับเบิ้ลเป็นตัวรองกระแทกสินค้าจากด้านในกล่องพัสดุ
เป็นอุปกรณ์พื้นฐานระดับต้นๆเลยก็ว่าได้สำหรับการเลือกกันกระแทกให้กับสินค้าของเรา แนะนำให้ห่อ 2-3 รอบของสินค้าของเราเพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

เลือกขนาดให้ถูกไซส์กับสินค้าที่นำส่ง
การเลือกขนาดกล่องให้พอเหมาะกับสินค้าของเราสามารถช่วยให้สินค้าของเราลดแรงกระทบลงไปได้อย่างมาก แนะนำให้ใส่กันกระแทกด้านในด้วยและจะทำให้สินค้าของเรามีขนาดพอดีกับกล่องเวลาเขย่าแล้วจะไม่มีเสียง

ตรวจเช็คมาตรฐานของกล่องพัสดุก่อนทำการส่งทุกครั้ง
ทำการเช็คกล่องก่อนทำการส่งทุกครั้งว่ามีความเสียหายอย่างไรหรือไม่ หากอยากได้กล่องดีมีมาตรฐาน อย่าลืมมองหา Supplier รับผลิตกล่องที่มีมาตรฐาน ไว้ใจได้กันด้วยนะครับ

ตรวจสอบความแน่นหนาด้วยการเขย่ากล่อง
ให้ตรวจสอบโดยการเขย่ากล่องก่อนทุกครั้งที่จะส่งว่าสินค้าของเราในกล่องมันหลวมมากไปหรือไม่ เพราะหากหลวมมากไปจะทำให้สินค้าของเราได้รับแรงกระแทกมากยิ่งขึ้น

ติดเทปกาวบนกล่องรูปตัว H
การติดเทปกาวเป็นรูปตัว H สามารถทำได้โดยให้พนักงานสอนได้เลย การติดแบบนี้จะทำให้กล่องของเราแน่นหนาและแกะได้ยาก หมดปัญหากล่องแง้มก่อนถึงมือผู้ซื้อแน่นอน

ซื้อประกันลดความเสี่ยง
การซื้อประกันเพื่อลดความเสี่ยงอาจจะขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าที่เราส่งด้วย หากเราส่งสินค้าที่มีราคาสูงมาก ก็แนะนำให้เสียประกันไว้ไม่เสียหาย

ใส่เบอร์โทรทั้งสองฝ่ายไว้ ประสานงานได้ไวขึ้น
ใส่เบอร์โทรทุกครั้งที่ส่ง หากเราใส่ที่อยู่ผิดก็ยังมีเบอร์โทรที่ช่วยเราได้เสมอ แนะนำให้เขียนชัดและตัวใหญ่

สนใจกล่องแพ็คเกจ กล่องไปรษณีย์สร้างแบรนด์ สร้างความแตกต่าง ราคาประหยัดได้ที่ www.loveparcel.net หรือ facebook/loveparcel หรือ 0859142515
#11
5 เหตุผลที่สินค้าขายไม่ได้

หลายๆครั้งที่เราชอบสินค้าหนึ่งมาก ถูกใจแต่ไม่ซื้อ ไปซื้อร้านอื่นแทน พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าอาจแปรผันตามลักษณะประชากร เช่น อายุ เพศ การศีกษา แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า


ควรเรียนรู้ว่าลูกค้าจะถูกครอบงำการตัดสินใจด้วยความจำเป็นทางจิตใจและทางสังคม หลายๆครั้งลูกค้าไม่ซื้อแม้ในตอนแรกจะมีอะไรดึงดูดให้เข้าไปดูและชอบก็ตาม หลายๆครั้งกลายเป็นว่าลูกค้าซื้อเพราะตามคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน บุคคลที่อิทธิพลต่อผู้ซื้อ แล้วเราจะนำเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์กับธุรกิจของเราได้อย่างไร

1. ใช้การอ้างอิงบุคคลผู้มีอิทธิพลเหนือลูกค้า
หลายๆครั้งที่เราถามเพื่อนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรู หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่นการตัดสินใจซื้อมือถือคงจะไม่เหมือนกับการซื้อเยลลี่ถ้วยหนึ่ง เราจึงมีแนวโน้มจะถามเพื่อนผู้รู้เรื่องเทคโนโลยีว่ามันคุ้มค่าไหมที่จะซื้อ นี่ก็คือการที่กลุ่มอ้างอิงมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของผู้บริโภค
กลุ่มอ้างอิงนี้มีอิทธิพลมากกว่าในประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาอีกด้วย เป็นที่สังเกตว่าแม้เราจะชอบสินค้าหนึ่งมากๆแต่ถ้าใครที่มีอิทธิพลต่อการซื้อของเราไม่เห็นด้วย หรือบอกเราว่ามันไม่ดี ไม่คุ้มค่า เราก็จะสูญเสียความมั่นใจที่จะซื้อมันไปเลย

