Main Menu

ข่าว:

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ www.SongkhlaMedia.com เรียนเชิญชาวสงขลาและทุกท่านร่วมขับเคลื่อนเว็บไซต์สาระที่มากกว่าข่าว ร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อสงขลาบ้านเรา

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - ฅนสองเล

#1
เสริมแหนบ แต่งโช้ค สำหรับปิคอัพสายบรรทุก ธีระการช่าง...ทำได้

รถกระบะ รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ มีปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการบรรทุกและช่วยการทรงตัวของรถคือ ช่วงล่าง โช้คอัพ แหนบ เพลาลอย ล้วนมีความสำคัญต่อการทรงตัวของรถทั้งสิ้น หากไม่ประกอบด้วยอะไหล่คุณภาพ ช่างผู้ชำนาญงาน อาจส่งผลต่อการทรงตัวของรถได้

ธีระการช่าง เราคือผู้นำด้านโช้คอัพรถยนต์ การเสริมแหนบรถกระบะเพื่อเพิ่มน้ำหนักการบรรทุกให้ได้มากขึ้นนั้น สำหรับการบรรทุกไม่เกิน 3 ตัน สามารถทำได้โดยไม่ต้องใส่เพลาลอย ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้ โดยที่ร้านของเรามีแหนบเสริมสำหรับการบรรทุก มีช่างผู้ชำนาญงานคอยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า

ร้านธีระการช่าง ให้บริการงานซ่อมรถยนต์ โช้คอัพ ช่วงล่าง เบรก คลัชท์ เกียร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ทุกชนิด ด้วยเครื่องมือทันสมัย ทีมช่างมีประสบการณ์ ร้านอยู่เยื้องห้างบิ๊กซีคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดบริการทุกวันจันทร์ – เสาร์ 08.00 – 17.00 น.  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร/ไลน์ 0864910345

ทุกปัญหาเรื่องรถยนต์ คิดอะไรไม่ออกบอกธีระการช่าง 
#ธีระการช่าง #โช้ครถยนต์ไฟฟ้า #โช้คเนต้า #แต่งรถยนต์ #ซ่อมรถยนต์หาดใหญ่ #โช้คอัพภาคใต้
--------------
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแหนบ
แหนบ คือ เหล็กสปริงที่ช่วยในการรับน้ำหนักยืดหยุ่นและทำให้เกิดความนิ่มนวลแก่ผู้ใช้รถวัตถุดิบที่ใช้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นเหล็กพิเศษซึ่งมีสปริงอยู่ในตัว เมื่อกดแล้วจะสปริงคืนตัว แหนบสปริงไม่ใช่เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง ประเทศไทยยังไม่ได้ผลิตเหล็กแหนบสปริง  มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ผลิตเหล็กแหนบสปริงได้

การทำงานของแหนบ
ทำงานโดยอาศัยการโค้งงอหรือแอ่นของแผ่นเหล็กสปริงซึ่งโค้งเป็นรูปวงรี (Semi-Ellipse) โดยติดตามแนวยาวกับตัวรถทั้งสองข้างล้อๆ ละตับ หรือติดขวางกับตัวรถแล้วแต่ผู้ออกแบบ

แหนบตับ (Multileaf Spring)
ประกอบด้วยแหนบหลายแผ่นที่มีขนาดความยาวแตกต่างลดหลั่นกันตามลำดับวางซ้อนกันเป็นตับ  ตรงกลางมีรูโดยการใช้สกรูยึดให้ทุก ๆ แผ่นติดกัน สกรูยึดนี้ เรียกว่าสะดือแหนบ (Center bolt) เมื่อล้อเต้นขึ้นลงหรือตกหลุม ทำให้แหนบเด้งขึ้นลงตาม ส่วนปลายแหนบก็จะอ้าออกจากกัน  เพื่อป้องกันการแยกออกของแผ่นแหนบ จึงจำเป็นต้องมีเหล็กรัดแหนบ (Rebound Cilps) หรือที่เรียกว่า "แหนบตัวรัด" ลักษณะของแหนบตัวที่หนึ่งจะมีลักษณะเป็นตัวยาวที่ปลายทั้งสองข้างม้วนเป็นวงกลมเรียกว่า "ตัวหู" (Spring eyes) เป็นตัวยึดกับโครงรถโดยมีบู๊ชหูแหนบ (Bushings) มีหน้าที่ช่วยป้องกันหูแหนบสึกเร็ว 

ซึ่งบู๊ชส่วนมากทำด้วยยางและทองเหลือง  ส่วนสลักแหนบ (Spring Bolts) เป็นตัวยึดตรึงให้แหนบอยู่กับที่และรับแรงทางด้านต่าง ๆ จากเพลาล้อผ่านแหนบเข้าสู่โครงรถ เช่น แรงจากการเบรก ทำให้แรงจากเบรกล้อผ่านแหนบเข้าสู่โครงรถ เป็นต้น ส่วนปลายแหนบอีกด้านหนึ่งจะมีโตงเตงหูแหนบ (Spring shackle) เป็นตัวแขวนแหนบเข้ากับเต้าโตงเตงหูแหนบ (Shackle Bracket) ซึ่งยึดแน่นกับโครงรถ โตงเตงหูแหนบสามารถโยกแกว่งไปมาบนเต้าโตงเตง หรือที่เรียกว่า ตุ๊กตา ทำให้แหนบสามารถยืดเข้าออกได้ เพราะขณะรับน้ำหนักภาระต่าง ๆ แหนบจะแอ่นตัวและความยาวเพิ่มขึ้น ขณะที่ล้อลงหลุม แหนบจะฟรีไม่รับน้ำหนัก ความยาวของแหนบจะลดลง เพราะความโค้งของแหนบที่ได้รับการออกแบบไว้

แหนบบางตับจะเพิ่มความแข็งแรงให้กับหูแหนบโดยการม้วนปลายทั้งสองข้างของแผ่นที่สองให้รัดครอบ หูแหนบของแผ่นแรกเรียกว่า 2 งอ และถ้าจะให้แข็งแรงมากขึ้นก็ควรเสริมตัวตรงอีก 1 ตัว (สำหรับรถใช้บรรทุกหนัก) 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.yongkee.com
#2
11 เทศบาลในจังหวัดสงขลา ที่ไม่ได้มีชื่่อเดียวกับตำบลที่ตั้ง

จังหวัดสงขลา มี 16 อำเภอ 127 ตำบล ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มี 141 แห่ง 1 อบจ. 2 ทน. 11 ทม. 35 ทต. และ 92 อบต. โดยมีหลายท้องถิ่นที่ยกฐานะจากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลตำบล ทำให้มีท้องถิ่นซ้ำในตำบลเดียวกันหลายพื้นที่ และมีท้องถิ่นที่มีไม่เหมือนกับตำบลที่ตั้งจำนวน 11 แห่ง ดังนี้ (ในวงเล็บคือชื่อของท้องถิ่นอีกแห่งในตำบลเดียวกัน) 