เอามาปรับใช้อย่างไร
บางบริษัทอาจหากลุ่มคนอ้างอิงมาสร้างอิทธิพลทางอ้อมในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า บริษัทเล็กอาจให้ส่วนลด หรือ มีอะไรพิเศษให้ถ้าเป็นการซื้อโดยการแนะนำของลูกค้าเก่า

2. ความผูกพันกับแบรนด์
ลูกค้าอาจมีความผูกพันกับบางแบรนด์ ความชื่นชอบต่อแบรนด์นั้นๆอาจทำให้แม้เจอสินค้าที่ดีกว่า รู้สึกชอบ ก็ยังไม่อยากซื้ออยู่ดี


เอามาปรับใช้อย่างไร
การโฆษณาต่างๆ อาจไม่ช่วยในกรณีนี้ เพราะคุณกำลังสู้กับแบรนด์ที่ฝังรากลึกมานาน แต่ควรใช้วิธีในการทำให้คนเข้าใจในประโยชน์หรือคุณค่าของสินค้าคุณด้วยการเชื่อมโยงหรือเทียบเท่าแบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว วิธีนี้ง่ายที่จะทำให้คนเข้าใจมากขึ้นและเหมาะมากกับสินค้าใหม่ๆ

3. บุคคลที่มีวิถีเรียบง่าย
ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคอาจมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าได้ เช่นคนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายจะไม่ค่อยลองของใหม่ และมักคิดวาการshopping เป็นการเสียเวลาด้วย พวกเขามักซื้อของเดิมที่เคยใช้ นอกจากนี้บางคนยังมองว่าอาจมีความเสี่ยงเรื่องการเงินในการลองสินค้าใหม่ทำให้ไม่เคยได้มองสินค้าใหม่เลย ดังนั้นการโฆษณาก็ไม่ได้ช่วยในคนกลุ่มนี้เท่าไร

เอามาปรับใช้อย่างไร
ต้องใช้แคมเปญโปรโมชั่นอย่างแรงเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ลองซื้อสินค้า เช่นการให้ตัวอย่างฟรี หรือส่วนลด และในกรณีนี้สินค้าใหม่ต้องไม่แพงกว่าสินค้าเก่าด้วย

4. การหมกหมุ่นอยู่กับสถานะทางสังคม
คนบางคนระวังมากว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไร หิ้วกระเป๋าอะไร เพราะเป็นการสะท้อนสถานภาพทางสังคมของพวกเขา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นน้ำหอม เครื่องสำอาง นาฬิกาถึงต้องให้ดารา หรือไฮโซมาทำการตลาดให้
ลูกค้าเหล่านี้ให้ความสนใจกับแบรนด์ไม่ใช่เพราะคุณภาพสินค้า แต่จากภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทำให้สถานะทางสังคมของเขาสูงขึ้น

เอามาปรับใช้อย่างไร
อันนี้ชัดเจนมากว่าคุณไม่ควรพยายามขายสินค้าไปยังกลุ่มที่ไม่มีวันสนใจ จงใช้ความพยายามกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ที่มีโอกาสซื้อสินค้าได้

5. ปัจจัยด้านราคา
ราคาที่ผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้ามาก ไม่ได้หมายความว่าสินค้าจะต้องถูกเท่านั้นถึงจะดึงดูดลูกค้าได้  สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตบางอย่างราคาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก


ในขณะเดียวกับที่เสื้อผ้าดีไซน์เนอร์ ทีวี หรือสินค้าไฟฟ้าราคาแพงอาจมีปัจจัยด้านราคาเข้ามาเกี่ยวข้องก่อนการตัดสินใจซื้อ ถ้าลูกค้ามีความสามารถในการซื้อได้ในราคาไหน พวกเขาก็จะเลือกสินค้าราคานั้นๆ

เอามาปรับใช้อย่างไร
เราจึงควรแยกแยะลูกค้าให้ออกและขายสินค้าให้สอดคล้องกับพวกเขา และควรขายในราคาที่แข่งขันได้ ถ้าลูกค้ารู้สึกว่าสินค้ามีคุณภาพที่ดีกว่าคู่แข่งอื่นมาก ก็อาจขายแพงกว่าได้แต่ก็ต้องโฆษณาเยอะเพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ และถ้าลูกค้าไม่รู้จักสินค้าคุณดีพอ แค่เห็นราคา คุณก็อาจเสียโอกาสทางธุรกิจไปเลย
ไม่ว่าสินค้าคุณคืออะไร จะเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างแบรนด์ หรือการทำให้คนจดจำได้ หรือให้เห็นความแตกต่างจริง ๆ สำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ การส่งสินค้าอย่างมืออาชีพอาจเป็นจุดต่างที่สำคัญจุดหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าจดจำและผูกพันกับแบรนด์ได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจแม้แพ็คเกจที่ใช้ส่งสินค้า ให้แตกต่าง และอาจทำให้ลูกค้าที่ไม่เคยสั่งสินค้าเราสังเกตเห็นแพ็คเกจที่แตกต่างและใส่ใจ จนนำไปสู่การสั่งซื้อในที่สุด

สนใจกล่องแพ็คเกจ กล่องไปรษณีย์สร้างแบรนด์ สร้างความแตกต่าง ราคาประหยัดได้ที่ www.loveparcel.net หรือ facebook/loveparcel หรือ 0859142515

Credit: Rajiv Sighamony-Startups from www.hongkiat.com
#12
5 เหตุผลที่สินค้าขายไม่ได้

หลายๆครั้งที่เราชอบสินค้าหนึ่งมาก ถูกใจแต่ไม่ซื้อ ไปซื้อร้านอื่นแทน พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าอาจแปรผันตามลักษณะประชากร เช่น อายุ เพศ การศีกษา แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า


ควรเรียนรู้ว่าลูกค้าจะถูกครอบงำการตัดสินใจด้วยความจำเป็นทางจิตใจและทางสังคม หลายๆครั้งลูกค้าไม่ซื้อแม้ในตอนแรกจะมีอะไรดึงดูดให้เข้าไปดูและชอบก็ตาม หลายๆครั้งกลายเป็นว่าลูกค้าซื้อเพราะตามคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน บุคคลที่อิทธิพลต่อผู้ซื้อ แล้วเราจะนำเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์กับธุรกิจของเราได้อย่างไร

1. ใช้การอ้างอิงบุคคลผู้มีอิทธิพลเหนือลูกค้า
หลายๆครั้งที่เราถามเพื่อนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรู หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่นการตัดสินใจซื้อมือถือคงจะไม่เหมือนกับการซื้อเยลลี่ถ้วยหนึ่ง เราจึงมีแนวโน้มจะถามเพื่อนผู้รู้เรื่องเทคโนโลยีว่ามันคุ้มค่าไหมที่จะซื้อ นี่ก็คือการที่กลุ่มอ้างอิงมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของผู้บริโภค
กลุ่มอ้างอิงนี้มีอิทธิพลมากกว่าในประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาอีกด้วย เป็นที่สังเกตว่าแม้เราจะชอบสินค้าหนึ่งมากๆแต่ถ้าใครที่มีอิทธิพลต่อการซื้อของเราไม่เห็นด้วย หรือบอกเราว่ามันไม่ดี ไม่คุ้มค่า เราก็จะสูญเสียความมั่นใจที่จะซื้อมันไปเลย

เอามาปรับใช้อย่างไร
บางบริษัทอาจหากลุ่มคนอ้างอิงมาสร้างอิทธิพลทางอ้อมในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า บริษัทเล็กอาจให้ส่วนลด หรือ มีอะไรพิเศษให้ถ้าเป็นการซื้อโดยการแนะนำของลูกค้าเก่า

2. ความผูกพันกับแบรนด์
ลูกค้าอาจมีความผูกพันกับบางแบรนด์ ความชื่นชอบต่อแบรนด์นั้นๆอาจทำให้แม้เจอสินค้าที่ดีกว่า รู้สึกชอบ ก็ยังไม่อยากซื้ออยู่ดี


เอามาปรับใช้อย่างไร
การโฆษณาต่างๆ อาจไม่ช่วยในกรณีนี้ เพราะคุณกำลังสู้กับแบรนด์ที่ฝังรากลึกมานาน แต่ควรใช้วิธีในการทำให้คนเข้าใจในประโยชน์หรือคุณค่าของสินค้าคุณด้วยการเชื่อมโยงหรือเทียบเท่าแบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว วิธีนี้ง่ายที่จะทำให้คนเข้าใจมากขึ้นและเหมาะมากกับสินค้าใหม่ๆ