1.เทศบาลนครสงขลา ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา
2.เทศบาลเมืองสิงหนคร ครอบพื้นที่ ต.หัวเขา ต.สทิงหม้อ และบางส่วนของต.ชิงโค และต.ทำนบ (อบต.ชิงโค ,อบต.ทำนบ)
3.เทศบาลตำบลจะนะ ต.บ้านนา อ.จะนะ (ทต.บ้านนา)
4.เทศบาลตำบลสทิงพระ ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ (อบต.จะทิ้งพระ)
5.เทศบาลตำบลนาสีทอง ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ (อบต.เขาพระ)
6.เทศบาลตำบลควนเนียง ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง (อบต.รัตภุมิ)
7.เทศบาลตำบลคลองแงะ ต.พังลา อ.สะเดา (อบต.พังลา)
8.เทศบาลตำบลปาดัง ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา (ทม.ปาดังเบซาร์)
9.เทศบาลตำบลนาทวีนอก ต.นาทวี อ.นาทวี (ทต.นาทวี)
10.เทศบาลตำบลท่าพระยา ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย (ทต.สะบ้าย้อย)
11.เทศบาลตำบลบ้านไร่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ (ทม.บ้านพรุ) 




#3
อำเภอที่มีตำบลเยอะที่สุดของสงขลา คือ?
จังหวัดสงขลา แบ่งการปกครองออกเป็น 16 อำเภอ คุณคิดว่าอำเภอไหนที่มีจำนวนตำบลมากที่สุด โดยจัดมาแล้วได้ 10 ลำดับ ลองมาทายก่อนรับชมกันดูว่าจะถูกกี่ข้อครับ

16 อำเภอของสงขลา เรียงลำดับได้ดังนี้ 
10.มี 5 อำเภอ ควนเนียง กระแสสินธุ์ บางกล่ำ นาหม่อม คลองหอยโข่ง 4 ตำบล
9.รัตภูมิ 5 ตำบล
8.เมืองสงขลา 6 ตำบล
7.เทพา 7 ตำบล
6.มี 2 อำเภอ สะบ้าย้อย สะเดา 9 ตำบล
5.นาทวี 10 ตำบล
4.มี 2 อำเภอ สิงหนคร สทิงพระ 11 ตำบล
3.ระโนด 12 ตำบล
2.หาดใหญ่ 13 ตำบล
1.จะนะ 14 ตำบล

#สงขลา #สงขลาน่ารู้ #แหลงใต้ #แหลงใต้กับนายต้อม #สองเลรีวิว #รีวิวบ้านบ้าน
#4
Motor Expo Hatyai พร้อมจัดใหญ่ส่งท้ายปี 8-11 ธ.ค.ที่เซ็นทรัลหาดใหญ่

ส.ยานยนต์สงขลา นำรถหลากหลายแบรนด์ดังรวมไว้ในที่เดียว พร้อมกิจกรรมมากมายในงาน มหกรรมยานยนต์ส่งท้ายปี Motor Expo Hatyai 2023 ครั้งที่ 8 วันที่ 8-11 ธ.ค. 66 ที่เซ็นทรัล หาดใหญ่

สมาคมการค้าธุรกิจยานยนต์จังหวัดสงขลา ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ แถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน "มอเตอร์ เอ็กซ์โป หาดใหญ่ 2023" ครั้งที่ 8 ภายใต้สโลแกน "Beyond – ความหมายที่มากกว่า" มหกรรมยานยนต์ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ที่รวบรวมยานยนต์หลากหลายแบรนด์มาให้ผู้สนใจได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกันในราคาโปรโมชั่น และรับสิทธิพิเศษต่างๆ ภายในงานนี้เท่านั้น พบกันวันที่ 8 – 11 ธันวาคม 2566 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1, หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 และบริเวณลานหาดใหญ่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายณรงค์ ตั้งภัสสรเรือง นายกสมาคมการค้าธุรกิจยานยนต์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า "วัตถุประสงค์หนึ่งของการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปหาดใหญ่ คือ การรวบรวมแบรนด์รถชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาไว้ที่เดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สนใจได้เลือกชม เลือกซื้อยานยนต์ในใจ และได้รับการบริการหลังการขายอย่างใกล้ชิดจากดีลเลอร์ในพื้นที่ โดยเฉพาะรถอีวีหรือรถไฟฟ้าที่มีหลากหลายแบรนด์ และทุกค่ายก็มาร่วมออกบูธในงานนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในจังหวัดสงขลา ได้มีโอกาสนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์และโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้กับพี่น้องชาวใต้อีกด้วย ซึ่งทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความคุ้มค่าจากการจองรถภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปหาดใหญ่ 2023 อย่างแน่นอน"

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมภาคความบันเทิงมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม เชียร์ และเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนในพื้นที่อีกด้วย โดยในปีนี้จัดการประกวดทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่ การประกวดร้องเพลงไทยสตริง อายุ 13 – 18 ปี, การประกวด Mr. Motor Man อายุ 17 – 30 ปี และการประกวด Motor Expo Kids Talent อายุไม่เกิน 13 ปี โดยเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมการประกวดสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 25 พฤศจิกายน 2566 ผ่านทางเพจ Motor Show Hatyai

ติดตามความเคลื่อนไหว โปรโมชั่นของแต่ละค่ายรถ และกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้ที่เพจ Motor Show Hatyai แล้วพบกันที่งาน "มอเตอร์เอ็กซ์โปหาดใหญ่ 2023" ครั้งที่ 8 "Beyond – ความหมายที่มากกว่า" ระหว่างวันที่ 8 – 11 ธันวาคม 2566 นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ จ.สงขลา

#5
เชิญชมนิทรรศการผลงานจิตรกรรมชุด "ปักษ์ใต้...ที่รัก" 3-30 พ.ย.ที่ลีการ์เดนส์

"บ้านสอนศิลป์ หาดใหญ่" จัดนิทรรศการแสดงเดี่ยวผลงานจิตรกรรมของครูนัส พนัส มุสิกธรรม ครูสอนศิลปะจาก บ้านสอนศิลป์ ชุด "Homeland Memorial" ปักษ์ใต้...ที่รัก วันที่ 3-30 พฤศจิกายน 2566 ณ com mon gallery g fl. ลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ เชิญช่วนทุกท่านไปชมกันได้

โดยมีพิธีเปิดงานอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเองไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ย.66 มี รศ.นิคอเละ ระเด่นอาหมัด ร่วม อาร์ต ทอล์ค "ดูศิลปะอย่างไรให้สนุก" มีการแสดงเดี่ยวแซกโซโฟน ดนตรี โดยมีเพื่อนศิลปิน จิตรกรรม และผู้สนใจร่วมเยี่ยมชมผลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในงานมีนิทรรศการผลงานของคุณพนัส พร้อมศิลปินรับเชิญ ผลงานศิษย์บ้านสอนศิลป์ มาแสดงให้ชมอย่างหลากหลายอารมณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ปักษ์ใต้...ที่รัก"