3. บุคคลที่มีวิถีเรียบง่าย
ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคอาจมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าได้ เช่นคนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายจะไม่ค่อยลองของใหม่ และมักคิดวาการshopping เป็นการเสียเวลาด้วย พวกเขามักซื้อของเดิมที่เคยใช้ นอกจากนี้บางคนยังมองว่าอาจมีความเสี่ยงเรื่องการเงินในการลองสินค้าใหม่ทำให้ไม่เคยได้มองสินค้าใหม่เลย ดังนั้นการโฆษณาก็ไม่ได้ช่วยในคนกลุ่มนี้เท่าไร

เอามาปรับใช้อย่างไร
ต้องใช้แคมเปญโปรโมชั่นอย่างแรงเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ลองซื้อสินค้า เช่นการให้ตัวอย่างฟรี หรือส่วนลด และในกรณีนี้สินค้าใหม่ต้องไม่แพงกว่าสินค้าเก่าด้วย

4. การหมกหมุ่นอยู่กับสถานะทางสังคม
คนบางคนระวังมากว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไร หิ้วกระเป๋าอะไร เพราะเป็นการสะท้อนสถานภาพทางสังคมของพวกเขา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นน้ำหอม เครื่องสำอาง นาฬิกาถึงต้องให้ดารา หรือไฮโซมาทำการตลาดให้
ลูกค้าเหล่านี้ให้ความสนใจกับแบรนด์ไม่ใช่เพราะคุณภาพสินค้า แต่จากภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทำให้สถานะทางสังคมของเขาสูงขึ้น

เอามาปรับใช้อย่างไร
อันนี้ชัดเจนมากว่าคุณไม่ควรพยายามขายสินค้าไปยังกลุ่มที่ไม่มีวันสนใจ จงใช้ความพยายามกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ที่มีโอกาสซื้อสินค้าได้

5. ปัจจัยด้านราคา
ราคาที่ผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้ามาก ไม่ได้หมายความว่าสินค้าจะต้องถูกเท่านั้นถึงจะดึงดูดลูกค้าได้  สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตบางอย่างราคาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก


ในขณะเดียวกับที่เสื้อผ้าดีไซน์เนอร์ ทีวี หรือสินค้าไฟฟ้าราคาแพงอาจมีปัจจัยด้านราคาเข้ามาเกี่ยวข้องก่อนการตัดสินใจซื้อ ถ้าลูกค้ามีความสามารถในการซื้อได้ในราคาไหน พวกเขาก็จะเลือกสินค้าราคานั้นๆ

เอามาปรับใช้อย่างไร
เราจึงควรแยกแยะลูกค้าให้ออกและขายสินค้าให้สอดคล้องกับพวกเขา และควรขายในราคาที่แข่งขันได้ ถ้าลูกค้ารู้สึกว่าสินค้ามีคุณภาพที่ดีกว่าคู่แข่งอื่นมาก ก็อาจขายแพงกว่าได้แต่ก็ต้องโฆษณาเยอะเพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ และถ้าลูกค้าไม่รู้จักสินค้าคุณดีพอ แค่เห็นราคา คุณก็อาจเสียโอกาสทางธุรกิจไปเลย
ไม่ว่าสินค้าคุณคืออะไร จะเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างแบรนด์ หรือการทำให้คนจดจำได้ หรือให้เห็นความแตกต่างจริง ๆ สำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ การส่งสินค้าอย่างมืออาชีพอาจเป็นจุดต่างที่สำคัญจุดหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าจดจำและผูกพันกับแบรนด์ได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจแม้แพ็คเกจที่ใช้ส่งสินค้า ให้แตกต่าง และอาจทำให้ลูกค้าที่ไม่เคยสั่งสินค้าเราสังเกตเห็นแพ็คเกจที่แตกต่างและใส่ใจ จนนำไปสู่การสั่งซื้อในที่สุด

สนใจกล่องแพ็คเกจ กล่องไปรษณีย์สร้างแบรนด์ สร้างความแตกต่าง ราคาประหยัดได้ที่ www.loveparcel.net หรือ facebook/loveparcel หรือ 0859142515

Credit: Rajiv Sighamony-Startups from www.hongkiat.com
#13
loveparcel จำหน่ายกล่องพัสดุ กล่องกระดาษสำเร็จรูป ลักษณะเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร

loveparcel จำหน่ายกล่องพัสดุลายน่ารัก กล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์ตัวเอง สามารถเลือกลายพิมพ์ได้เองเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร เน้นความแตกต่างด้วยสไตล์ที่มีระดับ วัสดุทนทานแข็งแรงปกป้องสิ่งของด้านในกล่องได้อย่างดีเยี่ยม ลวดลายการออกแบบต่างๆ เป็นที่น่าจดจำทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อสินค้าจากเราได้อีก