ผู้ที่สนใจสามารถไปเยี่ยมชมได้ทุกวันตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น. โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ด้านศิลปะเพิ่มเติมด้วย พาบุตรหลานไปกันได้เลย เพลิดเพลิน ได้ความรู้ และได้ช้อปปิ้งกันที่ ลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ ด้วยครับ   
#6
อำเภอไหน? ใหญ่ที่สุด? ในจังหวัดสงขลา
ลำดับที่ 16 อำเภอนาหม่อม แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 29 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 92.47 ตร.กม.
ลำดับที่ 15 อำเภอกระแสสินธุ์ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 96.4 ตร.กม.
ลำดับที่ 14 อำเภอสทิงพระ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 11 ตำบล 79 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด   120 ตร.กม.
ลำดับที่ 13 อำเภอบางกล่ำ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 36 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 147.8 ตร.กม.
ลำดับที่ 12 อำเภอเมืองสงขลา แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 6 ตำบล 46 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 171.9 ตร.กม.
ลำดับที่ 11 อำเภอควนเนียง แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 46 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด   208.0 ตร.กม.
ลำดับที่ 10 อำเภอสิงหนคร แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 11 ตำบล 77 หมู่บ้าน ได้แก่ พื้นที่ทั้งหมด 228.0 ตร.กม.
ลำดับที่ 9 อำเภอคลองหอยโข่ง แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 32 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 274.00 ตร.กม.
ลำดับที่ 8 อำเภอจะนะ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 14 ตำบล 139 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 502.98 ตร.กม.
ลำดับที่ 7 อำเภอรัตภูมิ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 5 ตำบล 63 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 591.8 ตร.กม.
ลำดับที่ 6 อำเภอนาทวี แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 ตำบล 92 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 747 ตร.กม.
ลำดับที่ 5 อำเภอระโนด แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 12 ตำบล 73 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 783.8 ตร.กม.
ลำดับที่ 4 อำเภอหาดใหญ่ แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 13 ตำบล 98 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด   852.796 ตร.กม.
ลำดับที่ 3 อำเภอสะบ้าย้อย แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 9 ตำบล 62 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 852.81 ตร.กม.
ลำดับที่ 2 อำเภอเทพา แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 7 ตำบล 67 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 978 ตร.กม.
ลำดับที่ 1 อำเภอสะเดาแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 9 ตำบล 67 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 1,029.273 ตร.กม.

เป็นยังไงบ้างทายถูกกันกี่อันดับครับ

 #รีวิวบ้านบ้าน #ข่าวสารเข้มข้น #สองเลรีวิว ต้อมรัตภูมิ 0897384215 รายงาน
#7
เกสร คาเฟ่ ไม่ใช่แค่อร่อยแต่ที่นี่คือจุดเช็คอินใหม่ใจกลางเมืองหาดใหญ่

จากวิกฤตโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดจนทำให้เราเห็นธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมหรือทดแทนธุรกิจเดิมเช่นเดียวกับร้านเกสร คาเฟ่ ก่อนหน้านี้คือร้านเกสร ร้านของฝาก ของที่ระลึกที่นักท่องเที่ยวทั้งมาเลย์ อินโดฯ หรือแม้แต่ชาวไทยเมื่อมาหาดใหญ่ก็ต้องแวะที่นี่

เมื่อไม่มีแขกต่างชาติทางร้านเลยต้องปรับกลยุทธ์ใหม่กันอีกครั้งด้วยการเปิดร้านอาหารในสไตล์คาเฟ่ ร้านสวย บรรยากาศดี มีมุมให้เซลฟี่มากมาย ที่สำคัญร้านอยู่ใจกลางเมืองสุดถนนหอยมุกต์ ข้างโรงเรียนศรีนคร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีที่จอดรถสะดวกสบายกว้างขวางมากมาร้านนี้อุ่นใจได้เลย

บรรยากาศของร้านเพียงแค่เดินเข้ามาก็ต้องกล้องมาเซลฟี่กันแล้วเพราะร้านเขาสวยจริงๆ จะเลือกนั่งในห้องแอร์เย็นๆ หรือขึ้นไปชั้น 2 ในบรรยากาศโล่งสบายเลือกได้ทั้งนั่งโต๊ะ หรือนั่งแบบเอนนอนบนพื้นชิลล์ๆเหมือนอยู่บ้าน หลายคนบอกว่าที่นี่แค่มาถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว

ไปดูเมนูอาหารกันบ้างที่นี่มีเมนูหลากหลายมากทั้งอาหารสไตล์ยุโรป ไทย อีสาน มีให้เลือกมากมายหลายเมนู ทางร้านบอกว่ามีเชฟถึง 3 คนที่เชี่ยวชาญเมนูเฉพาะมาคอยปรุงอาหารเสิร์ฟลูกค้าแบบใหม่ สด ทุกวัน เมนูของทางร้านมีความหลากหลาย และที่แนะนำจะเป็น สเต็กเนื้อเทนเดอร์ลอยด์ เนื้อนุ่มๆ ห่อด้วยเบค่อนไก่ ทานคู่กับผักและซอสเนื้อ ที่เข้ากันอย่างลงตัว

เมนูกุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสดๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด เมนูกุ้งสองใจ ที่มีซอสเสิร์ฟคู่กันมาทั้งซอสมะขามและซอสกระเทียม เมนูต้มยำกุ้ง เมนูผมมากับไก่ ที่เป็นเมนูที่ได้คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ และเมนูแซลมอนลงกระเช้า ที่เนื้อแซลม่อนสดพอดีคำ ทานคู่กับน้ำราดสูตรเฉพาะ รวมไปถึงเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นน้ำมะม่วงสมูตตี้ ท้อปปิ้งด้วยเนื้อมะม่วงสด รสชาติมะม่วงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทริปเปิ้ลชอกโก้ ที่มีชอ็อกโกแลตถึง 3 ช็อตด้วยกัน "นมสดมันม่วง" มันม่วงเข้มๆ แยกชั้นมากับนมสด ท็อปด้วยวิปครีมของทางร้าน หรือจะเป็นสายกาแฟก็มีให้ฟิน ทั้ง "ลาเต้ โกโก้ คาราเมลมัคคีอาโต้" และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมายทั้ง ร้อน เย็น และแบบปั่น และยังมีของหวาน เค้ก เบเกอรี่ พานาคอตต้า อีกมากมายให้เลือก

ทางร้านไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเมนูที่มีหมูเป็นส่วนประกอบ ทางร้านยังมีบริการส่งอาหารแกร้ปฟู้ด ฟู้ดแพนด้า และเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ทำให้ลูกค้าทุกคนเต็มอิ่มจุใจไปกับบรรยากาศสวยๆ และอาหารอร่อยๆ ได้เลย  ห้ามพลาดกับร้าน "เกสร คาเฟ่" เปิดบริการเวลา 10.00-22.00 น.หยุดทุกวันพุธ โทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 083-970-0097 หรือเฟสบุ๊คแฟนเพจ Kaysorn Cafe
#8
พาสัมผัสชุมชนท่องเที่ยวบ้านจังโหลน ม.11 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นหนึ่งในโครงการดีๆ ที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย มุ่งส่งเสริมความเข้มแข็งผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสงขลา ร่วมขับเคลื่อนโครงการ​เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม​ศรี​วิชัย

บ้านจังโหลน หมู่ที่ 11 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หมู่บ้านตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดสงขลา ประวัติบ้านจังโหลน มีภูเขาที่มีตำนานเล่าขานมาช้านาน อีกทั้งยังมีวัดจังโหลน ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี ตามตำนานเล่าว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2100 เป็นวัดที่เก่าแก่ในบางช่วงก็ไม่มีพระอาศัย มีสภาพทรุดโทรม

ปัจจุบัน วัดจังโหลน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชน มีพระุทธรูปประดิษฐานภายในถ้ำที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ปู่เจ้า" เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดที่ชาวบ้านนิยมมาขอพร บนบานศาลกล่าวต่าง ๆ ภายในบริเวณวัดร่มรื่นเงียบสงบ และที่อีกมุมหนึ่งของวัดมีสิ่งที่น่าสนใจนั่นคือ ถ้ำเขาจังโหลน

ถ้ำเขาจังโหลน ที่บริเวณด้านล่างมีสระน้ำ มีพื้นที่จัดทำตลาดชุมชน ส่วนทางขึ้นถ้ำต้องเดินขึ้นบันได 259 ขั้น มีการก่อสร้างทางเดินที่สามารถเดินขึ้นไปได้จนถึงปากถ้ำที่สวยงาม มีหินงอกหินย้อยภายในถ้ำและสามารถเดินเชื่อมต่อภายในถ้ำได้ตลอดภูเขา มีจุดให้ถ่ายภาพมากมาย และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอำเภอรัตภูมิได้อย่างชัดเจน

บริเวณถ้ำแห่งนี้ยังมีพืชสมุนไพรมากมายหลายร้อยชนิด เหมาะสำหรับการเดินชมเขาสำรวจพืชสมุนไพร ดูสัตว์ป่า และยังมีหลักฐานบ่งบอกถึงเรื่องราววิถีชีวิตการประกอบอาชีพการหาขี้ค้างคาวมาทำปุ๋ยสำหรับทำนา ที่มีผู้คนเข้ามามากมาย ปัจจุบันยังคงมีร่องรอย มีการทำสายสลิงสำหรับขนมูลค้างคาวจากบนภูเขาลงมาด้านล่างด้วย

ประวัติชุมชนบ้านจังโหลน

บ้านจังโหลน มีประวัติความเป็นมามาช้านาน ในสมัยก่อนยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์บริเวณรอบเขาจังโหลน จึงมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมแก่การเพาะปลูก มีการทำนากันมาก ในบางครั้งจะมีช้างลงมากินข้าวในนาเกือบหมด ทำให้ชาวบ้านเรียกว่าเขาช้างโลน (กินโลน กินทิ้ง กินขว้าง) แล้วในปัจจุบันเพี้ยนมาเป็นเขาจังโหลน จึงเป็นที่มาของบ้านจังโหลน  โดยสามารถบรรยายออกมาผ่านกลอนได้ดังนี้
กราบปู่เจ้า เข้าถ้ำ ทำวิปัส
ชาดงามหนัด หินงอก ออกมาลุย
แต่เดิมที มีมายา พาทำปุ๋ย
ไม่ใช่คุย ดังว่า มายาเขา
เขาช้างโลน ก่อนนี้ มีช้างมา
กินข้าวกล้า ถึงว่า ช้างมันโลน
พอนานมา ว่าเอา เขาจังโหลน
จะบวชโกน วัดนี้ วิถีไทย

ประวัติปู่เจ้าหรือพ่อท่านสมเด็จเจ้าวัดจังโหลน
อดีตกาลที่ผ่านมา ประมาณ 400 ปีเศษ พ่อท่านสมเด็จเจ้า เป็นรัชทายาทในสมัยของพระเจ้าศรีอยุธยา เมื่อพระชนมายุครบยี่สิบพรรษา ก็สละราชสมบัติออกทรงผนวช ได้ธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ จนในที่สุดก็เจอบริเวณเขาจังโหลน ได้ปักกรดวิปัสสนากรรมฐานอยู่แถวเขาจังโหลน จนเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน ทำให้เกิดแนวคิดสร้างวัดจังโหลนขึ้นมา โดยร่วมมือกับชาวบ้านและลูกศิษย์สมัยนั้น ทำให้มีวัดจังโหลนเกิดขึ้นจวบจนปัจจุบัน ต่อมาได้มีการสร้างประติมากรรมรูปปั้นสมเด็จเจ้าจังโหลนบริเวณถ้ำ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

วัดจังโหลน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างช้านาน เริ่มแรกจากการก่อตั้งวัดจังโหลน สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ.2100 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ 24 ตุลาคม 2482 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 40 เมตร ผูกพัทธสีมา พ.ศ. 2482 และทางวัดได้เปิดให้มีการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม ตั้งแต่ พ.ศ. 2482

เขาจังโหลน เป็นหนึ่งในตำนานภูผาของรัตภูมิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เขาจังโหลนเป็นถ้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ หินงอก หินย้อย ที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มีป่าไม้ สัตว์ป่า น้ำผึ้งป่า และถ้ำโถงต่าง ๆ มากกว่า ๕๐ ถ้ำ มีเขตติดกับเขาจังโหลน ประกอบด้วย บ้านจังโหลน บ้านเกาะยาว และบ้านควนดาน จึงมีแนวทางร่วมกันอนุรักษ์และพัฒนาเขาจังโหลน จึงได้มีการจดทะเบียนกับป่าไม้จังหวัดเพื่อให้เป็นป่าสงวนป่าชุมชน ที่ให้ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์และดูแลให้สมบูรณ์อยู่เสมอ และมีบทกลอนเกี่ยวกับเขาจังโหลนว่า

เขาจังโหลน
แลตระหง่าน งามเด่น เป็นประจักษ์
คีรีลักษณ์ ล้อมรอบ ขอบขุนเขา
มีเหวหุบ เหินหิน ถิ่นลำเนา
เป็นนาเขา ลุ่มลึก ดึกดำบรรพ์
มีถ้ำทอง โถงทิพย์ หลายสิบถ้ำ
เรียงสูงต่ำ สลับทรง ในพงสัณฑ์
สรรพสัตว์ ร่ายบรรเลง เพลงชีวัน
ตามโขดขั้น ถิ่นบ้านเรา เขาจังโหลน

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านจังโหลน ยังมีประเพณีวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมายาวนาน มีสินค้าโอทอป และอีกมากมายที่น่าสนใจ รอติดตามกันได้ในตอนที่ 2
#9
หลงเสน่ห์เมืองรอง ชวนเที่ยว ระนอง เมืองมีฝนคนมีฝัน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร-ระนอง จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ให้ผู้ประกอบการธุระกิจท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา พบผู้ประกอบการธุระกิจท่องเที่ยวจังหวัดระนอง โดยนางสาวญาติกา แก้วบริสุทธ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานชุมพร-ระนอง พร้อมด้วย นายชัยภัทร เศรษฐยุกานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมทิองเที่ยวระนอง ให้การต้อนรับคณะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา

โดยเป็นการพูดคุยแลกเปี่ยนความคิดเห็นจรจาเชิญชวนไปค่ะไปเที่ยว "ระนอง"กันดีกว่า ระนองเมืองมีฝนคนมีฝัน  มีเขามีเราสานฝันระนองเมืองออนเซ็น เที่ยวเมืองรอง ไปได้ตลอดทั้งปี  สวยตั้งแต่ทะเลยันป่าเขา ชิลได้ ไม่มีเบื่อแน่นอน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามเราไปดูกันเลยค่ะ ระนองจังหวัดน่ารักที่มีที่เที่ยวครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตกหาดทราย ภูเขา วัด ตลาด พิพิธภัณฑ์ บ่อน้ำร้อน หรือแม้กระทั่งชุมชนชาวบ้านก็มีครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นสายไหนก็สามารถสนุกกับการเที่ยวระนองได้แน่นอน
มีหลายเส้นทางให้เลือกเดินทางไประนองทำได้หลายวิธี

หากใช้เส้นทางรถยนต์ ใช้เส้นเข้าถนนเพชรเกษม เลี้ยวขวาที่สี่แยกปฐมพรจังหวัดชุมพร ขับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงระนอง รถโดยสาร หรือก็คือรถทัวร์นั่นเอง มีหลากหลายเจ้าให้เลือกใช้บริการ รถไฟ ถึงแม้ว่าระนองจะไม่มีเส้นทางรถไฟ แต่ทุกคนสามารถนั่งรถไฟไปลงที่ชุมพร  แล้วนั่งรถโดยสารจากชุมพรมาอีก 1-2 ชั่วโมงก็ถึงระนองแล้ว
เครื่องบิน วิธีนี้สะดวกสุดๆ สำหรับคนที่อยากประหยัดเวลาเพราะระนองเขาก็มีเส้นทางบินของสายการบินด้วยนะ