ทำไมต้องทำกล่องกับ loveparcel
- คุณภาพกล่องระดับเกรดพรีเมี่ยม ปกป้องสิ่งของด้านในได้อย่างดี
- ฟรีไดคัทโลโก้ของลูกค้าจากทีมงานมืออาชีพ
- กล่องพัสดูมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายลวดลายให้เลือก


เลือกชมขนาดกล่องพัสดุได้ทาง loveparcel shop

โปรโมชั่นจากทาง loveparcel
สำหรับการสั่งพิมพ์ลวดลายบนกล่องพัสดุหรือโลโก้ของลูกค้าเองบนกล่องพัสดุตามรูปแบบที่กำหนด
ฟรีค่าไดคัทมูลค่า 1,500 บาท

ติดต่อทางร้าน
loveparcel365@gmail.com
085-914-2515 หรือ 082-494-0979
line : loveparcel
#14
สร้างแบรนด์สินค้าให้น่าจดจำด้วย กล่องพัสดุ ในการจัดส่ง

ทุกวันนี้มีแบรนด์หรือสินค้าต่างๆ ออกมากันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ยังมีบางสิ่งที่ผู้ประกอบการนั้นมองข้ามไปก็คือเรื่องของกล่องพัสดุในการการจัดส่งที่สามารถทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น


กล่องพัสดุ ช่วยให้สินค้าเราเป็นที่น่าจดจำ
กล่องพัสดุมีความสำคัญช่วยให้ลูกค้าจดจำว่าเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเรา ซึ้งกล่องพัสดุที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้าของเราต่อตัวลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากทางร้านของเรา

วันนี้เราจึงอยากขอแนะนำกล่องพัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทาง loveparcel
กล่องพัสดุ จากทาง loveparcel เป็นกล่องพัสดุที่มีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่น่าจดจำ และมีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน กล่องพัสดุของเราผ่านการออกแบบอย่างดีและมีคุณภาพ จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าที่จะนำมาบรรจุด้านในนั้นจะไม่มีการได้รับอันตรายจากการขนส่ง กล่องพัสดุจากทางเราลูกค้าสามารถสั่งพิมพ์ลายหรือโลโก้ที่ต้องการลงบนกล่องได้เพื่อให้เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น รับรองได้ว่าลูกค้าต้องกลับมาสั่งสินค้าจากคุณอีกแน่นอน

ตัวอย่างกล่องพัสดุจากทาง loveparcel



ลองดูรายละเอียดกล่องแพ็คเกจ กล่องไปรษณีย์ที่แตกต่างเพื่อสร้างแบรนด์ของคุณได้ที่
www.loveparcel.net
facebook/loveparcel
Tel : 085-914-2515
Line : loveparcel
#15
สร้างแบรนด์สินค้าให้น่าจดจำด้วย กล่องพัสดุ ในการจัดส่ง

ทุกวันนี้มีแบรนด์หรือสินค้าต่างๆ ออกมากันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ยังมีบางสิ่งที่ผู้ประกอบการนั้นมองข้ามไปก็คือเรื่องของกล่องพัสดุในการการจัดส่งที่สามารถทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น


กล่องพัสดุ ช่วยให้สินค้าเราเป็นที่น่าจดจำ
กล่องพัสดุมีความสำคัญช่วยให้ลูกค้าจดจำว่าเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเรา ซึ้งกล่องพัสดุที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้าของเราต่อตัวลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากทางร้านของเรา

วันนี้เราจึงอยากขอแนะนำกล่องพัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทาง loveparcel
กล่องพัสดุ จากทาง loveparcel เป็นกล่องพัสดุที่มีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่น่าจดจำ และมีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน กล่องพัสดุของเราผ่านการออกแบบอย่างดีและมีคุณภาพ จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าที่จะนำมาบรรจุด้านในนั้นจะไม่มีการได้รับอันตรายจากการขนส่ง กล่องพัสดุจากทางเราลูกค้าสามารถสั่งพิมพ์ลายหรือโลโก้ที่ต้องการลงบนกล่องได้เพื่อให้เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น รับรองได้ว่าลูกค้าต้องกลับมาสั่งสินค้าจากคุณอีกแน่นอน

ตัวอย่างกล่องพัสดุจากทาง loveparcel



ลองดูรายละเอียดกล่องแพ็คเกจ กล่องไปรษณีย์ที่แตกต่างเพื่อสร้างแบรนด์ของคุณได้ที่
www.loveparcel.net
facebook/loveparcel
Tel : 085-914-2515
Line : loveparcel