การเดินทางในระนองใครที่ไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาก็สามารถขึ้นรถสองแถวอยู่  จะขึ้นลงตามป้ายปกติ หรือจะเหมาเที่ยวแบบเป็นแก๊งก็สนุกสนาน แต่ถ้าใครอยากไปเที่ยวเก็บหลายๆ  จุดแนะนำให้ขับรถส่วนตัวก็จะสะดวกขึ้น ไปค่ะมาเริ่มกันที่ "อำเภอเมืองระนอง" มาเที่ยวระนองทั้งที่จะพลาดอำเภอนี้ได้ไง เขามีทั้งพระราชวัง วัด ที่เที่ยวธรรมชาติ ถนนคนเดิน น้ำตก พิพิธภัณฑ์ ยันบ่อน้ำร้อน โอ้โหครบเครื่องขนาดนี้ บอกเลยว่ามาเที่ยวอำเภอเดียวก็คุ้มแล้วจ้า

ใครชอบประวัติศาสตร์สนุก ๆ ต้องมาที่เที่ยวระนองแห่งนี้เลย "บ้านร้อยปีเทียนสือ" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมเรื่องราวในอดีตของคนจีนในจังหวัดระนองรุ่นแรก ๆ ที่มาตั้งถิ่นฐาน เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของเมืองระนอง นอกจากนี้ยังมีบ้านโบราณที่เก็บประวัติต้นตระกูล ณ ระนอง เอาไว้ด้วยจวนเจ้าเมืองระนอง หรือค่ายเจ้าเมืองระนอง  ตั้งอยู่ถนนท่าเฉลิม อ.เมืองจ.ระนอง เป็นบ้านเจ้าเมืองเก่าซึ่งเป็นต้นตระกูล ณ ระนอง โดยได้รับเกียรติจาก ลุงโกศล ณ ระนองซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูลมานำชมค่ะ

จวนเจ้าเมืองสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2420 โดยพระยาดำรงสุจริต มหิศรภักดี (คอซิมก๊อง) สร้างให้กับพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี(คอซู้เจียง) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของระนอง
สภาพเดิมของจวนเจ้าเมืองระนอง มีเนื้อที่ 37 ไร่  มีแนวกำแพง ที่มีช่องปืนอยู่โดยรอบ  ประตูมีเรือนหอรบขนาดใหญ่ทำด้วยไม้ รูปแบบอาคารเป็นสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างกันในสมัยรัชการที่ 5 โดยเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 3 หลัง แฝด 3 ชั้น 3 หลัง ชั้น 2 มีระเบียงโดยรอบ ทายาทของ คอซุ้เจียง รุ่นที่ 2-3  ใช้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาใช้เป็นที่เก็บภาพถ่าย ป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ขอคอซู้เจียง ส่วนป้ายที่ประตูทางเข้า หมายถึง "ดวงตะวันอันสูงส่ง" โดยแกะสลักด้วยอักษรภาษาจีนบนไม้เนื้อแข็ง โดยพื้นและสลักเป็นรูปค้างคาวและก้อนเมฆ และยังมีข้าวของเครื่องใช้อีกมากมายให้ศึกษา

แวะไปนมัสการหลวงพ่อดีบุก ที่วัดบ้านหงาว อ.เมือง จ.ระนอง วัดนี้สร้างเมื่อปีก่อน พ.ศ.2530 ความสวยงามอยู่ที่อุโบสถลอยฟ้า ที่ภายในมีพระติปุกะพุทธมกาศากยมุนีศรีรณังค์  หรือที่เรียกันว่าหลวงพ่อดีบุก เพราะทำจากดีบักทั้งองค์ด้านหน้ามองเห็นน้ำตกหงาว ที่ไหลหล่นลงจากหน้าผาสูง 600 เมตรในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวกันแล้ว ก็ต้องหาแหล่งช้อปปิ้ง ประเภทของกินของฝากกันด้วย  เราเลือกเขาไปซื้อของฝากกันที่วิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เงินไหลเวียนอยู่ในท้องถิ่น
"ภูเขาหญ้า" หรือเขาหัวล้าน ที่เที่ยวระนองที่สาว ๆ สายถ่ายรูปต้องชอบ เพราะที่นี่เป็นภูเขาหัวโล้นขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ ในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเป็นสีเขียวดูสวยงาม ส่วนในหน้าแล้งภูเขาหญ้าก็จะเป็นหญ้าแห้งสีน้ำตาล ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่สีของภูเขาจะแตกต่างกันไป ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก ๆ

เสร็จแล้วค่อยนั่งเรือพรีสเลี้ยวไปตามคลองลัดโนด วิวสองข้างทางเขียวสวยมากมาย มีภูเขาสูงใหญ่เป็นแบ็กกราวน์ จนถึงกระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเราจะทานข้าวกลางวันกันที่นี่ อยู่เมืองทะเลก็ต้องกินทะเล จัดมาเล่นเต็มที่ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา รสชาติฝีมือแม่ครัวชาวระนองแท้ๆ รับประกันความสดและความอร่อย  นอกจากกินข้าว พักผ่อน เรายังได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงหอยนางรมตามธรรมชาติอีกด้วย

ต่อจากนั้นเราก็ลงแพเปียกไปเล่นน้ำกันด้วยพร้อมแล้วก็ไปกันเลย แพเปียกพาเราล่องเล่นน้ำไปเรื่อยๆ ตามคลองลัดโนด ไฮไลท์สำคัญคือสันหลังปึ้งกือหรือสันหลังกิ้งกือ เป็นชื่อตั้งล้อกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่สตูล เพราะที่นี่เป็นสันทรายขนาดเล็กกว่านั่นไงแม้ว่าวันนี้จะเป็นช่วงน้ำเยอะทำให้สันหลังยังไม่โผล่มาตอนที่เราไปถึง แต่ก็เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นแหละ ลงไปยืนเดินเล่นกลางลำคลองอยู่แค่ระดับหัวเข่าเท่านั้นเอง ทรายด้านล่างเนียนนุ่มเท้ามาก น่าเสียดายที่รออยู่จนเวลาที่สันทรายโผล่พ้นน้ำไม่ได้ เดี๋ยวจะเย็นย่ำเกินไปจากสันหลังปึ้งกือ แพเปียกพาเราล่องผ่าน ชุมชนไร้แผ่นดินของชาวเลเลี้ยงปูนิ่ม เป็นภาพวิถีและธรรมชาติที่สดชื่นมากเรากลับขึ้นฝั่ง อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จสิ้นภารกิจนั่งเรือพรีส ล่องแพเปียก เที่ยวคลองลัดโนด  ธรรมชาติที่นี่ก็สวยมาก สายฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย หนำซ้ำทำให้เราได้เห็นธรรมชาติในอีกแบบด้วย

จากนั้นไปชมบ้านร้อยปีเทียนสือ ซึ่งเป็นหลานเขยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้) และเป็นหลานเขยของพระยาสุจริตมหิศรภักดี(คอซุเจียง)  เทียนสือประสบความสำเร็จในการทำการค้าตั้งแต่ยังเด็ก จนร่ำรวย มีเงินเก็บไว้ในบ้านมากมายทำให้ต้องทำ ประตูทางเข้าบ้านถึง 5 ชั้น ผนังกำแพงก็หนาถึง 15 นิ้ว  บ้านจึงมีความแข็งแรง อยู่มาได้กว่า 120 ปี นับเป็นบ้านเก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่งของเมืองระนอง บ้านเทียนสือ เป็นเรือน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นตึก ลักษณะคล้ายบ้านแฝด  มีสวนกลางบ้าน หน้าต่างคล้ายกับหมวกทหารโบราณ ใครที่ชอบถ่ายรูปที่ดูออกย้อนยุคไม่ควรพลาด

ปิดท้ายด้วยสวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นอีกแห่งที่มาระนองแล้วต้องไม่พลาด เพราะที่นี่เขาน้ำแร่ไว้ให้นักท่องเที่ยวที่รักสุขภาพมานั่งหย่อนเท้าลงในน้ำอุ่นๆจนถึงร้อน ได้เลือกตามระดับความชอบถึง 3 บ่อ หรือจะลงแช่ทั้งตัวก็ยังได้ และสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำร้อน ก็สามารถไปแช่น้ำเย็นในสวนรุกขชาติขนาดย่อมที่อยู่ด้านหลังบ่อน้ำร้อน
#10
ครั้งหนึ่งในชีวิตเยี่ยมชม "ศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน" ที่ตลาดฟุกเทียนหาดใหญ่

ศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ตั้งอยู่ที่ตลาดเกษตรฟุกเทียน ถนนอัมพวัน ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการบริหารของนายธรรมยุทธ์  เจนพิชิตกุลชัย  ประธานบริษัทในเครือบริษัท ฟุกเทียน กรุ๊ป จำกัด ภายในศูนย์มีมหาสมบัติล้ำค่ามากมาย ให้ได้ชม ศึกษา เรียนรู้ เรียกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสมาเยี่ยมชมศูนย์แห่งนี้ให้ได้สักครั้ง

ทีมงานมีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมของสมบัติมีค่ามากมายที่เป็นสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์  ซึ่งได้รวบรวมโดยหลวงวิจารณ์เจียรนัย ซึ่งถือเป็นผู้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นช่างหลวงในราชสำนักผู้แกะพิมพ์พระสมเด็จ ถวายสมเด็จพุฒาจารย์โต และผสมมวลสารสร้างพระสมเด็จ ท่านได้รวบรวมสมบัติมากมายโดยสมบัติเหล่านี้ได้ตกทอดมาสู่ "คุณยอด" ธรรมยุทธ์ เจนพิชิตกุลชัย ที่เป็นทายาทรุ่นที่ 6 ของหลวงวิจารณ์เจียรนัย  ซึ่งเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในหีบจำนวนมากและท่านสั่งห้ามเปิดหีบภายใน 12 รอบหรือ 144 ปี มาครบรอบกับรุ่นตนจึงได้เปิดหีบนำมาเผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นได้ชมเป็นบุญตา

ส่วนมหาสมบัติจีน ที่นำมาแสดงเป็นวัตถุโบราณที่คุณแม่ของคุณธรรมยุทธ์ ขนมาจากประเทศจีนจำนวน 5 ลำเรือ ในสมัยราชวงศ์ชิง ซูสีไทเฮา  และ "ปูยี" จักรพรรดิองค์สุดท้ายจีนแผ่นดินใหญ่ มีทั้งชุดฮ่องเต็ ฮองเฮา ตราประทับ โดยตนเองต้องการที่จะนำของมีค่าทางประวัติศาตร์นี้ให้ผู้ที่สนใจได้รับชมโดยไม่ต้องไปชมถึงจีนหรือไต้หวัน ให้ได้สัมผัสคุณค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ทั้งประวัติศาสตร์และมูลค่า โดยภายในศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน มีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ ห้องพระ 12 องค์ เช่น หลวงพ่อ อยู่ ดี มี ศุข หลวงพ่อ เงิน ทอง เพิ่ม พูล, หลวงพ่อ จง รวย มั่น คง รูปพระแต่ละรูปหล่อแบบลิขสิทธิ์ หล่อใหม่ทั้ง 12 องค์ ,ห้องพระแก้ว ,ห้องพระพุทธชินราช ,ห้องพระสมเด็จ 99,999 องค์ ,ห้องหยก 999 องค์ มีเทพเจ้าที่ชาวจีนสักการะครบ ,ห้องชุดฮองเต้ + ฮองเฮา เช่น ชุด หมวก รองเท้า ตราประทับ ,ห้องหยกผักกาดขาว ,พระหยกองค์ละ 3 ตัน ,หยกหมู 3 ชั้น มีหลายชิ้นให้ชม และปืนทองคำแท้ 12 ราศี 12 กระบอก และปืนอื่นๆ อีก 99 กระบอก ฯลฯ

สำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชมศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมด้วยการร่วมบริจาคเข้ากองทุนนะโมพุทธายะ 400 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ แวะมาเยี่ยมชมกันได้ทุกวันศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ภายในตลาดฟุกเทียน เลขที่ 99 ถนนอัมพวัน ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา 90110   สอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ : 074-582341-2 ,084-6964778
#11
"ศิริโชค โสภา" จัดใหญ่ฟุตบอล 12 ปี อะคาเดมี่คัพ ปั้นเด็กใหม่เข้าทีมนาทวีซิตี้

อดีตส.ส.ศิริโชค โสภา ผนึกกำลังไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 12 ปี 12 ทีมจากทนาทวี+สะเดา ร่วมชิงชัยชิงถ้วยเกียรติยศจากอดีตนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะมาเปิดงานด้วยตัวเอง 18 ก.ย.นี้ที่สนามโรงเรียนบ้านนาทวี

(16 ก.ย.63) ณ สำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์เขต 7 อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายศิริโชค โสภา ประธานสโมสรฟุตบอลนาทวี ซิตี้ อดีต ส.ส.เขต 7 สงขลา พรรประชาธิปัตย์ ว่าที่ร้อยตรี ไพเจน มากสุวรรณ์ อดีตรองอธิบดีกรมชลประทน ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ผนึกกำลังหลายภาคส่วนร่วมจัดใหญ่ แถลงข่าวการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุ 12 ปี "อะคาเดมี่คัพ ครั้งที่ 1" เพื่อคัดเลือกนักฟุตบอลเข้าสู่สโมสรนาทวี ซิตี้ ชิงถ้วยรางวัลจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 โดยกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กันยายน - 19 ตุลาคม 2563 ณ สนามโรงเรียนบ้านนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

โดยรูปแบบการแข่งขันจะให้ส่งทีมเข้าแข่งขันในนามตำบลรวม 12 ทีม จากอำเภอนาทวี 10 ทีม และอำเภอสะเดา 2 ทีม (ต.สำนักแต้ว ,สำนักขาม) โดยทางสมโสรฟุตบอลนาทวี ซิตี้ จะเป็นผู้สนับสนุนทั้งชุดการแข่งขัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีเวทีแสดงออกทางทักษะฟุตบอล เป็นการผลิตดาวรุ่งตั้งแต่เด็กเพื่อเข้าสู่แคมป์อะคาเดมี่ของสโมสรนาทวี ซิตี้ และยังได้มีการร่วมกับทีมเมืองทองยูไนเต็ด ในการส่งเด็กเข้าคัดเลือกกับทีมอีกด้วย

นายศิริโชค โสภา เปิดเผยว่า "อำเภอนาทวี ถือเป็นถิ่นที่ผลิตนักฟุตบอทีมชาติมาแล้วมากมาย การเปิดโอกาสให้เด็กด้แสดงความสามารถก็จะเป็นอีกหนึ่งเทีที่จะให้เขามีโอกาสก้าวเข้าสู่นักกีฬาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและมีโอกาสรับใช้ทีมชาติไทยอีกด้วย การทำทีมนาทวีซิตี้ เราได้ส่งทีมแข่งขันในปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และเรามุ่งหวังที่จะพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องให้ก้าวสู่ลีกอาชีพโดยมีเยาวชนในท้องถิ่นเป็นกำลังหลักของสโมสรในอนาคต"

ด้านว่าที่ร้อยตรี ไพเจน มากสุวรรณ์ กล่าวถึงการเข้ามาร่วมสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลอะคาเดมี่ในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นถึงความตั้งใจของทีมที่จะสร้างโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ได้มีเวทีแสดงออกด้านการกีฬา ซึ่งตนเองมีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาจังหวัดสงขลาให้เป็นเมืองหลักด้านกีฬาของภาคใต้ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ นำกีฬามาร่วมเป็นธงส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดได้อีกทาง ด้วยศักยภาพของจังหวัดสงขลา เชื่อว่าสามารถพัฒนาได้อย่างแน่อน" 

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขัน ได้รับเกียรติจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 มาเป็นประธาน ในวันที่ 18 กันยายน 2563 ณ สนามโรงเรียนบ้านนาทวี ตั้งแต่ 15.00 น.เป็นต้นไป พร้อมชมการแสดงจากกลุ่มแม่บ้านกว่า 20 คณะ และการแข่งขันฟุตบอลคู่พิเศษนำทีมโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นาศิริโชค โสภา และนักฟุตบอลวีไอพีอีกมากมาย ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมชม มาร่วมให้กำลังใจบุตรหลานกันเยอะๆ น่ะครับ

ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Nathaweecityfootballclub
#12
แวะชิม Southern​ coffee​ กาแฟระดับพรีเมียมที่หน้าโลตัส เอ็กซ์เพรส ทุ่งลุง

Southern​ coffee​ กาแฟและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมที่หลายคนคุ้นเคย ก่อหน้านี้ส่วนใหญ่เราจะเจอกันแบบขายในห้าง ในร้านที่พื้นที่เป็นส่วนใหญ่แต่ปัจจุบัน Southern​ coffee​ เขายกร้านมาใกล้ชิดูกค้ามากยิ่งขึ้นแล้วน่ะ

ล่าสุดแอดแวะวชิมมาที่ Southern​ coffee​ หน้าโลตัส เอ็กซ์เพรส ทุ่งลุง หาดใหญ่ ริมทางหลวงหมายเลข4 มีรถสัญจรมากมาย ใครที่อยากดื่มกาแฟเข้มข้นรสชาติของคนใต้พลาดไม่ได้ กาแฟแท้ 2 สายพันธุ์เข้มข้นทุกเมนู โดยเฉพาะเอสเปรสโซ่เย็น ช่วงนี้ขายกันแก้วละ 55 บาทเท่านั้น

ส่วนเครื่องดื่มชานม ชาเขียว ชาไทย ชาผลไม้ มีโปรโมชั่นแก้วละ 18 บาท +ไข่มุกเพิ่ม 5 บาท ส่วนโกปี้ชาชักแก้วละ 25 บาท ส่วนตัวชอบ Southern​ coffee เพราะทุกเมนุรสชาติเขาเข้มข้นกว่าที่อื่นๆ ดื่มเติมพลังในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

Southern​ coffee หน้าโลตัส เอ็กซ์เพรส ทุ่งลุง เปิดบรการกันทุกวัน 08.30-20.00 น. ผ่านไปทางทุ่งลุง หาดใหญ่-สะเดา แวะอุดหนุนแวะชิมกันได้ครับ ​
#13
ยูโอบี เปิดตัวการประกวดจิตรกรรมยูโอบี "เชื่อมศิลปินไทยสู่วงการศิลปะระดับโลก"

ธนาคารยูโอบี ไทย หนุนวงการศิลปะและศิลปินไทยต่อเนื่อง เปิดตัวการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 เชื่อมโยงศิลปินไทยสู่โอกาสในวงการศิลปะระดับโลก พร้อมเชื่อมโลกศิลปะสู่ชุมชนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (ธนาคารยูโอบี (ไทย)) สนับสนุนวงการศิลปะและศิลปินไทยอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 เวทีการประกวดงานจิตรกรรมเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ต่อยอดสู่การประกวดในระดับภูมิภาค เชิญชวนศิลปินมืออาชีพและศิลปินสมัครเล่นสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวดผ่านระบบออนไลน์ (e-submission) ในหัวข้อ"ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" (Solidarity) นับเป็นครั้งแรกของการจัดการประกวดจิตรกรรมยูโอบีที่มีการกำหนดหัวข้อของการประกวด สะท้อนถึงช่วงเวลาที่ทุกคนในสังคมได้ก้าวผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วยพลังบวกและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

การประกวดจิตรกรรมยูโอบี (UOB Painting of the Year) นับเป็นการประกวดงานศิลปะที่ยาวนานที่สุดในประเทศสิงคโปร์และเป็นหนึ่งในการประกวดจิตรกรรมที่ทรงเกียรติที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ธนาคารยูโอบีมุ่งให้การสนับสนุนและค้นพบศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะอันทรงคุณค่าในภูมิภาคอาเซียน

คุณสัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและสนับสนุนธุรกิจธนาคาร ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า"ศิลปะคือความงดงามที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ นำมาซึ่งพลังบวกและความหวัง ซึ่งมีอิทธิพลต่อจิตใจของพวกเราทุกคนอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม เศรษฐกิจไม่เว้นแม้แต่วงการศิลปะ เกิดเป็นความไม่แน่นอนในชีวิตและความหดหู่ในจิตใจ เราเชื่อว่าการประกวดจิตรกรรมยูโอบีในปีนี้จะได้เห็นผลงานสร้างสรรค์ที่เป็นพลังบวกและสื่อถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้คนในสังคมของศิลปินจากทั่วประเทศที่ส่งผลงานเข้าประกวดผ่านทางออนไลน์"

สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวด สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2563 โดยจะมีงานประกาศผลรางวัลในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ www.uob.co.th/poy

ศิลปินไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 จะเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคร่วมกับศิลปินที่ชนะเลิศจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและสิงคโปร์ต่อไป พร้อมโอกาสได้เสริมสร้างประสบการณ์ผ่านโครงการศิลปินในพำนัก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 เดือน

เชื่อมโลกศิลปะสู่โลกดิจิทัล โอกาสที่ไร้พรมแดน ด้วยผลกระทบของโควิด-19 ที่ทำให้ทุกภาคส่วน รวมถึงวงการศิลปะต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่มีการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้กันมากขึ้น ธนาคารยูโอบี (ไทย) ตระหนักถึงความสำคัญในการเสริมทักษะด้านดิจิทัลให้ศิลปินไทย จึงได้จัดทำคลิปวิดีโอให้ความรู้และแรงบันดาลใจในหัวข้อ "My Art. My World. My Digital Gallery. | เปิดสู่โลกกว้างกับดิจิทัลแกลเลอรีของตัวเอง" เพื่อเตรียมความพร้อมให้ศิลปินไทยสามารถใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการแสดงผลงานศิลปะของตัวเองบนโลกออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น อีกทั้งโอกาสในการทำงานร่วมกับแกลเลอรีและแบรนด์ดังระดับโลก โดยมี 5 ศิลปินและภัณฑารักษ์ชื่อดัง พร้อมที่ปรึกษาด้านการตลาด มาบอกเล่าประสบการณ์การใช้สื่อดิจิทัลในการสื่อสาร พร้อมให้ความรู้เบื้องต้นในการสร้างสรรค์เนื้อหาและใช้สื่อดิจิทัลที่เหมาะสม

ในการเปิดตัววันนี้ ยังได้มีการเสวนาถึงความสำคัญของการเชื่อมโลกศิลปะสู่โลกดิจิทัล อิทธิพลของสื่อดิจิทัลที่จะช่วยปูทางศิลปินไทยให้เติบโตและเป็นที่รู้จักในวงการศิลปะระดับภูมิภาค โดยคุณยูน ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินรุ่นใหม่ผู้มีเอกลักษณ์ มีผลงานร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย และคุณแก่ ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง ที่ปรึกษาและเทรนเนอร์ด้านการตลาด

สำหรับศิลปินที่สนใจสามารถเข้าไปเรียนรู้ "My Art. My World. My Digital Gallery. | เปิดสู่โลกกว้างกับดิจิทัลแกลเลอรีของตัวเอง" ได้ที่ www.facebook.com/uob.th หรือ www.uob.co.th/poy

UOB Art Explorer เชื่อมโยงผู้คนในชุมชนผ่านงานศิลปะ

ด้วยผลกระทบของโควิด-19 ที่นำมาซึ่งความไม่แน่นอนและความหดหู่ในจิตใจ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จึงได้เปิดตัว UOB Art Explorer โปรแกรมการเรียนรู้ศิลปะออนไลน์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนและชุมชนได้เข้าถึงประโยชน์จากการสร้างสรรค์และเสพงานศิลป์ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดย UOB Art Explorer จะเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนผ่านงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ อาทิ การสอนเทคนิคศิลปะต่างๆ โดยศิลปินที่ชนะการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ศิลปะเพื่อการบำบัด เรื่องราวจากงานศิลป์ และนิทรรศการเสมือนจริงเป็นต้น

UOB Art Explorer เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการ #รวมใจสู้ไปพร้อมคุณ ที่ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งของธนาคารอาทิ กลุ่มศิลปินผู้ชนะเลิศรางวัลการประกวดจิตรกรรมยูโอบี เพื่อช่วยให้ชุมชน ลูกค้า และพนักงานได้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทายไปสู่ช่วงเวลาที่ดีขึ้นได้ด้วยกัน สำหรับผู้ที่สนใจ UOB Art Explorer สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ www.uob.co.th/uobandart/art-explorer
#14
รับสมัครนักจัดรายการวิทยุ–ดีเจ

สถานี ฮาร์ท เวฟ คลื่นของหัวใจ Heart Wave FM 89.5 MHZ ส่งตรงทุกความรัก.. ฟังชัดทุกหัวใจ

รับสมัครนักจัดรายการวิทยุ–ดีเจ
ไม่จำกัดเพศ
อายุ 22 – 35 ปี
ผู้สนใจและมีใจรักงานทางด้านวิทยุ
มีความคิดสร้างสรรค์
มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง
มีความรับผิดชอบ
สนใจ ส่ง DEMO / Profile  มายัง E-Mail : 895heartwave@gmail.com หรือ INBOX Facebook : HEART WAVE 89.5 แชท LINE : heartwave895

ที่อยู่...
สถานี 2,4,6,8 ถ.โชติวิทยะกุล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สำนักงาน 371 ถ.สามชัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
#15
เตรียมเปิดแผนที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมชุมชน ม.อ.นำร่องร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่

หาดใหญ่ เมืองท่องเที่ยวที่ไม่เคยหับไหลในอดีต กำลังถูกเปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว และยิ่งมาเจอกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักหายไปหมดส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของเมืองโดยตรง

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) คลังข้อมูลความรู้และหน่วยบริการวิชาการที่ใหญ่สุดของภาคใต้  ได้มีการขับเคลื่อนโครงการ "นครหาดใหญ่บนฐานทุนวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์ของชุมชน" ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)โดยได้นำร่องในพื้นที่ 4 ชุมใจกลางเมืองหาดใหญ่ ประกอบด้วย ชุมชนกิมหยงสันติสุข ชุมชนพระเสน่หามนตรี ชุมชนแสงศรี และชุมชนท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง โดยได้เชิญชวนประธานชุมชน ผู้อาวุโสในชุมชน เทศบาลนครหาดใหญ่ และภาคส่วนต่างๆ มาร่วมระดมความคิดเห็น มาร่วมกันนำเสนอจุดขายของแต่ละชุมชน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิสิทธิ์ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารขึ้นชื่อ เพื่อนำมารวบรวมสร้างเป็นจุดขายการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Hatyai Eat Play Love กิน เที่ยว ไหว้ ที่หาดใหญ่

ซึ่งโครงการดังกล่าวเริมดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เสียอีก และการดำเนินงานล่าช้าไปบ้างเนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังม การห้ารวมกลุ่มลงพื้นที่ต่างๆ ทำให้การทำงานล่าช้าไปบ้าง แต่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเครือข่ายวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนากลไกความร่วมมือและส่งเสริมวัฒนธรรมมงคลในหาดใหญ่ อีกครั้งโดยได้มีการนำเสนอแผนที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของชุมชนต่างๆ ทั้ง 4 ชุมชนที่ผ่านการรวบรวม เฟ้นหาเพื่อนำเสนอเป็นเส้นทางท่องเที่ยวต่อไป

ผศ.ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ /หัวหน้าโครงการวิจัยนครหาดใหญ่บนฐานทุนวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์ของชุมชนได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมในครั้งนี้ว่า "ในสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากภัยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ การมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญในการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมาคึกคัก" และได้เชิญชวนประชาชนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในงานวิจัย และร่วมกันเป็นเจ้าของพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่นร่วมกัน เพื่อผลักดันงานวิจัยสู่การนำไปใช้ประโยชน์ต่อชุมชนได้จริง

ซึ่งจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลการจัดทำแผนที่วัฒนธรรมนครหาดใหญ่ ในพื้นที่ 4 ชุมชน ได้มีการปักหมุดสถานที่ต่างๆ ในชุมชน ทั้งสถานที่ศักดิสิทธิ์ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารขึ้นชื่อ และนำมารวบรวมสร้างเป็นจุดขายการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Hatyai Eat Play Love กิน เที่ยว ไหว้ ที่หาดใหญ่ ซึ่งการระดมข้อมูลจนนำมาสู่การจัดทำแผนที่ในเบื้องต้นออกมาแล้ว และได้นำมาให้ชุมชชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อตกผลึกข้อมูลอีกครั้ง จากนั้นจพนำมาขยายสู่การสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นำมาสู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่อย่างยั่งยืน ซึ่งการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวจะออกมาในรูปแบบใดบ้างทีมงานจะติดตามมานำเสนอกันต่อไป

ต้อม รัตภูมิ 0897384215 รายงาน